ศูนย์ข่าวนครราชสีมา-กลุ่มปฏิรูปสหกรณ์ฯ เตรียมหารือฝ่ายกฎหมายแจ้งดำเนินคดีผู้บริหารสหกรณ์ออมทรัพย์ครูโคราช เหตุทำผิดนำเงินไปฝากและให้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นกู้ เสียหายกว่า 600 ล้าน ชี้เมื่อพบไม่ชำระเงินคืนกลับนิ่งเฉยไม่ดำเนินการทางกฎหมาย ลั่นถึงเวลาปฏิรูป หวังให้เป็นโมเดล
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีกลุ่มปฏิรูปสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา นำโดยนายวิทยา ดวงใจ ได้ยื่นญัตติสอบถามเกี่ยวกับประเด็นที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด ได้นำเงินของสหกรณ์ฯ ไปฝากและให้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ที่ประสบวิกฤตปัญหาอยู่ในขณะนี้ กู้ยืมเงินกว่า 600 ล้านบาท รวมถึงการนำเงินไปปล่อยให้สหกรณ์เคหะสถานเมืองโคราช กู้ยืมประมาณ 35 ล้านบาท โดยได้สอบถามว่า ใครเป็นผู้มีอำนาจดำเนินการในเรื่องดังกล่าวและได้อาศัยอำนาจตามข้อบังคับข้อใด หรือระเบียบข้อใด ซึ่งถูกบรรจุเป็นวาระการประชุมสุดท้ายในการประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 2/2558 ที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยมีคณะกรรมการบริหารชุดที่ 57 นายทอง วิริยะจารุ ประธานสหกรณ์ฯ ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ได้ใช้เวลาชี้แจงข้อมูลและตอบข้อซักถามนานกว่า 4 ชั่วโมง ทำการประชุมแล้วเสร็จเมื่อเวลา ประมาณ 15.30 น. ของวานนี้ (8 เม.ย.)
นายทอง กล่าวชี้แจงว่า คณะกรรมการดำเนินการ เป็นผู้มีอำนาจในการดำเนินการนำเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา ไปให้กู้ยืมเงินและนำฝากกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.สหกรณ์ พ.ศ. 2524 ข้อบังคับสหกรณ์ พ.ศ. 2551ระเบียบสหกรณ์และมติคณะกรรมการดำเนินการ ชุดที่ 54 และ 55 ซึ่งไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา แต่อย่างใด
ส่วนกรณีที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา นำเงินไปปล่อยให้สหกรณ์เคหะสถานเมืองโคราชกู้ยืมเงินนั้น คณะกรรมการดำเนินการ เป็นผู้มีอำนาจในการดำเนินการนำเงินของสหกรณ์ไปฝากสหกรณ์เคหะสถานเมืองโคราช โดยอาศัยระเบียบกฎหมายเดียวกันกับกรณีของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่งยืนยันว่าไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อสหกรณ์ฯ แต่อย่างใด
นายวิทยา ดวงใจ แกนนำกลุ่มปฏิรูปสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา กล่าวว่า การตอบข้อซักถามยังไม่กระจ่าง ซึ่งสมาชิกได้สอบถามไปหลายประเด็น แต่คณะกรรมการฯ ก็พยายามเบี่ยงไปประเด็นอื่น โดยเฉพาะประเด็นการนำเงินไปฝากยังสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่นไม่มีระเบียบข้อบังคับหรือกฎหมายใดมารองรับเลย มีเพียงระเบียบให้ที่อื่นนำเงินมาฝากที่สหกรณ์ฯ ได้เท่านั้น และเมื่อพบว่าทางสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นไม่นำเงินมาชำระคืน กรรมการกลับนิ่งเฉยไม่ดำเนินการทางกฎหมายกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ไม่ทราบว่ามีหลังเบื้องลึกอะไรต่อกัน
"จะให้ฝ่ายกฎหมายของทางกลุ่มปฏิรูปสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา สรุปรายละเอียดต่างๆ ที่ทางผู้บริหารฯ ชี้แจง จากนั้นจะหารือกันอีกครั้งในการกำหนดท่าที อาจจะนำไปสู่การแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บริหารสหกรณ์"
นายวิทยา กล่าวอีกว่า สหกรณ์เกิดปัญหาขึ้นเป็นจำนวนมาก แต่สมาชิกไม่สามารถตรวจสอบการทำงานของผู้บริหารได้เลย ที่ผ่านมา มีการใช้อำนาจทุกด้าน ทั้งในทางราชการและเงิน เพื่อให้เข้าไปเป็นกรรมการ เมื่อเข้าไปแล้วก็มีแต่กลุ่มบริหารดำเนินการกัน โดยสมาชิกไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้ามาถ่วงดุลหรือท้วงติงการทำงานของกรรมการได้เลย เช่นการนำเงินไปฝากหรือไปให้ที่อื่นกู้ สมาชิกไม่ทราบมาก่อนและไม่สามารถเข้ามาตรวจสอบได้จนกรรมการดำเนินการไปเสร็จหมดแล้ว
"ถึงเวลาที่เราจะต้องปฏิรูปสหกรณ์เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ถ่วงดุลอำนาจกันและกัน กลุ่มปฏิรูปฯ จึงมุ่งหวังที่จะทำให้สหกรณ์ฯ ครูนครราชสีมา เป็นโมเดลของสหกรณ์ทั่วประเทศ เพื่อเป็นแบบอย่างของสหกรณ์ที่มีหลักธรรมาภิบาล"นายวิทยา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีกลุ่มปฏิรูปสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา นำโดยนายวิทยา ดวงใจ ได้ยื่นญัตติสอบถามเกี่ยวกับประเด็นที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด ได้นำเงินของสหกรณ์ฯ ไปฝากและให้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ที่ประสบวิกฤตปัญหาอยู่ในขณะนี้ กู้ยืมเงินกว่า 600 ล้านบาท รวมถึงการนำเงินไปปล่อยให้สหกรณ์เคหะสถานเมืองโคราช กู้ยืมประมาณ 35 ล้านบาท โดยได้สอบถามว่า ใครเป็นผู้มีอำนาจดำเนินการในเรื่องดังกล่าวและได้อาศัยอำนาจตามข้อบังคับข้อใด หรือระเบียบข้อใด ซึ่งถูกบรรจุเป็นวาระการประชุมสุดท้ายในการประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 2/2558 ที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยมีคณะกรรมการบริหารชุดที่ 57 นายทอง วิริยะจารุ ประธานสหกรณ์ฯ ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ได้ใช้เวลาชี้แจงข้อมูลและตอบข้อซักถามนานกว่า 4 ชั่วโมง ทำการประชุมแล้วเสร็จเมื่อเวลา ประมาณ 15.30 น. ของวานนี้ (8 เม.ย.)
นายทอง กล่าวชี้แจงว่า คณะกรรมการดำเนินการ เป็นผู้มีอำนาจในการดำเนินการนำเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา ไปให้กู้ยืมเงินและนำฝากกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.สหกรณ์ พ.ศ. 2524 ข้อบังคับสหกรณ์ พ.ศ. 2551ระเบียบสหกรณ์และมติคณะกรรมการดำเนินการ ชุดที่ 54 และ 55 ซึ่งไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา แต่อย่างใด
ส่วนกรณีที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา นำเงินไปปล่อยให้สหกรณ์เคหะสถานเมืองโคราชกู้ยืมเงินนั้น คณะกรรมการดำเนินการ เป็นผู้มีอำนาจในการดำเนินการนำเงินของสหกรณ์ไปฝากสหกรณ์เคหะสถานเมืองโคราช โดยอาศัยระเบียบกฎหมายเดียวกันกับกรณีของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่งยืนยันว่าไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อสหกรณ์ฯ แต่อย่างใด
นายวิทยา ดวงใจ แกนนำกลุ่มปฏิรูปสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา กล่าวว่า การตอบข้อซักถามยังไม่กระจ่าง ซึ่งสมาชิกได้สอบถามไปหลายประเด็น แต่คณะกรรมการฯ ก็พยายามเบี่ยงไปประเด็นอื่น โดยเฉพาะประเด็นการนำเงินไปฝากยังสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่นไม่มีระเบียบข้อบังคับหรือกฎหมายใดมารองรับเลย มีเพียงระเบียบให้ที่อื่นนำเงินมาฝากที่สหกรณ์ฯ ได้เท่านั้น และเมื่อพบว่าทางสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นไม่นำเงินมาชำระคืน กรรมการกลับนิ่งเฉยไม่ดำเนินการทางกฎหมายกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ไม่ทราบว่ามีหลังเบื้องลึกอะไรต่อกัน
"จะให้ฝ่ายกฎหมายของทางกลุ่มปฏิรูปสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา สรุปรายละเอียดต่างๆ ที่ทางผู้บริหารฯ ชี้แจง จากนั้นจะหารือกันอีกครั้งในการกำหนดท่าที อาจจะนำไปสู่การแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บริหารสหกรณ์"
นายวิทยา กล่าวอีกว่า สหกรณ์เกิดปัญหาขึ้นเป็นจำนวนมาก แต่สมาชิกไม่สามารถตรวจสอบการทำงานของผู้บริหารได้เลย ที่ผ่านมา มีการใช้อำนาจทุกด้าน ทั้งในทางราชการและเงิน เพื่อให้เข้าไปเป็นกรรมการ เมื่อเข้าไปแล้วก็มีแต่กลุ่มบริหารดำเนินการกัน โดยสมาชิกไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้ามาถ่วงดุลหรือท้วงติงการทำงานของกรรมการได้เลย เช่นการนำเงินไปฝากหรือไปให้ที่อื่นกู้ สมาชิกไม่ทราบมาก่อนและไม่สามารถเข้ามาตรวจสอบได้จนกรรมการดำเนินการไปเสร็จหมดแล้ว
"ถึงเวลาที่เราจะต้องปฏิรูปสหกรณ์เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ถ่วงดุลอำนาจกันและกัน กลุ่มปฏิรูปฯ จึงมุ่งหวังที่จะทำให้สหกรณ์ฯ ครูนครราชสีมา เป็นโมเดลของสหกรณ์ทั่วประเทศ เพื่อเป็นแบบอย่างของสหกรณ์ที่มีหลักธรรมาภิบาล"นายวิทยา กล่าว