"สมยศ" ไม่หวั่นกระแสข่าวลือถูกเด้งพ้นเก้าอี้ ผบ.ตร. มั่นใจทำหน้าที่ถูกต้องตลอด ระบุไม่มีการใช้อำนาจโดยพละการและไม่เคยคิดกลั่นแกล้งใครโฆษก ตร.ไม่ขอออกความเห็น เหตุขัดขาการแต่งตั้งนายพลล็อตสอง เม.ย.นี้ ชี้ขณะนี้เป็นวาระแต่งตั้งระดับรองสารวัตร
วานนี้(6 เม.ย.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กล่าวถึงกระแสข่าวถูกโยกย้ายพ้นจากตำแหน่ง ผบ.ตร. ว่า ตนไม่ทราบถึงกระแสข่าวดังกล่าว และก็ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไร รวมทั้งไม่กังวลกับกระแสข่าวดังกล่าวด้วย ซึ่งตนมั่นใจว่าถ้าปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้องมาโดยตลอดก็ไม่ต้องรู้สึกหวั่นไหวกับกระแสข่าวดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีหลายฝ่ายมองว่ากระแสข่าวโยกย้ายผบ.ตร.เกิดจากปัญหาภายในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ตนเป็นข้าราชการตำรวจที่มีวินัย ซึ่งการที่จะกระทำการใดๆก็ตาม ตนให้ความสำคัญและจะมีการหารือเพื่อเรียนให้ผู้ใหญ่รับทราบเสมอ ไม่มีการใช้อำนาจโดยพละการ ทุกสิ่งได้รับความเห็นชอบจากผู้ใหญ่ทุกครั้ง และไม่เคยคิดกลั่นแกล้งใคร
เมื่อถามถึงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า การแต่งตั้งโยกย้าย
ข้าราชการตำรวจเราจะมีการประชุมในรูปแบบของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) โดยมีรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ก.ตร. ซึ่งจะดูหลักเกณฑ์ในการแต่งตั้งโยกย้ายโดยจะพิจารณาจากความรู้ ความสามารถ กฎหมายและความเหมาะสม ซึ่งทุกเรื่องจะต้องผ่านความเห็นชอบของ ก.ตร. ไม่ใช่ความเห็นชอบของตนเพียงคนเดียว
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวถึง กระแสข่าวปลด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ว่า จากกระแสข่าวดังกล่าว มีการโยงเรื่องความขัดแย้งเกี่ยวกับการขอโควต้านายพล ตนขออนุญาตไม่ออกความเห็น เพราะเป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชา แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโยกย้ายนอกวาระประจำปี เพราะตอนนี้ยังเป็นวาระของการแต่งตั้งระดับรองสารวัตร ถึงชั้นประทวน คาดว่าปลายเดือนพ.ค.นี้ การดำเนินการแต่งตั้งโยกย้ายจึงจะแล้วเสร็จแต่กระนั้นข่าวที่เกิดขึ้นก็ดูจะเข้าทางให้บางกลุ่มมีอำนาจในการ”ต่อรอง” ในการแต่งตั้งโยกย้าย “นายพล” นอกฤดู ทดแทนตำแหน่งว่าง “ล็อตสอง” ระดับ “รองผู้บัญชาการ (รอง ผบช.) - ผู้บังคับการ (ผบก.)” ทั่วประเทศ ยศ “พล.ต.ต.” ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกเดือนข้างหน้า
รายงานข่าวแจ้งว่า หากจะมีการสั่งเด้ง “พล.ต.อ.สมยศ” พ้นเก้าอี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกในยุครัฐบาลทหาร เพราะก่อนหน้านี้เกิดความขัดแย้งกันในกระทรวงคุณหมอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็มีคำสั่งให้ “นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์” พ้นจากเก้าอี้ “ปลัดกระทรวงสาธารณสุข” ไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรีมาแล้ว ถ้าจะมีข้าราชการระดับ ซี 11อีกคนไปช่วยราชการสำนักนายกฯ ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นไปไม่ได้
ในทางตรงกันข้าม เรื่องการ “ปฏิรูปตำรวจ” ที่สังคมคาดหวังจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในยุค พล.ต.อ.สมยศ ซึ่งไม่มีปัจจัยทางการเมืองเข้ามาครอบงำ แต่กลับไม่มีอะไรให้เห็นเป็นรูปธรรม การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นที่ใช้เวลาเป็นปีๆ ดูจะถูกมองว่าเป็นการ “ซื้อเวลา” แบบไม่มีความจริงใจ แบบยังห่วงอำนาจกันอยู่
อย่างไรก็ดี พล.ต.อ.สมยศจะพ้นจากเก้าอี้ “ผบ.ตร.” ตามข่าวลือหรือไม่ คงต้องวัดใจ พล.อ.ประยุทธ์ จัทร์โอชา เป็นผู้ตัดสินใจ.
วานนี้(6 เม.ย.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กล่าวถึงกระแสข่าวถูกโยกย้ายพ้นจากตำแหน่ง ผบ.ตร. ว่า ตนไม่ทราบถึงกระแสข่าวดังกล่าว และก็ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไร รวมทั้งไม่กังวลกับกระแสข่าวดังกล่าวด้วย ซึ่งตนมั่นใจว่าถ้าปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้องมาโดยตลอดก็ไม่ต้องรู้สึกหวั่นไหวกับกระแสข่าวดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีหลายฝ่ายมองว่ากระแสข่าวโยกย้ายผบ.ตร.เกิดจากปัญหาภายในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ตนเป็นข้าราชการตำรวจที่มีวินัย ซึ่งการที่จะกระทำการใดๆก็ตาม ตนให้ความสำคัญและจะมีการหารือเพื่อเรียนให้ผู้ใหญ่รับทราบเสมอ ไม่มีการใช้อำนาจโดยพละการ ทุกสิ่งได้รับความเห็นชอบจากผู้ใหญ่ทุกครั้ง และไม่เคยคิดกลั่นแกล้งใคร
เมื่อถามถึงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า การแต่งตั้งโยกย้าย
ข้าราชการตำรวจเราจะมีการประชุมในรูปแบบของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) โดยมีรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ก.ตร. ซึ่งจะดูหลักเกณฑ์ในการแต่งตั้งโยกย้ายโดยจะพิจารณาจากความรู้ ความสามารถ กฎหมายและความเหมาะสม ซึ่งทุกเรื่องจะต้องผ่านความเห็นชอบของ ก.ตร. ไม่ใช่ความเห็นชอบของตนเพียงคนเดียว
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวถึง กระแสข่าวปลด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ว่า จากกระแสข่าวดังกล่าว มีการโยงเรื่องความขัดแย้งเกี่ยวกับการขอโควต้านายพล ตนขออนุญาตไม่ออกความเห็น เพราะเป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชา แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโยกย้ายนอกวาระประจำปี เพราะตอนนี้ยังเป็นวาระของการแต่งตั้งระดับรองสารวัตร ถึงชั้นประทวน คาดว่าปลายเดือนพ.ค.นี้ การดำเนินการแต่งตั้งโยกย้ายจึงจะแล้วเสร็จแต่กระนั้นข่าวที่เกิดขึ้นก็ดูจะเข้าทางให้บางกลุ่มมีอำนาจในการ”ต่อรอง” ในการแต่งตั้งโยกย้าย “นายพล” นอกฤดู ทดแทนตำแหน่งว่าง “ล็อตสอง” ระดับ “รองผู้บัญชาการ (รอง ผบช.) - ผู้บังคับการ (ผบก.)” ทั่วประเทศ ยศ “พล.ต.ต.” ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกเดือนข้างหน้า
รายงานข่าวแจ้งว่า หากจะมีการสั่งเด้ง “พล.ต.อ.สมยศ” พ้นเก้าอี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกในยุครัฐบาลทหาร เพราะก่อนหน้านี้เกิดความขัดแย้งกันในกระทรวงคุณหมอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็มีคำสั่งให้ “นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์” พ้นจากเก้าอี้ “ปลัดกระทรวงสาธารณสุข” ไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรีมาแล้ว ถ้าจะมีข้าราชการระดับ ซี 11อีกคนไปช่วยราชการสำนักนายกฯ ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นไปไม่ได้
ในทางตรงกันข้าม เรื่องการ “ปฏิรูปตำรวจ” ที่สังคมคาดหวังจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในยุค พล.ต.อ.สมยศ ซึ่งไม่มีปัจจัยทางการเมืองเข้ามาครอบงำ แต่กลับไม่มีอะไรให้เห็นเป็นรูปธรรม การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นที่ใช้เวลาเป็นปีๆ ดูจะถูกมองว่าเป็นการ “ซื้อเวลา” แบบไม่มีความจริงใจ แบบยังห่วงอำนาจกันอยู่
อย่างไรก็ดี พล.ต.อ.สมยศจะพ้นจากเก้าอี้ “ผบ.ตร.” ตามข่าวลือหรือไม่ คงต้องวัดใจ พล.อ.ประยุทธ์ จัทร์โอชา เป็นผู้ตัดสินใจ.
