ชนสนั่นวันเดียวหลายราย สาวสวรรคโลกขับเก๋งพาครอบครัวกลับจากไหว้พระพุทธชินราชชนเสาไฟข้างทางพลิกคว่ำตกร่องถนนเด็กดับ 2 สาหัส 3 หนุ่มอุตรดิตถ์ซิ่งเบนซ์ติดแก๊สไปเชงเม้งบ้านเกิด เร่งเครื่องแซงรถพ่วงไม่พ้นประสานงาพ่วงอีกคันไฟลุกท่วมรถถูกไฟคลอกดับ ส่วนที่สงขลาเก๋งพุ่งงชนต้นไม้ ถูกไฟคลอก 4 ศพคารถ ตร.วางมาตรการเข้มดูแลประชาชนช่วงสงกรานต์ระดมกวาดล้างอาชญากรรม การลักลอบขนยาเสพติดการค้ามนุษย์ ดีเดย์ 1 - 10 เม.ย. 2558 ดูแลความปลอดภัยในช่วงเดินทาง โดยเฉพาะช่วง 7 วันอันตรายระหว่าง วันที่ 9 - 16 เม.ย. 58
วานนี้ (5 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ต.รัตนภัทร์ ลำพูน พนักงานสอบสวน สภ.บ้านสวน อ.เมือง จ.สุโขทัย ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์เก๋งพลิกคว่ำตกร่องถนนบายพาส สายพิษณุโลก-ตาก หลักกิโลเมตรที่ 31-32 หมู่ 7 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.สุโขทัย มีคนบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมกู้ภัยข่าวภาพสุโขทัย
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งโตโยต้า ยาริส สีขาว ทะเบียน 2 กฉ 6208 กรุงเทพมหานคร ตกอยู่ในร่องกลางถนน สภาพพังยับเยิน ภายในรถมีคนเจ็บติดอยู่ ทราบชื่อคือ นางทองย้อย คงคีรี อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 หมู่ 6 ต.ย่านยาว อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย เจ้าหน้าที่ใช้เวลานานเกือบ 1 ชั่วโมงจึงสามารถช่วยเหลือออกมาจากซากรถได้
นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บที่นำส่งโรงพยาบาลก่อนแล้ว 3 ราย คือ น.ส.เยาวมาน อายุ 29 ปี (คนขับ), ด.ช.รัชชานนท์ อายุ 9 ขวบ และ ด.ญ.ณภัทรพร อายุ 2 ขวบ (ลูกสาว น.ส.เยาวมาน) แต่เนื่องจาก ด.ญ.ณภัทรพรได้รับบาดเจ็บสาหัส อวัยวะภายในร่างกายฉีกขาดหลายแห่ง จึงทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย คือ ด.ช.ภาณุวัฒน์ อายุ 13 ปี ซึ่งร่างกระเด็นออกมาจากตัวรถ ทำให้คอหักเสียชีวิตคาที่เกิดเหตุ
สอบสวนทราบว่า น.ส.เยาวมานได้ขับรถพาครอบครัวไปไหว้พระพุทธชินราช ที่ จ.พิษณุโลก ขากลับอาจเกิดอาการหลับใน ทำให้รถเสียหลักพุ่งชนกับเสาไฟข้างทาง ก่อนจะพลิกคว่ำตกร่องถนน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว
**ซิ่งเบนซ์ชนรถพ่วงไฟลุกดับคารถ
ส่วนที่ จ.พิษณุโลก ศูนย์วิทยุ 191 ได้รับแจ้งว่าเมื่อเวลาประมาณ 04.30 น.ได้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งชนกับรถยนต์บรรทุกพ่วงเกิดไฟลุกไหม้มีผู้เสียชีวิตติดอยู่ในรถเก๋งเป็นชาย 1 รายบริเวณทางแยกเข้าสนามชัย ใกล้โค้งสนามชัย ม.1 ต.มะต้อง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก จึงประสาน สภ.พรหมพิราม แจ้งสายตรวจมะต้อง สายตรวจตำบลหนองแขม และกู้ภัยข่าวภาพพิษณุโลก เดินทางไปตรวจสอบช่วยเหลือ
ต่อมา พ.ต.ท.มนู หรศาสตร์ ร้อยเวร สภ.พรหมพิราม ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อเบนซ์สีขาวติดแก๊ส หมายเลขทะเบียน 2 กญ 7777 กทม. มีนายธราธร ตันติกุล อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 295/3 หมู่ 3 ต.ในเมือง อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ขับมาจากกรุงเทพฯ กำลังมุ่งหน้าไปร่วมงานเชงเม้งที่ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ โดยใช้เส้นทางพรหมพิราม-พิชัย ระหว่างเกิดเหตุได้เร่งเครื่องแซงรถบรรทุกพ่วงและเกิดชนกับรถบรรทุกพ่วงที่วิ่งสวนทางมา จากนั้นไฟได้ลุกไหม้ท่วมรถคลอกนายธราธรเสียชีวิตในซากรถดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ญาติได้ติดต่อมาขอรับร่างไปบำเพ็ญกุศลที่ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์แล้ว
**เก๋งชนต้นไม้ย่างสด4รายคาซากรถ
ต่อมาเวลาประมาณ 05.00 น. ร.ต.ท.กฤศ ทิณกร ร้อยเวร สภ.เทพา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถเก๋งชนต้นไม้บริเวณโค้งลีลารีสอร์ท ถนนสายเอเชีย เส้นทางสายสงขลา-ปัตตานี ฝั่งขาลง จ.ปัตตานี หมู่ 11 ต.สะกอม อ.เทพา จ.สงขลา จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.พงศ์พิต อุปรโครต พนักสอบสวนพบไฟกำลังลุกไหม้รถเก๋งซึ่งชนติดอยู่กับต้นไม้ทั้งคัน และมีผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอกติดอยู่ภายในรถรวม 4 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน และเด็กอีก 1 คน คาดว่าน่าจะเป็นครอบครัวเดียวกัน
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเลขตัวถังรถทราบว่าเป็นรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าซิตี้ สีดำ หมายเลขทะเบียน กฉ 3237 ภูเก็ต รุ่นเก่าปี 48 และจากการสอบสวนทราบว่าขณะเกิดเหตุรถเก๋งคันดังกล่าวกำลังเดินทางมุ่งหน้าไปยัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ริมถนนจนเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นทั้งคัน และผู้ที่นั่งมาในรถทั้ง 4 คันติดอยู่ภายในรถไม่สามารถออกมาได้ทำให้ถูกไฟคลอกเสียชีวิตทั้งหมดดังกล่าว
ล่าสุดทราบชื่อผู้เสียชีวิตแล้ว 1 รายคือนายอิสมาแอ สามะ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70/122 ม.7 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังจากที่ภรรยาที่อยู่ใน อ.ธารโต จ.ยะลา เดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวน สภ.เทพา หลังทราบข่าว และยืนยันว่าเป็นสามีของตนเองส่วนรถเก๋งก็เป็นรถของสามี ส่วนอีก 3 รายยังไม่ทราบ เนื่องจากภรรยาของ นายอิสมาแอ เองก็ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร และเดินทางมากับสามีได้อย่างไร
**อดีตเลขานายกเล็กรถตกข้างทางดับ
ก่อนหน้านี้เวลา 04.00 น. ร.ต.ท.เดชาวัตร มากคำ พงส.สภ.หาดใหญ่ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุมีรถบรรทุกเล็ก 4 ล้อตกข้างทางมีผู้เสียชีวิตติดอยู่ในรถบริเวณจุดยูเทิร์นหน้าโกลกค้าไม้ ถนนลพบุรีราเมศร์ ฝั่งขาเข้าตัวเมืองหาดใหญ่ หมู่ 11 ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีท่งเซียเซี่ยงตึ้งหาดใหญ่ และแพทย์ รพ.หาดใหญ่ พบรถบรรทุกเล็ก 4 ล้อยี่ห้อซูซูกิ สีขาว ทะเบียน บน 6583 กระบี่ ภายในรถพบศพนายชัยยุทธ ขุนเจริญ อายุ 40 ปีอยู่บ้านเลขที่ 110 หมู่ 2 ต.รัตภูมิ อ.ควนเนียง จ.สงขลา สภาพนอนตะแคงบนเบาะนั่ง ศีรษะแตกจากแรงกระแทกกระจกหน้ารถอย่างรุนแรง กระจกหน้ารถแตก ส่วนท้ายกระบะพบถังแกลลอนเปล่าสำหรับใส่น้ำมัน 2 ใบ และกระเป๋าสะพาย 1 ใบมีเอกสารแรงงานต่างด้าวจำนวนหนึ่ง
จากการสอบสวนทราบว่าขณะเกิดเหตุนายชัยยุทธ ได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวเพียงลำพังวิ่งมาด้วยความเร็วจากตัวเมืองสงขลาและไม่ได้รัดเข็มขัดนิรภัยถึงที่เกิดเหตุคาดว่าคนขับอาจหลับในด้วยความอ่อนล้าจนรถเสียหลักพุ่งตกข้างทางศีรษะพุ่งกระแทกกระจกหน้าแตกเสียชีวิตคาที่
สำหรับนายชัยยุทธ ขุนเจริญ อดีตเคยรับตำแหน่งเป็นเลขานุการนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลควนเนียง อ.ควนเนียง จ.สงขลา หลังจากลาออกจากตำแหน่งเลขานุการได้หันมาเล่นการเมืองท้องถิ่นโดยสมัครแข่งขันชิงนายกเทศมนตรีตำบลควนเนียงแต่แพ้คะแนนเสียงจึงหันไปประกอบอาชีพค้าขายในปัจจุบัน
**6 ล้อพลิกคว่ำที่ภูเรือดับ 1 เจ็บกว่า 20
ส่วนที่ จ.เลย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูเรือ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติหตุรถสองแถว 6 ล้อดัดแปลงเป็นรถนำเที่ยว ได้พาเที่ยวเดินทางมาจาก จ.มหาสารคาม ขึ้นไปเที่ยวบนยอดภูเรือ แต่ขากลับลงเขารถเกิดเสียหลักพลิกคว่ำที่บริเวณโค้งหนุ่มเมืองเลย อุทยานแห่งชาติภูเรือ ทำให้มีนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บกว่า 20 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นหญิงผู้สูงอายุ หลังรับแจ้งจึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและได้นำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลภูเรือ และโรงพยาบาลด่านช้าง
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นักท่องเที่ยวดังกล่าวเป็นญาติโยมที่มาทำบุญในพื้นที่ อ.ภูเรือ หลังจากนั้นได้แวะขึ้นมาเที่ยวดูทิวทัศน์บนยอดภูเรือ แต่พอขากลับลงมารถเกิดเสียหลักแหกโค้ง ซึ่งเป็นโค้งหักศอกจนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีทั้งพระและญาติโยมที่เป็นผู้สูงอายุ
***ตร.คุมเข้มสงกรานต์เตือน 7 วันอันตราย
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกตำรวจสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.) กล่าวถึงมาตรการดูแลความสงบเรียบร้อยช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยตำรวจจะมีการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ทั้งอาชญากรรมเกี่ยวกับทรัพย์ ร่างกาย เรื่องยาเสพติดที่อาจจะแอบแฝงหรือเล็ดลอดเข้ามาในช่วงสงกรานต์ ทั้งการลักลอบขนยาเสพติดและการจำหน่าย โดยเรื่องนี้มีการระดมกวาดล้าง เพื่อหยุดสกัดการนำเข้าตามแนวชายแดน นอกจากนี้ได้มีการวางมาตรการดูแลปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย
“ตำรวจจะทำการป้องกันในเรื่องของอาชญากรรมทุกมิติ โดยจะเริ่มระดมการกวาดล้างระหว่างวันที่ 1 - 10 เม.ย. 2558 โดยให้ทุกท้องที่ออกแผนการในการระดมกวาดล้างอาชญากรรม และดูแลความปลอดภัยการเดินทางของประชาชนในช่วงสงกรานต์ ทั้ง 2 ส่วนให้ทำควบคู่กันไป โดยเฉพาะช่วง 7 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 9 - 16 เม.ย. 2558 เน้นย้ำให้มีการดูแลกวดขันวินัยจราจร และการอำนวยความสะดวกการเดินทางของพี่น้องประชาชนที่จะกลับภูมิลำเนา และสิ่งที่จะเน้นมากในช่วงสงกรานต์ คือ เรื่องของการดื่มสุราในการเฉลิมฉลองในพื้นที่ต่างๆ ที่เป็นพื้นที่ต้องห้าม เช่น ในวัด ในปั๊มน้ำมัน และสถานีขนส่งต่างๆ ซึ่งมีข้อห้ามและกฎหมายบังคับ ที่สามารถดำเนินคดีได้” โฆษก ตร. กล่าวและว่า สำหรับอีกเรื่องที่เป็นเรื่องห่วงใย คือ การลวนลามผู้หญิง หรือ เด็ก ในช่วงสงกรานต์ โดยก่อนหน้านี้ ได้มีเครือข่ายเยาวชนปกป้องนักดื่มหน้าใหม่และมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล มายื่นหนังสือขอให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการที่มีผู้ไม่ประสงค์ดีอาศัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ ก่อเหตุลวนลามผู้หญิง หรือเด็ก ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ดูแลอยู่แล้ว ตรงนี้เป็นการตอกย้ำว่ามาตรการต่างๆ ที่เราออกมาเป็นสิ่งที่ประชาชนเห็นด้วย
พ.ต.ท.หญิง ฉันฉาย รัตนพาณิช รองโฆษก ตร. กล่าวว่า สำหรับเครือข่ายเยาวชนฯและมูลนิธิหญิงชายก้าวไกลยื่นจดหมายเปิดผนึกให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพิ่มมาตรการการป้องปราบและบังคับให้กฎหมายอย่างเข้มงวด ในกรณีที่มีผู้หญิง เด็ก และเยาวชน ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ถูกลวนลามในพื้นที่การเล่นน้ำสงกรานต์ ว่า สถิติส่วนใหญ่จะพบว่า ผู้ก่อเหตุมักจะเป็นผู้ที่มีอาการมึนเมาจากการดื่มสุราในพื้นที่เล่นน้ำ ซึ่งไม่มีการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทางเครือข่ายฯ จึงขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติช่วยกวดขันเรื่องนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้มีมาตรการ 4 ข้อ คือ 1. กวดขันให้จับกุมผู้จำหน่ายสุราในพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์อย่างเคร่งครัด 2. ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปกวดขันและตรวจตรา ไม่ให้เกิดการประพฤติที่ไม่เหมาะสม 3. มีจุดรับแจ้งเหตุให้เห็นเด่นชัดในพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ และ 4. กรณีที่ประชาชนที่เล่นน้ำอยู่เห็นเหตุการณ์ที่ไม่เหมาะสมให้แจ้งเหตุได้ที่ศูนย์รับแจ้งเหตุสามารถโทร. แจ้งที่ 191 ได้ หรือหากมีเหตุร้องเรียนใดๆติดต่อไปที่ 1599 ได้โดยทันที
“ส่วนมาตรการเพิ่มเติม ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ทุกหน่วยปฏิบัติ หน่วยพื้นที่ทั้ง บช.น. บช.ภ.1 - 9 และ ศชต. เน้นย้ำในมาตรการระดมกวาดล้างอาชญากรรม การให้บริการประชาชนใน การเดินทาง รวมถึงการดูแลความปลอดภัยในช่วงเทศกาล และก็ได้สั่งการหน่วยงานเสริม อาทิ บช.ก. และ ตชด. เข้าช่วยเหลือในกรณีที่กำลังของหน่วยปฏิบัติ หรือในหน่วยพื้นที่ไม่เพียงพอ แต่ บช.ก. ต้องเป็นหลักในการลงพื้นที่ดูแลประชาชน คือ ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจทางหลวง ตำรวจรถไฟ ตำรวจ บก.ปคบ. และตำรวจ บก.ปคม. นอกจากนี้ ยังมีตำรวจปราบปรามยาเสพติด ที่ร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ด้วย ส่วนเรื่องการข่าวเป็นความรับผิดชอบของตำรวจสันติบาล” รองโฆษก ตร. ระบุ .
วานนี้ (5 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ต.รัตนภัทร์ ลำพูน พนักงานสอบสวน สภ.บ้านสวน อ.เมือง จ.สุโขทัย ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์เก๋งพลิกคว่ำตกร่องถนนบายพาส สายพิษณุโลก-ตาก หลักกิโลเมตรที่ 31-32 หมู่ 7 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.สุโขทัย มีคนบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมกู้ภัยข่าวภาพสุโขทัย
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งโตโยต้า ยาริส สีขาว ทะเบียน 2 กฉ 6208 กรุงเทพมหานคร ตกอยู่ในร่องกลางถนน สภาพพังยับเยิน ภายในรถมีคนเจ็บติดอยู่ ทราบชื่อคือ นางทองย้อย คงคีรี อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 หมู่ 6 ต.ย่านยาว อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย เจ้าหน้าที่ใช้เวลานานเกือบ 1 ชั่วโมงจึงสามารถช่วยเหลือออกมาจากซากรถได้
นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บที่นำส่งโรงพยาบาลก่อนแล้ว 3 ราย คือ น.ส.เยาวมาน อายุ 29 ปี (คนขับ), ด.ช.รัชชานนท์ อายุ 9 ขวบ และ ด.ญ.ณภัทรพร อายุ 2 ขวบ (ลูกสาว น.ส.เยาวมาน) แต่เนื่องจาก ด.ญ.ณภัทรพรได้รับบาดเจ็บสาหัส อวัยวะภายในร่างกายฉีกขาดหลายแห่ง จึงทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย คือ ด.ช.ภาณุวัฒน์ อายุ 13 ปี ซึ่งร่างกระเด็นออกมาจากตัวรถ ทำให้คอหักเสียชีวิตคาที่เกิดเหตุ
สอบสวนทราบว่า น.ส.เยาวมานได้ขับรถพาครอบครัวไปไหว้พระพุทธชินราช ที่ จ.พิษณุโลก ขากลับอาจเกิดอาการหลับใน ทำให้รถเสียหลักพุ่งชนกับเสาไฟข้างทาง ก่อนจะพลิกคว่ำตกร่องถนน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว
**ซิ่งเบนซ์ชนรถพ่วงไฟลุกดับคารถ
ส่วนที่ จ.พิษณุโลก ศูนย์วิทยุ 191 ได้รับแจ้งว่าเมื่อเวลาประมาณ 04.30 น.ได้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งชนกับรถยนต์บรรทุกพ่วงเกิดไฟลุกไหม้มีผู้เสียชีวิตติดอยู่ในรถเก๋งเป็นชาย 1 รายบริเวณทางแยกเข้าสนามชัย ใกล้โค้งสนามชัย ม.1 ต.มะต้อง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก จึงประสาน สภ.พรหมพิราม แจ้งสายตรวจมะต้อง สายตรวจตำบลหนองแขม และกู้ภัยข่าวภาพพิษณุโลก เดินทางไปตรวจสอบช่วยเหลือ
ต่อมา พ.ต.ท.มนู หรศาสตร์ ร้อยเวร สภ.พรหมพิราม ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อเบนซ์สีขาวติดแก๊ส หมายเลขทะเบียน 2 กญ 7777 กทม. มีนายธราธร ตันติกุล อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 295/3 หมู่ 3 ต.ในเมือง อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ขับมาจากกรุงเทพฯ กำลังมุ่งหน้าไปร่วมงานเชงเม้งที่ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ โดยใช้เส้นทางพรหมพิราม-พิชัย ระหว่างเกิดเหตุได้เร่งเครื่องแซงรถบรรทุกพ่วงและเกิดชนกับรถบรรทุกพ่วงที่วิ่งสวนทางมา จากนั้นไฟได้ลุกไหม้ท่วมรถคลอกนายธราธรเสียชีวิตในซากรถดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ญาติได้ติดต่อมาขอรับร่างไปบำเพ็ญกุศลที่ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์แล้ว
**เก๋งชนต้นไม้ย่างสด4รายคาซากรถ
ต่อมาเวลาประมาณ 05.00 น. ร.ต.ท.กฤศ ทิณกร ร้อยเวร สภ.เทพา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถเก๋งชนต้นไม้บริเวณโค้งลีลารีสอร์ท ถนนสายเอเชีย เส้นทางสายสงขลา-ปัตตานี ฝั่งขาลง จ.ปัตตานี หมู่ 11 ต.สะกอม อ.เทพา จ.สงขลา จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.พงศ์พิต อุปรโครต พนักสอบสวนพบไฟกำลังลุกไหม้รถเก๋งซึ่งชนติดอยู่กับต้นไม้ทั้งคัน และมีผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอกติดอยู่ภายในรถรวม 4 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน และเด็กอีก 1 คน คาดว่าน่าจะเป็นครอบครัวเดียวกัน
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเลขตัวถังรถทราบว่าเป็นรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าซิตี้ สีดำ หมายเลขทะเบียน กฉ 3237 ภูเก็ต รุ่นเก่าปี 48 และจากการสอบสวนทราบว่าขณะเกิดเหตุรถเก๋งคันดังกล่าวกำลังเดินทางมุ่งหน้าไปยัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ริมถนนจนเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นทั้งคัน และผู้ที่นั่งมาในรถทั้ง 4 คันติดอยู่ภายในรถไม่สามารถออกมาได้ทำให้ถูกไฟคลอกเสียชีวิตทั้งหมดดังกล่าว
ล่าสุดทราบชื่อผู้เสียชีวิตแล้ว 1 รายคือนายอิสมาแอ สามะ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70/122 ม.7 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังจากที่ภรรยาที่อยู่ใน อ.ธารโต จ.ยะลา เดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวน สภ.เทพา หลังทราบข่าว และยืนยันว่าเป็นสามีของตนเองส่วนรถเก๋งก็เป็นรถของสามี ส่วนอีก 3 รายยังไม่ทราบ เนื่องจากภรรยาของ นายอิสมาแอ เองก็ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร และเดินทางมากับสามีได้อย่างไร
**อดีตเลขานายกเล็กรถตกข้างทางดับ
ก่อนหน้านี้เวลา 04.00 น. ร.ต.ท.เดชาวัตร มากคำ พงส.สภ.หาดใหญ่ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุมีรถบรรทุกเล็ก 4 ล้อตกข้างทางมีผู้เสียชีวิตติดอยู่ในรถบริเวณจุดยูเทิร์นหน้าโกลกค้าไม้ ถนนลพบุรีราเมศร์ ฝั่งขาเข้าตัวเมืองหาดใหญ่ หมู่ 11 ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีท่งเซียเซี่ยงตึ้งหาดใหญ่ และแพทย์ รพ.หาดใหญ่ พบรถบรรทุกเล็ก 4 ล้อยี่ห้อซูซูกิ สีขาว ทะเบียน บน 6583 กระบี่ ภายในรถพบศพนายชัยยุทธ ขุนเจริญ อายุ 40 ปีอยู่บ้านเลขที่ 110 หมู่ 2 ต.รัตภูมิ อ.ควนเนียง จ.สงขลา สภาพนอนตะแคงบนเบาะนั่ง ศีรษะแตกจากแรงกระแทกกระจกหน้ารถอย่างรุนแรง กระจกหน้ารถแตก ส่วนท้ายกระบะพบถังแกลลอนเปล่าสำหรับใส่น้ำมัน 2 ใบ และกระเป๋าสะพาย 1 ใบมีเอกสารแรงงานต่างด้าวจำนวนหนึ่ง
จากการสอบสวนทราบว่าขณะเกิดเหตุนายชัยยุทธ ได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวเพียงลำพังวิ่งมาด้วยความเร็วจากตัวเมืองสงขลาและไม่ได้รัดเข็มขัดนิรภัยถึงที่เกิดเหตุคาดว่าคนขับอาจหลับในด้วยความอ่อนล้าจนรถเสียหลักพุ่งตกข้างทางศีรษะพุ่งกระแทกกระจกหน้าแตกเสียชีวิตคาที่
สำหรับนายชัยยุทธ ขุนเจริญ อดีตเคยรับตำแหน่งเป็นเลขานุการนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลควนเนียง อ.ควนเนียง จ.สงขลา หลังจากลาออกจากตำแหน่งเลขานุการได้หันมาเล่นการเมืองท้องถิ่นโดยสมัครแข่งขันชิงนายกเทศมนตรีตำบลควนเนียงแต่แพ้คะแนนเสียงจึงหันไปประกอบอาชีพค้าขายในปัจจุบัน
**6 ล้อพลิกคว่ำที่ภูเรือดับ 1 เจ็บกว่า 20
ส่วนที่ จ.เลย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูเรือ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติหตุรถสองแถว 6 ล้อดัดแปลงเป็นรถนำเที่ยว ได้พาเที่ยวเดินทางมาจาก จ.มหาสารคาม ขึ้นไปเที่ยวบนยอดภูเรือ แต่ขากลับลงเขารถเกิดเสียหลักพลิกคว่ำที่บริเวณโค้งหนุ่มเมืองเลย อุทยานแห่งชาติภูเรือ ทำให้มีนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บกว่า 20 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นหญิงผู้สูงอายุ หลังรับแจ้งจึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและได้นำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลภูเรือ และโรงพยาบาลด่านช้าง
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นักท่องเที่ยวดังกล่าวเป็นญาติโยมที่มาทำบุญในพื้นที่ อ.ภูเรือ หลังจากนั้นได้แวะขึ้นมาเที่ยวดูทิวทัศน์บนยอดภูเรือ แต่พอขากลับลงมารถเกิดเสียหลักแหกโค้ง ซึ่งเป็นโค้งหักศอกจนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีทั้งพระและญาติโยมที่เป็นผู้สูงอายุ
***ตร.คุมเข้มสงกรานต์เตือน 7 วันอันตราย
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกตำรวจสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.) กล่าวถึงมาตรการดูแลความสงบเรียบร้อยช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยตำรวจจะมีการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ทั้งอาชญากรรมเกี่ยวกับทรัพย์ ร่างกาย เรื่องยาเสพติดที่อาจจะแอบแฝงหรือเล็ดลอดเข้ามาในช่วงสงกรานต์ ทั้งการลักลอบขนยาเสพติดและการจำหน่าย โดยเรื่องนี้มีการระดมกวาดล้าง เพื่อหยุดสกัดการนำเข้าตามแนวชายแดน นอกจากนี้ได้มีการวางมาตรการดูแลปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย
“ตำรวจจะทำการป้องกันในเรื่องของอาชญากรรมทุกมิติ โดยจะเริ่มระดมการกวาดล้างระหว่างวันที่ 1 - 10 เม.ย. 2558 โดยให้ทุกท้องที่ออกแผนการในการระดมกวาดล้างอาชญากรรม และดูแลความปลอดภัยการเดินทางของประชาชนในช่วงสงกรานต์ ทั้ง 2 ส่วนให้ทำควบคู่กันไป โดยเฉพาะช่วง 7 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 9 - 16 เม.ย. 2558 เน้นย้ำให้มีการดูแลกวดขันวินัยจราจร และการอำนวยความสะดวกการเดินทางของพี่น้องประชาชนที่จะกลับภูมิลำเนา และสิ่งที่จะเน้นมากในช่วงสงกรานต์ คือ เรื่องของการดื่มสุราในการเฉลิมฉลองในพื้นที่ต่างๆ ที่เป็นพื้นที่ต้องห้าม เช่น ในวัด ในปั๊มน้ำมัน และสถานีขนส่งต่างๆ ซึ่งมีข้อห้ามและกฎหมายบังคับ ที่สามารถดำเนินคดีได้” โฆษก ตร. กล่าวและว่า สำหรับอีกเรื่องที่เป็นเรื่องห่วงใย คือ การลวนลามผู้หญิง หรือ เด็ก ในช่วงสงกรานต์ โดยก่อนหน้านี้ ได้มีเครือข่ายเยาวชนปกป้องนักดื่มหน้าใหม่และมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล มายื่นหนังสือขอให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการที่มีผู้ไม่ประสงค์ดีอาศัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ ก่อเหตุลวนลามผู้หญิง หรือเด็ก ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ดูแลอยู่แล้ว ตรงนี้เป็นการตอกย้ำว่ามาตรการต่างๆ ที่เราออกมาเป็นสิ่งที่ประชาชนเห็นด้วย
พ.ต.ท.หญิง ฉันฉาย รัตนพาณิช รองโฆษก ตร. กล่าวว่า สำหรับเครือข่ายเยาวชนฯและมูลนิธิหญิงชายก้าวไกลยื่นจดหมายเปิดผนึกให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพิ่มมาตรการการป้องปราบและบังคับให้กฎหมายอย่างเข้มงวด ในกรณีที่มีผู้หญิง เด็ก และเยาวชน ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ถูกลวนลามในพื้นที่การเล่นน้ำสงกรานต์ ว่า สถิติส่วนใหญ่จะพบว่า ผู้ก่อเหตุมักจะเป็นผู้ที่มีอาการมึนเมาจากการดื่มสุราในพื้นที่เล่นน้ำ ซึ่งไม่มีการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทางเครือข่ายฯ จึงขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติช่วยกวดขันเรื่องนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้มีมาตรการ 4 ข้อ คือ 1. กวดขันให้จับกุมผู้จำหน่ายสุราในพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์อย่างเคร่งครัด 2. ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปกวดขันและตรวจตรา ไม่ให้เกิดการประพฤติที่ไม่เหมาะสม 3. มีจุดรับแจ้งเหตุให้เห็นเด่นชัดในพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ และ 4. กรณีที่ประชาชนที่เล่นน้ำอยู่เห็นเหตุการณ์ที่ไม่เหมาะสมให้แจ้งเหตุได้ที่ศูนย์รับแจ้งเหตุสามารถโทร. แจ้งที่ 191 ได้ หรือหากมีเหตุร้องเรียนใดๆติดต่อไปที่ 1599 ได้โดยทันที
“ส่วนมาตรการเพิ่มเติม ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ทุกหน่วยปฏิบัติ หน่วยพื้นที่ทั้ง บช.น. บช.ภ.1 - 9 และ ศชต. เน้นย้ำในมาตรการระดมกวาดล้างอาชญากรรม การให้บริการประชาชนใน การเดินทาง รวมถึงการดูแลความปลอดภัยในช่วงเทศกาล และก็ได้สั่งการหน่วยงานเสริม อาทิ บช.ก. และ ตชด. เข้าช่วยเหลือในกรณีที่กำลังของหน่วยปฏิบัติ หรือในหน่วยพื้นที่ไม่เพียงพอ แต่ บช.ก. ต้องเป็นหลักในการลงพื้นที่ดูแลประชาชน คือ ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจทางหลวง ตำรวจรถไฟ ตำรวจ บก.ปคบ. และตำรวจ บก.ปคม. นอกจากนี้ ยังมีตำรวจปราบปรามยาเสพติด ที่ร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ด้วย ส่วนเรื่องการข่าวเป็นความรับผิดชอบของตำรวจสันติบาล” รองโฆษก ตร. ระบุ .