เมื่อเวลา 13.00 น. วานนี้ (23 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล มล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในการบรรยายพิเศษ หัวข้อ"วิชาชีวิต วิชาของพ่อ วิชาแห่งความสุข" ให้กับคณะยุวชนประชาธิปไตย รุ่นที่ 2 จำนวน 160 คน ได้ฟังในโอกาสที่ คณะยุวชนฯ เข้าเยี่ยมชม และศึกษาดูงานที่ทำเนียบรัฐบาล โดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ย้ำให้ใช้ชีวิตโดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสอนให้มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และรักประเทศชาติด้วยการประพฤติตนเป็นคนดี
นอกจากนี้ ม.ล.ปนัดดา ยังได้ยกพระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ความว่า "ชาติใดไร้รักสมัครสมาน จะทำการสิ่งใดก็ไร้ผล แม้ชาติย่อยยับอับจน บุคคลจะสุขอยู่อย่างไร" มาให้คณะยุวชนได้ฟัง และระบุว่า ความเป็นประเทศไทย ไม่เคยมีการแบ่งแยกเหมือนที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บอกเสมอว่า ประเทศเราแยกกันไม่ได้ จะมาบอกว่าแยกมาเป็นประเทศนั้น แคว้นนั้น ไม่ได้ ซึ่งตนฟังแล้วก็คิดว่า เป็นความคิดที่ไม่มีความรับผิดชอบ อีกทั้งเคยมีพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ซึ่งตนไม่ขอเอ่ยว่าพรรคไหน เคยบอกว่าหากจังหวัดนี้ไม่เลือกพรรคเรา ระวังให้ดี จังหวัดนี้รัฐบาลจะไม่ส่งเงินไปสนับสนุนโครงการต่างๆ ซึ่งเป็นคำพูดที่ขาดความรับผิดชอบ
ทั้งนี้ การเลือกตั้งแม้เป็นปัจเจกบุคคล แต่การเป็นรัฐบาลต้องเป็นรัฐบาลที่ต้องช่วยเหลือประชาชนโดยปราศจากการเลือกปฏิบัติ ภายใต้แผนของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)
ม.ล.ปนัดดา กล่าวด้วยว่า หลายคนถามว่า ยุคนี้เป็นยุคของประชาธิปไตย หรือไม่ ก็ให้บอกเขาไปว่า เป็นยุคของการหยุดความแตกแยกและยุคที่มีความซื่อสัตย์ ซึ่งตรงกับแนวคิดของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้มีการพูดจาหารือกัน เพื่อหาทางออก และสร้างให้เกิดความปรองดองในชาติ
นอกจากนี้ ในการการติดตามข่าวสารในโซเชียลมีเดีย ต้องใช้วิจารณญาณ ไม่ใช่ว่าจะแชร์ข้อความแบบสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะสังคมโลกออนไลน์ มีทั้งข้อดี คือรวดเร็วฉับพลัน แต่ข้อเสียคือ ต้องระวังการป้อนข้อมูลที่เป็นเท็จด้วย
นอกจากนี้ ม.ล.ปนัดดา ยังได้ยกพระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ความว่า "ชาติใดไร้รักสมัครสมาน จะทำการสิ่งใดก็ไร้ผล แม้ชาติย่อยยับอับจน บุคคลจะสุขอยู่อย่างไร" มาให้คณะยุวชนได้ฟัง และระบุว่า ความเป็นประเทศไทย ไม่เคยมีการแบ่งแยกเหมือนที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บอกเสมอว่า ประเทศเราแยกกันไม่ได้ จะมาบอกว่าแยกมาเป็นประเทศนั้น แคว้นนั้น ไม่ได้ ซึ่งตนฟังแล้วก็คิดว่า เป็นความคิดที่ไม่มีความรับผิดชอบ อีกทั้งเคยมีพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ซึ่งตนไม่ขอเอ่ยว่าพรรคไหน เคยบอกว่าหากจังหวัดนี้ไม่เลือกพรรคเรา ระวังให้ดี จังหวัดนี้รัฐบาลจะไม่ส่งเงินไปสนับสนุนโครงการต่างๆ ซึ่งเป็นคำพูดที่ขาดความรับผิดชอบ
ทั้งนี้ การเลือกตั้งแม้เป็นปัจเจกบุคคล แต่การเป็นรัฐบาลต้องเป็นรัฐบาลที่ต้องช่วยเหลือประชาชนโดยปราศจากการเลือกปฏิบัติ ภายใต้แผนของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)
ม.ล.ปนัดดา กล่าวด้วยว่า หลายคนถามว่า ยุคนี้เป็นยุคของประชาธิปไตย หรือไม่ ก็ให้บอกเขาไปว่า เป็นยุคของการหยุดความแตกแยกและยุคที่มีความซื่อสัตย์ ซึ่งตรงกับแนวคิดของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้มีการพูดจาหารือกัน เพื่อหาทางออก และสร้างให้เกิดความปรองดองในชาติ
นอกจากนี้ ในการการติดตามข่าวสารในโซเชียลมีเดีย ต้องใช้วิจารณญาณ ไม่ใช่ว่าจะแชร์ข้อความแบบสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะสังคมโลกออนไลน์ มีทั้งข้อดี คือรวดเร็วฉับพลัน แต่ข้อเสียคือ ต้องระวังการป้อนข้อมูลที่เป็นเท็จด้วย