เมื่อเวลา 14.00 น. วานนี้ (30 เม.ย.) ที่โรงละครแห่งชาติ ถนนราชินี เขตพระนคร กทม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคสช. เป็นประธานในพิธีเปิดงาน "รักษ์โลก รักษ์ไทย ในหัวใจสีเขียว" เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสมหามงคล ทรงเจริญพระชนมายุ 5 รอบ
โอกาสนี้ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ได้นำคณะผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ขับร้องบทเพลง "จำขึ้นใจ" ของศิลปิน สุรักษ์ สุขเสวี ซึ่งมีเนื้อหาแสดงถึงความภาคภูมิใจของข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ บทเพลง "ป่าลั่น" ของศิลปิน สุเทพ วงศ์กำแหง ที่มีเนื้อหาสะท้อนถึงความสำคัญอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเปิดงานว่า วันนี้เราต้องทำงานร่วมกันเพื่อประเทศต่อไป และยินดีที่ได้มีโอกาสมาเปิดงานวันนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสมหามงคลทรงเจริญพระชนมายุ 5 รอบ ซึ่งพระองค์ทรงเป็นเจ้าฟ้าของปวงชนชาวไทย และได้ตรากตรำ ทำพระราชกรณียกิจเสด็จไปทุกที่ มากว่า 10 ปี ตามรอยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และทรงเป็นนักพัฒนาวางรากฐานเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติของไทย พยายามลดผลกระทบต่างๆ เพื่อให้ประชาชนมีความสุข และทำให้ทุกภาคส่วนเห็นคุณค่าและ ความสำคัญของการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องการกำจัดขยะ ถือเป็นปัญหาเรื้อรัง ที่ผ่านมาแก้มาหลายรัฐบาล หลายการเลือกตั้ง แต่เมื่อตนเข้ามา 6-8 เดือน ก็ได้สั่งการให้ดำเนินการทันที ไม่อยากให้ใช้คำว่า นำร่องไปจนแก่ตาย เพราะนำร่องไปก็ไม่เสร็จเสียที ถ้ายิ่งทำช้า ขยะก็ยิ่งมากขึ้น จึงต้องขอความร่วมมือจากประชาชนด้วย เพราะเรื่องขยะ เป็นเรื่องที่มีผลกระทบ ทั้งโรคภัย ความสะอาด ความเป็นระเบียบและส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศในสายตาต่างชาติ รัฐบาลจึงมอบหมายให้ ทส. จัดการขยะมูลฝอย เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยบูรณาการทุกภาคส่วน เพราะถ้าต่างคนต่างทำก็ไม่เป็นรูปธรรม จึงได้สั่งการให้เร่งกำจัดขยะมูลฝอยสะสม จัดระเบียบมาตรการกำจัดขยะ ของเสีย และของอันตราย โดยทั้งหมดต้องเริ่มจากการปลูกจิตสำนึก และเริ่มทำจากที่บ้าน และในส่วนของรัฐบาลจะใช้เวลาที่มีในการแก้ปัญหาให้ได้
" วันข้างหน้าอาเซียนอาจมีการรบกันเรื่องน้ำ เพราะป่าน้อยลง โลกเปลี่ยนแปลง แต่ก็ถือเป็นวงจรมันก็เหมือนชีวิตที่มีเจริญ ก็มีเสื่อม มีอำนาจ ก็มีหมดอำนาจ แต่ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองมีอำนาจ อำนาจอยู่ที่ท่านทั้งหมด ท่านมีอำนาจมากกว่าผม เพราะสามารถบังคับผมให้ทำโน่น ทำนี่ได้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การลดปริมาณขยะเป็นงานต่อเนื่อง เชื่อมโยงกับการวิจัย และพัฒนา เราจึงต้องสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ให้ได้ ซึ่งเรื่องขยะ เป็นเรื่องหลักที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ซึ่งเรื่องขยะถือเป็น 1 ใน 400 เรื่องที่รัฐบาลกระจายอำนาจไปให้อปท. ถ้ากระจายอำนาจมากกว่านี้ ก็ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น เพราะที่ผ่านมาอ้างแต่ว่า ไม่มีงบประมาณ ซึ่งท้องถิ่นก็ต้องรู้หน้าที่ของตัวเอง ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นพื้นที่ของการเมืองไปหมด เช่น ชาวนาที่มีร้อยกว่ากลุ่ม แต่รวมกันมาไม่ได้สักที เพราะมัวแต่รอกลุ่มการเมือง แต่เวลานี้เราต้องมาช่วยกันปฏิรูป
"อยากให้คนไทยรักชาติ รักแผ่นดิน ข้าราชการต้องทำงานร่วมกัน เราต้องช่วยกันลดความขัดแย้งทั้งปวง ทำอย่างไรให้ลดขยะเคลื่อนที่ ต้องให้ขยะมนุษย์หมดไป จากประเทศให้ได้ วันนี้ผมบริหารราชการต้องฟังทุกคน วันนี้บริหารประเทศ ผมคิดเอง อ่านข่าว อ่านหนังสือพิมพ์ ฟังทั้งคนด่า คนชม ฟังมากก็หงุดหงิดมาก แต่ยืนยันว่า เราทำมาเยอะ อย่าไปโทษข้าราชการ เพราะความรับผิดชอบอยู่ที่รัฐบาล บ้านเมืองจะดีหรือไม่ดี ก็อยู่ที่รัฐบาล เพราะใช้อำนาจที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้มา ทั้ง 3 อำนาจ ถึงผมจะไม่ได้เข้ามาด้วยการเลือกตั้ง แต่ทุกวันนี้ ยังไม่เคยทำอะไรให้เสียหาย ไปต่างประเทศในช่วงแรก ก็ไม่มีใครรู้จักผม รู้จักแต่นายกฯ คนสวย นายกฯ คนหล่อ คนอื่นมอง ก็คิดว่าไอนี่มันบ้าหรือไง ผมก็ต้องสู้ แสดงความจริงใจในการทำงาน และเสนอการทำงานเชิงรุก ให้เขาตามเราบ้าง และเรื่องขอให้เราเป็นประชาธิปไตยอย่างรวดเร็ว ก็ไม่ถามมาอีก เพราะผมถามกลับไปว่าประชาธิปไตยอย่างรวดเร็ว คือ อะไร และได้ระบุไปว่า การเลือกตั้งของไทยไม่เหมือนใครในโลก มียิงกัน ต่อสู้ และมีระเบิดด้วย ต่อไปจะเกิดขึ้นอีกไหม สถานการณ์ตอนนี้สงบจริงหรือไม่ ผมไม่ได้รังเกียจที่ต้องเป็นประชาธิปไตย แต่จะทำอย่างไรให้ประชาธิปไตยทำให้คนไทยมีความสุข เคารพกฎหมาย และ เชิดชูพระมหากษัตริย์"
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ตั้งแต่ตนเข้ามา ในวันที่ 22 พ.ค. 57 ได้เห็นอะไรมากมาย และถ้าไม่ใช้โอกาสนี้ ในการปฏิรูป ก็จะทำให้บ้านเมืองถอยหลัง เราต้องทุ่มเทมากกว่านี้ แต่ถ้าทุกคนช่วยกัน ก็ไปได้ ทุกรัฐบาลมีหน้าที่ในการบริหารรมชการแผ่นดิน โดยมีข้าราชการและประชาชนร่วมกัน แต่หากเลือกข้างประเทศก็ไปไม่ได้ วันนี้ต้องพัฒนาทุกเรื่อง และต้องใช้เวลาพอสมควร แต่เราก็ต้องมีการเลือกตั้ง วันนี้ตนเริ่มให้ทุกเรื่อง อาจจะดูไม่เกิดผล เพราะคนไทยใจร้อน ชอบพูดมากกว่าฟัง แต่ต้องให้กำลังใจกัน พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า วันนี้ได้ฟังข้าราชการ ทส. ร้องเพลงป่าลั่น ก็ขอให้รักษาป่าให้ได้แล้วกัน ส่วนตนก็ขอสัญญาว่า จะทำให้ดีที่สุด จนกว่าจะทำไม่ได้ ตราบใดที่ทำได้จะทำให้ทั้งหมด ขอบคุณทุกคน
โอกาสนี้ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ได้นำคณะผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ขับร้องบทเพลง "จำขึ้นใจ" ของศิลปิน สุรักษ์ สุขเสวี ซึ่งมีเนื้อหาแสดงถึงความภาคภูมิใจของข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ บทเพลง "ป่าลั่น" ของศิลปิน สุเทพ วงศ์กำแหง ที่มีเนื้อหาสะท้อนถึงความสำคัญอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเปิดงานว่า วันนี้เราต้องทำงานร่วมกันเพื่อประเทศต่อไป และยินดีที่ได้มีโอกาสมาเปิดงานวันนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสมหามงคลทรงเจริญพระชนมายุ 5 รอบ ซึ่งพระองค์ทรงเป็นเจ้าฟ้าของปวงชนชาวไทย และได้ตรากตรำ ทำพระราชกรณียกิจเสด็จไปทุกที่ มากว่า 10 ปี ตามรอยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และทรงเป็นนักพัฒนาวางรากฐานเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติของไทย พยายามลดผลกระทบต่างๆ เพื่อให้ประชาชนมีความสุข และทำให้ทุกภาคส่วนเห็นคุณค่าและ ความสำคัญของการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องการกำจัดขยะ ถือเป็นปัญหาเรื้อรัง ที่ผ่านมาแก้มาหลายรัฐบาล หลายการเลือกตั้ง แต่เมื่อตนเข้ามา 6-8 เดือน ก็ได้สั่งการให้ดำเนินการทันที ไม่อยากให้ใช้คำว่า นำร่องไปจนแก่ตาย เพราะนำร่องไปก็ไม่เสร็จเสียที ถ้ายิ่งทำช้า ขยะก็ยิ่งมากขึ้น จึงต้องขอความร่วมมือจากประชาชนด้วย เพราะเรื่องขยะ เป็นเรื่องที่มีผลกระทบ ทั้งโรคภัย ความสะอาด ความเป็นระเบียบและส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศในสายตาต่างชาติ รัฐบาลจึงมอบหมายให้ ทส. จัดการขยะมูลฝอย เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยบูรณาการทุกภาคส่วน เพราะถ้าต่างคนต่างทำก็ไม่เป็นรูปธรรม จึงได้สั่งการให้เร่งกำจัดขยะมูลฝอยสะสม จัดระเบียบมาตรการกำจัดขยะ ของเสีย และของอันตราย โดยทั้งหมดต้องเริ่มจากการปลูกจิตสำนึก และเริ่มทำจากที่บ้าน และในส่วนของรัฐบาลจะใช้เวลาที่มีในการแก้ปัญหาให้ได้
" วันข้างหน้าอาเซียนอาจมีการรบกันเรื่องน้ำ เพราะป่าน้อยลง โลกเปลี่ยนแปลง แต่ก็ถือเป็นวงจรมันก็เหมือนชีวิตที่มีเจริญ ก็มีเสื่อม มีอำนาจ ก็มีหมดอำนาจ แต่ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองมีอำนาจ อำนาจอยู่ที่ท่านทั้งหมด ท่านมีอำนาจมากกว่าผม เพราะสามารถบังคับผมให้ทำโน่น ทำนี่ได้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การลดปริมาณขยะเป็นงานต่อเนื่อง เชื่อมโยงกับการวิจัย และพัฒนา เราจึงต้องสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ให้ได้ ซึ่งเรื่องขยะ เป็นเรื่องหลักที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ซึ่งเรื่องขยะถือเป็น 1 ใน 400 เรื่องที่รัฐบาลกระจายอำนาจไปให้อปท. ถ้ากระจายอำนาจมากกว่านี้ ก็ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น เพราะที่ผ่านมาอ้างแต่ว่า ไม่มีงบประมาณ ซึ่งท้องถิ่นก็ต้องรู้หน้าที่ของตัวเอง ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นพื้นที่ของการเมืองไปหมด เช่น ชาวนาที่มีร้อยกว่ากลุ่ม แต่รวมกันมาไม่ได้สักที เพราะมัวแต่รอกลุ่มการเมือง แต่เวลานี้เราต้องมาช่วยกันปฏิรูป
"อยากให้คนไทยรักชาติ รักแผ่นดิน ข้าราชการต้องทำงานร่วมกัน เราต้องช่วยกันลดความขัดแย้งทั้งปวง ทำอย่างไรให้ลดขยะเคลื่อนที่ ต้องให้ขยะมนุษย์หมดไป จากประเทศให้ได้ วันนี้ผมบริหารราชการต้องฟังทุกคน วันนี้บริหารประเทศ ผมคิดเอง อ่านข่าว อ่านหนังสือพิมพ์ ฟังทั้งคนด่า คนชม ฟังมากก็หงุดหงิดมาก แต่ยืนยันว่า เราทำมาเยอะ อย่าไปโทษข้าราชการ เพราะความรับผิดชอบอยู่ที่รัฐบาล บ้านเมืองจะดีหรือไม่ดี ก็อยู่ที่รัฐบาล เพราะใช้อำนาจที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้มา ทั้ง 3 อำนาจ ถึงผมจะไม่ได้เข้ามาด้วยการเลือกตั้ง แต่ทุกวันนี้ ยังไม่เคยทำอะไรให้เสียหาย ไปต่างประเทศในช่วงแรก ก็ไม่มีใครรู้จักผม รู้จักแต่นายกฯ คนสวย นายกฯ คนหล่อ คนอื่นมอง ก็คิดว่าไอนี่มันบ้าหรือไง ผมก็ต้องสู้ แสดงความจริงใจในการทำงาน และเสนอการทำงานเชิงรุก ให้เขาตามเราบ้าง และเรื่องขอให้เราเป็นประชาธิปไตยอย่างรวดเร็ว ก็ไม่ถามมาอีก เพราะผมถามกลับไปว่าประชาธิปไตยอย่างรวดเร็ว คือ อะไร และได้ระบุไปว่า การเลือกตั้งของไทยไม่เหมือนใครในโลก มียิงกัน ต่อสู้ และมีระเบิดด้วย ต่อไปจะเกิดขึ้นอีกไหม สถานการณ์ตอนนี้สงบจริงหรือไม่ ผมไม่ได้รังเกียจที่ต้องเป็นประชาธิปไตย แต่จะทำอย่างไรให้ประชาธิปไตยทำให้คนไทยมีความสุข เคารพกฎหมาย และ เชิดชูพระมหากษัตริย์"
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ตั้งแต่ตนเข้ามา ในวันที่ 22 พ.ค. 57 ได้เห็นอะไรมากมาย และถ้าไม่ใช้โอกาสนี้ ในการปฏิรูป ก็จะทำให้บ้านเมืองถอยหลัง เราต้องทุ่มเทมากกว่านี้ แต่ถ้าทุกคนช่วยกัน ก็ไปได้ ทุกรัฐบาลมีหน้าที่ในการบริหารรมชการแผ่นดิน โดยมีข้าราชการและประชาชนร่วมกัน แต่หากเลือกข้างประเทศก็ไปไม่ได้ วันนี้ต้องพัฒนาทุกเรื่อง และต้องใช้เวลาพอสมควร แต่เราก็ต้องมีการเลือกตั้ง วันนี้ตนเริ่มให้ทุกเรื่อง อาจจะดูไม่เกิดผล เพราะคนไทยใจร้อน ชอบพูดมากกว่าฟัง แต่ต้องให้กำลังใจกัน พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า วันนี้ได้ฟังข้าราชการ ทส. ร้องเพลงป่าลั่น ก็ขอให้รักษาป่าให้ได้แล้วกัน ส่วนตนก็ขอสัญญาว่า จะทำให้ดีที่สุด จนกว่าจะทำไม่ได้ ตราบใดที่ทำได้จะทำให้ทั้งหมด ขอบคุณทุกคน