ฉะเชิงเทรา - คุมตัว 5 เด็กแว้นกระทืบ สวป.พนมสารคาม ส่งฝากขังศาลจังหวัดฉะเชิงเทราแล้ว 3 คน ส่วนอีก 2 ส่งสถานพินิจเด็กและเยาวชน พร้อมคัดค้านการให้ประกันตัวหัวโจก สภ.พนมสารคามมอบสินน้ำใจเด็กปั๊มพร้อมใบประกาศเกียรติคุณเชิดชูคนดี
วานนี้ (14 เม.ย.) พ.ต.อ.สงคราม เสงี่ยมพักตร์ ผกก.สภ.พนมสารคาม ได้เดินทางเข้ามายังที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.รุ่งพิทักษ์ 1 ตั้งอยู่ริมถนนสาย 304 กบินทร์บุรี-พนมสารคาม ด้านฝั่งขาเข้า เลขที่ 107 ม.4 ต.เมืองเก่า อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อมอบประกาศเกียรติคุณยกย่องเชิดชูเกียรติคนดีของสถานีตำรวจภูธรพนมสารคาม พร้อมเงินรางวัลน้ำใจจำนวนหนึ่งให้แก่ น.ส.บุศรินทร์ จงประสพโชคชัย อายุ 17 ปี 10 เดือน อยู่บ้านเลขที่14/1 ม.8 ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา พนักงานเติมน้ำมันภายในปั้ม ที่ได้เข้าไปให้การช่วยเหลือกระชากแขนคนร้ายที่กำลังลงมือทำร้ายร่างกาย พ.ต.ท.กฤษณ์ บุญเรืองคณาภรณ์ สวป.สภ.พนมสารคาม จากทางด้านหลัง ขณะกำลังเข้าทำการตรวจยึดรถจักรยานยนต์ดัดแปลงสภาพผิดกฎหมาย
นอกจากนั้น ยังได้มอบเงินรางวัลและมอบประกาศเกียรติคุณยกย่องเชิดชูเกียรติคนดีให้แก่นายโด ติว อายุ 24 ปี พนักงานเติมน้ำมัน ซึ่งเป็นสาวประเภทสองชาวเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ที่ได้วิ่งเข้ามาสมทบและให้การช่วยเหลืออีกแรงหนึ่งในขณะเกิดเหตุ
ส่วนการดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาทั้ง 5 คนนั้น พ.ต.อ.สงคราม กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เปิดทำการเป็นเวลาครึ่งวัน โดย ร.ต.ท.บุญเลิศ มุกดาสนิท พนักงานสอบสวนผู้ทำคดีจึงได้เข้ายื่นขอส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วฝากขังยังศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา
พร้อมได้ให้พนักงานสอบสวนยื่นขอคัดค้านการประกันตัว นายคมสันต์ จันทร์ศรี หรือ เบิร์ด อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นหัวโจกเนื่องจากเกรงว่าหากศาลให้ประกันตัวออกมาได้ก็อาจจะเกิดปัญหาขึ้นภายหลังได้ ส่วนผู้ต้องหาอีกสองคนนั้นยังเป็นเยาวชนอยู่ จึงได้ส่งไปยังสถานพินิจเด็กและเยาวชน
สำหรับข้อกล่าวหาของผู้ต้องหาทั้ง 5 คนนั้นยังคงเป็นข้อหา “ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ขณะปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้าย” ส่วนข้อหาอื่นเพิ่มเติมนั้น ต้องขอรอดูอาการของผู้บาดเจ็บต่อไปก่อน ว่าจะมีการแจ้งเพิ่มเติมในภายหลังหรือไม่
พ.ต.อ.สงคราม กล่าวถึงการตรวจสอบรถจักรยานยนต์ทั้งสองคันที่ทำการตรวจยึดมาได้ พบว่าไม่มีทะเบียนทั้งสองคัน ซึ่งพนักงานสอบสวนกำลังตรวจสอบในระบบของ “โปลิศ” อยู่ว่า เป็นรถที่เคยกระทำผิดมาก่อนหรือไม่ ส่วนเรื่องเกี่ยวกับยาเสพติดนั้น มีเพียงกระแสข่าวมาว่า นายคมสันต์ นั้นเคยมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นเกี่ยวกับเรื่องของสารเสพติดนั้น ยังไม่พบ แต่ได้ส่งประวัติการพิมพ์มือไปยังกองทะเบียนประวัติแล้ว คาดว่าจะมีผลคดีออกมาในเร็วๆ นี้.
วานนี้ (14 เม.ย.) พ.ต.อ.สงคราม เสงี่ยมพักตร์ ผกก.สภ.พนมสารคาม ได้เดินทางเข้ามายังที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.รุ่งพิทักษ์ 1 ตั้งอยู่ริมถนนสาย 304 กบินทร์บุรี-พนมสารคาม ด้านฝั่งขาเข้า เลขที่ 107 ม.4 ต.เมืองเก่า อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อมอบประกาศเกียรติคุณยกย่องเชิดชูเกียรติคนดีของสถานีตำรวจภูธรพนมสารคาม พร้อมเงินรางวัลน้ำใจจำนวนหนึ่งให้แก่ น.ส.บุศรินทร์ จงประสพโชคชัย อายุ 17 ปี 10 เดือน อยู่บ้านเลขที่14/1 ม.8 ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา พนักงานเติมน้ำมันภายในปั้ม ที่ได้เข้าไปให้การช่วยเหลือกระชากแขนคนร้ายที่กำลังลงมือทำร้ายร่างกาย พ.ต.ท.กฤษณ์ บุญเรืองคณาภรณ์ สวป.สภ.พนมสารคาม จากทางด้านหลัง ขณะกำลังเข้าทำการตรวจยึดรถจักรยานยนต์ดัดแปลงสภาพผิดกฎหมาย
นอกจากนั้น ยังได้มอบเงินรางวัลและมอบประกาศเกียรติคุณยกย่องเชิดชูเกียรติคนดีให้แก่นายโด ติว อายุ 24 ปี พนักงานเติมน้ำมัน ซึ่งเป็นสาวประเภทสองชาวเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ที่ได้วิ่งเข้ามาสมทบและให้การช่วยเหลืออีกแรงหนึ่งในขณะเกิดเหตุ
ส่วนการดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาทั้ง 5 คนนั้น พ.ต.อ.สงคราม กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เปิดทำการเป็นเวลาครึ่งวัน โดย ร.ต.ท.บุญเลิศ มุกดาสนิท พนักงานสอบสวนผู้ทำคดีจึงได้เข้ายื่นขอส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วฝากขังยังศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา
พร้อมได้ให้พนักงานสอบสวนยื่นขอคัดค้านการประกันตัว นายคมสันต์ จันทร์ศรี หรือ เบิร์ด อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นหัวโจกเนื่องจากเกรงว่าหากศาลให้ประกันตัวออกมาได้ก็อาจจะเกิดปัญหาขึ้นภายหลังได้ ส่วนผู้ต้องหาอีกสองคนนั้นยังเป็นเยาวชนอยู่ จึงได้ส่งไปยังสถานพินิจเด็กและเยาวชน
สำหรับข้อกล่าวหาของผู้ต้องหาทั้ง 5 คนนั้นยังคงเป็นข้อหา “ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ขณะปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้าย” ส่วนข้อหาอื่นเพิ่มเติมนั้น ต้องขอรอดูอาการของผู้บาดเจ็บต่อไปก่อน ว่าจะมีการแจ้งเพิ่มเติมในภายหลังหรือไม่
พ.ต.อ.สงคราม กล่าวถึงการตรวจสอบรถจักรยานยนต์ทั้งสองคันที่ทำการตรวจยึดมาได้ พบว่าไม่มีทะเบียนทั้งสองคัน ซึ่งพนักงานสอบสวนกำลังตรวจสอบในระบบของ “โปลิศ” อยู่ว่า เป็นรถที่เคยกระทำผิดมาก่อนหรือไม่ ส่วนเรื่องเกี่ยวกับยาเสพติดนั้น มีเพียงกระแสข่าวมาว่า นายคมสันต์ นั้นเคยมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นเกี่ยวกับเรื่องของสารเสพติดนั้น ยังไม่พบ แต่ได้ส่งประวัติการพิมพ์มือไปยังกองทะเบียนประวัติแล้ว คาดว่าจะมีผลคดีออกมาในเร็วๆ นี้.