นครสวรรค์-หญิงสาววัย 29 ปีสุดโหด รับสารภาพวางแผนฆ่าน้องชาย ผบช.ปส. เอาน้ำผสมยาฆ่าแมลงให้ดื่ม ก่อนให้โจ๋ 19 ปี ใช้มีดแทงจนเสียชีวิต นำศพไปทิ้งป่ากำแพงเพชร แล้วเอารถไปเผาอำพราง
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการติดตามจับกุมคนร้ายอุ้มฆ่านายรภิน หรือดำรง กลิ่นเกสร อายุ 50 ปีเศษ อยู่บ้านเลขที่ 100/1 หมู่ 6 ต.พนมเศษ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นน้องชาย พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกสร ผบช.ปส.ว่า พ.ต.อ.สุกฤษฎ์ บุญทรง รอง ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์และ พ.ต.อ.เทียนชัย วิเศษเกรียงไกร ผกก.กก.สส.ภ.จว.นครสวรรค์, พ.ต.ท.จิระศักดิ์ มหึเมือง รอง ผกก.กก.สส. พร้อมทีมเจ้าหน้าที่ได้ประชุมร่วมกับตำรวจ สภ.บรรพตพิสัย เพื่อวางแผนคลี่คลายคดีโดยด่วนตั้งแต่เวลา 22.00 น. ของคืนวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังติดตามควบคุมตัวนางรสรินทร์ ฉันทกูล อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/7 หมู่ 10 ต.นครสวรรค์ตก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ พร้อมนางรจนา ฉันทกูล แม่ของนางรสรินทร์ ขณะกำลังไปไหว้เจดีย์พระสุริโยทัย ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา
ต่อมาเวลา 23.00 น. นางรสรินทร์ ทนแรงกดดันของเจ้าหน้าที่ไม่ไหวจึงได้ยอมรับว่านายรภิณ กลิ่นเกษร เสียชีวิตจากการถูกนายอดิศร ขจรเกียรติสกุล หรือเพชร อายุ 19 ปี ใช้มีดแทงเข้าบริเวณลำคอด้านหน้า 1 แผล และบริเวณแขนซ้าย 2 แผล นำศพไปทิ้งในพื้นที่ ต.ป่าพุทรา อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร และได้นำรถของผู้ตายไปเผาทิ้งที่บริเวณ ต.ตาขีด อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ เพื่ออำพรางคดี
นางรสรินทร์ รับสารภาพอีกว่า ก่อนที่จะฆ่านายรภิณ ได้นัดมาเจอกันที่วัดเกาะฝ้าย อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร แล้วได้คุยกัน พร้อมทั้งได้นำน้ำที่ตนผสมยาฆ่าแมลงไว้ให้นายรภิณดื่ม จากนั้นได้ให้นายอดิศร เข้ามาใช้มีดแทงบริเวณลำคอ พร้อมทั้งให้นำศพไปทิ้งในบริเวณที่ไม่มีคนพบเห็น ส่วนรถยนต์มีเลือดอยู่มากจึงได้ทำการเผาทิ้งเพื่ออำพรางคดี
ต่อมาเวลา 00.00 น. วานนี้ (30 เม.ย.) พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร ผบช.ปส., พล.ต.ต.เฉลิม สุวรรณรัตน์โอสถ ผบก.สส.ภ.6, พ.ต.อ.ดำรงค์ เพชรพงศ์ ผบก.ประจำ ภ.6, พ.ต.อ.เทียนชัย วิเศษเกรียงไกร ผกก.กก.สส.ภ.จว.นครสวรรค์, พ.ต.ท.จิระศักดิ์ มหึเมือง รอง ผกก.กก.สส. ได้ลงพื้นที่ ต.ป่าพุทรา อ.ขาณุวรลักษบุรี นำนางรสรินทร์ไปค้นหาศพนายรภิณ พบศพในสภาพนอนหงายอยู่ในพงหญ้ารกร้างใกล้กองขยะบนเชิงเขากระล่อน เบื้องต้นให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาเก็บหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุไปตรวจสอบ
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมนายอดิศณ เด็กรับรถของโรงแรมเดอะพาราดิโซในตัวเมืองนครสวรรค์ ได้ที่หน้าโรงแรมเดอะพาราดิโซ มาสอบสวนให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่านายรภิณ แล้วนำศพไปทิ้งบริเวณกองขยะบนเชิงเขากระล่อน อ.ขาณุวรลักษณ์ ส่วนผู้ต้องสงสัยอีก 2 คน ซึ่งเป็นคนขับรถกระบะโตโยต้า วีโก้ และอีกคนที่นั่งไปด้วย อยู่ระหว่างหลบหนี ซึ่งจะมีการออกหมายจับต่อไป
ทั้งนี้ มีรายงานว่า สาเหตุการฆ่าโหดครั้งนี้เกิดขึ้นหลังนายรภิณ ได้ให้เงินหญิงสาวรายหนึ่งยืมไปจำนวน 50,000 บาท และได้มีการนัดพบกับหญิงคนดังกล่าวเพื่อรับเงินคืน แต่กลับถูกลวงมาสังหารโหด ขณะที่นางรสรินทร์ ให้การยอมรับว่า รู้จักและมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกันมานานแล้ว และได้ขอยืมเงินจากนายรภิณมา 30,000 บาทเท่านั้น
วันเดียวกันนี้ ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดนครสวรรค์ และตำรวจ สภ.บรรพตพิสัย นำ น.ส.รสรินทร์ และนายอดิศร ขจรเกียรติสกุล หรือเพชร อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาคดีร่วมกันวางแผนฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตามจุดต่างๆ ทั้งใน จ.นครสวรรค์ และ จ.กำแพงเพชร หลังทั้งคู่ก่อคดีฆ่าโหดและเผารถของนายรภิน
ทั้งนี้ ทั้งคู่ให้การรับสารภาพว่าสาเหตุการฆาตกรรมครั้งนี้ เนื่องจากต้องการเงิน เพราะเห็นผู้ตายใส่ทองเส้นใหญ่ และมักจะพกเงินจำนวนมาก และน.ส.รสรินทร์ ยังติดหนี้นายรภินอยู่จำนวน 40,000 บาท และเป็นหนี้พี่สาวของนายอดิศรอีกเกือบแสนบาท โดยหลังการทำแผนประกอบคำรับสารภาพตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดนครสวรรค์ส่งตัวทั้งคู่ให้ตำรวจ สภ.บรรพตพิสัย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการติดตามจับกุมคนร้ายอุ้มฆ่านายรภิน หรือดำรง กลิ่นเกสร อายุ 50 ปีเศษ อยู่บ้านเลขที่ 100/1 หมู่ 6 ต.พนมเศษ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นน้องชาย พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกสร ผบช.ปส.ว่า พ.ต.อ.สุกฤษฎ์ บุญทรง รอง ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์และ พ.ต.อ.เทียนชัย วิเศษเกรียงไกร ผกก.กก.สส.ภ.จว.นครสวรรค์, พ.ต.ท.จิระศักดิ์ มหึเมือง รอง ผกก.กก.สส. พร้อมทีมเจ้าหน้าที่ได้ประชุมร่วมกับตำรวจ สภ.บรรพตพิสัย เพื่อวางแผนคลี่คลายคดีโดยด่วนตั้งแต่เวลา 22.00 น. ของคืนวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังติดตามควบคุมตัวนางรสรินทร์ ฉันทกูล อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/7 หมู่ 10 ต.นครสวรรค์ตก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ พร้อมนางรจนา ฉันทกูล แม่ของนางรสรินทร์ ขณะกำลังไปไหว้เจดีย์พระสุริโยทัย ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา
ต่อมาเวลา 23.00 น. นางรสรินทร์ ทนแรงกดดันของเจ้าหน้าที่ไม่ไหวจึงได้ยอมรับว่านายรภิณ กลิ่นเกษร เสียชีวิตจากการถูกนายอดิศร ขจรเกียรติสกุล หรือเพชร อายุ 19 ปี ใช้มีดแทงเข้าบริเวณลำคอด้านหน้า 1 แผล และบริเวณแขนซ้าย 2 แผล นำศพไปทิ้งในพื้นที่ ต.ป่าพุทรา อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร และได้นำรถของผู้ตายไปเผาทิ้งที่บริเวณ ต.ตาขีด อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ เพื่ออำพรางคดี
นางรสรินทร์ รับสารภาพอีกว่า ก่อนที่จะฆ่านายรภิณ ได้นัดมาเจอกันที่วัดเกาะฝ้าย อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร แล้วได้คุยกัน พร้อมทั้งได้นำน้ำที่ตนผสมยาฆ่าแมลงไว้ให้นายรภิณดื่ม จากนั้นได้ให้นายอดิศร เข้ามาใช้มีดแทงบริเวณลำคอ พร้อมทั้งให้นำศพไปทิ้งในบริเวณที่ไม่มีคนพบเห็น ส่วนรถยนต์มีเลือดอยู่มากจึงได้ทำการเผาทิ้งเพื่ออำพรางคดี
ต่อมาเวลา 00.00 น. วานนี้ (30 เม.ย.) พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร ผบช.ปส., พล.ต.ต.เฉลิม สุวรรณรัตน์โอสถ ผบก.สส.ภ.6, พ.ต.อ.ดำรงค์ เพชรพงศ์ ผบก.ประจำ ภ.6, พ.ต.อ.เทียนชัย วิเศษเกรียงไกร ผกก.กก.สส.ภ.จว.นครสวรรค์, พ.ต.ท.จิระศักดิ์ มหึเมือง รอง ผกก.กก.สส. ได้ลงพื้นที่ ต.ป่าพุทรา อ.ขาณุวรลักษบุรี นำนางรสรินทร์ไปค้นหาศพนายรภิณ พบศพในสภาพนอนหงายอยู่ในพงหญ้ารกร้างใกล้กองขยะบนเชิงเขากระล่อน เบื้องต้นให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาเก็บหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุไปตรวจสอบ
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมนายอดิศณ เด็กรับรถของโรงแรมเดอะพาราดิโซในตัวเมืองนครสวรรค์ ได้ที่หน้าโรงแรมเดอะพาราดิโซ มาสอบสวนให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่านายรภิณ แล้วนำศพไปทิ้งบริเวณกองขยะบนเชิงเขากระล่อน อ.ขาณุวรลักษณ์ ส่วนผู้ต้องสงสัยอีก 2 คน ซึ่งเป็นคนขับรถกระบะโตโยต้า วีโก้ และอีกคนที่นั่งไปด้วย อยู่ระหว่างหลบหนี ซึ่งจะมีการออกหมายจับต่อไป
ทั้งนี้ มีรายงานว่า สาเหตุการฆ่าโหดครั้งนี้เกิดขึ้นหลังนายรภิณ ได้ให้เงินหญิงสาวรายหนึ่งยืมไปจำนวน 50,000 บาท และได้มีการนัดพบกับหญิงคนดังกล่าวเพื่อรับเงินคืน แต่กลับถูกลวงมาสังหารโหด ขณะที่นางรสรินทร์ ให้การยอมรับว่า รู้จักและมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกันมานานแล้ว และได้ขอยืมเงินจากนายรภิณมา 30,000 บาทเท่านั้น
วันเดียวกันนี้ ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดนครสวรรค์ และตำรวจ สภ.บรรพตพิสัย นำ น.ส.รสรินทร์ และนายอดิศร ขจรเกียรติสกุล หรือเพชร อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาคดีร่วมกันวางแผนฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตามจุดต่างๆ ทั้งใน จ.นครสวรรค์ และ จ.กำแพงเพชร หลังทั้งคู่ก่อคดีฆ่าโหดและเผารถของนายรภิน
ทั้งนี้ ทั้งคู่ให้การรับสารภาพว่าสาเหตุการฆาตกรรมครั้งนี้ เนื่องจากต้องการเงิน เพราะเห็นผู้ตายใส่ทองเส้นใหญ่ และมักจะพกเงินจำนวนมาก และน.ส.รสรินทร์ ยังติดหนี้นายรภินอยู่จำนวน 40,000 บาท และเป็นหนี้พี่สาวของนายอดิศรอีกเกือบแสนบาท โดยหลังการทำแผนประกอบคำรับสารภาพตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดนครสวรรค์ส่งตัวทั้งคู่ให้ตำรวจ สภ.บรรพตพิสัย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป