xs
xsm
sm
md
lg

ทั่วไทยถวายพระพร"สมเด็จพระเทพ" "ประยุทธ์"นำจุดเทียนชัย แห่แลกธนบัตรคึกคัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงปล่อยพันธุ์ปลา เพื่อบำเพ็ญพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ ขณะรัฐบาล ข้าราชการ เหล่าทัพ ประชาชน สวมชุดสีม่วง ร่วมทำบุญตักบาตรทั่วไทย พร้อมจัดกิจกรรมถวายพระพร ประชาชนแห่แลกธนบัตรสมเด็จพระเทพฯ คึกคัก "วัฒนธรรม"นำร่องทำสารคดี 4 บุคคลในภาพพระราชกรณียกิจ "ประยุทธ์"นำจุดเทียนชัยถวายพร

วานนี้ (2 เม.ย.) เวลา 07.49 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสร็จพระราชดำเนินไปยังท่าวาสุกรี เขตดุสิต ทรงปล่อยพันธุ์ปลา ซึ่งกรมประมงน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย เพื่อบำเพ็ญพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ วันที่ 2 เมษายน 2558 และในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา ประกอบด้วยพันธุ์ปลาไทย 9 ชนิด ได้แก่ ปลาตะเพียนขาว ปลาตะเพียนทอง ปลายี่สกไทย ปลาโพลง ปลาหมอไทย ปลากราย ปลากระแห ปลาสร้อยขาว ปลาบึก จำนวน 590,000 ตัว

โดยในโอกาสมหามงคลทรงเจริญพระชนมายุ 5 รอบ ปีนี้กรมประมงได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายปลากระเบนเจ้าพระยา ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางลำตัว 2 เมตร จำนวน 1 ตัว เพื่อบำเพ็ญพระราชกุศล และเพื่อการอนุรักษ์พันธุ์ปลากระเบนเจ้าพระยา ซึ่งใกล้สูญพันธุ์

***โปรดเกล้าฯ จัดสถานที่ถวายพระพร

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สำนักพระราชวังจัดสถานที่สำหรับลงนาม เนื่องในโอกาสคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท สำหรับประชาชนทั่วไปลงนามถวายพระพรได้ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. โดยบรรยากาศมีคณะบุคคลในรัฐบาล ข้าราชการ และประชาชนมาร่วมลงนามถวายพระพรกันอย่างคึกคัก

จากนั้นเวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีฉลองพระชนมายุ 5 รอบ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเป็นสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคลตามราชประเพณี ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง เข้าทางประตูวิเศษไชยศรี ประตูพิมานไชยศรี เทียบรถยนต์พระที่นั่งที่พระทวารเทศรรักษา เสด็จพระราชดำเนินเข้าพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงจุดเทียนมหามงคล เทียนเท่าพระองค์และธูปเทียนบูชาพระพุทธรูป เทวรูปนพเคราะห์องค์อภิบาล องค์แทรกพระชนมายุ แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชา พระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ และพระพุทธรูปประจำพระชนมวารของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แล้วทรงประเคนพัดรองที่ระลึกพระราชพิธีฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 แด่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และพระราชาคณะรวม 61 รูป เจ้าพนักงานอาราธนาพระปริตร พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ และเสกน้ำพระพุทธมนต์

จบแล้ว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม ทรงศีล สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ถวายศีล และถวายพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 จบแล้ว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ และผ้าไตรแด่พระสงฆ์ที่เจริญพระพุทธมนต์และถวายพระธรรมเทศนา พระมหาราชครูพิธีศรีสุทธิคุณประธานพระครูพราหมณ์ ถวายน้ำเทพมนตร์และใบมะตูม พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถาจบแล้ว ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ออกจากพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่งที่พระทวารเทศวรรักษา เสด็จพระราชดำเนินกลับ

***"นายกฯเป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตร

วันเดียวกันนี้ ช่วงเช้า ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้สวมชุดไทยพระราชทานแขนยาวสีม่วง พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี และม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริบัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 161 รูป เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558

โดยนายกรัฐมนตรีตักบาตรพระราชาคณะ จำนวน 10 รูป และถวายเครื่องไทยธรรมแก่ประธานสงฆ์ เมื่อเสร็จพิธี เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม มอบของที่ระลึกแก่นายกรัฐมนตรี จากนั้นนายกรัฐมนตรีไปยังจุดใส่บาตรพระสงฆ์ 161 รูป พร้อมใส่บาตรพระสงฆ์จำนวน 9 ชุด ร่วมกับบรรดาข้าราชการและประชาชน โดยนายกฯ มีสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกล่าวทักทายประชาชนที่มาใส่บาตร

จากนั้น นายกรัฐมนตรีจะได้นำคณะรัฐมนตรี ร่วมลงนามถวายพระพรที่ศาลาสหทัยสมาคม ภายในพระบรมมหาราชวัง

***กทม.เปิดรับบริจาคโลหิต

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ได้ร่วมพิธีทำบุญตักบาตร ที่ท้องสนามหลวง และยังได้จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติด้วยการรับบริจาคโลหิตจากข้าราชการ ลูกจ้าง และประชาชนทั่วไป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่านในฐานะทรงเป็นองค์อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ซึ่งตั้งเป้าหมายรับบริจาคโลหิตจำนวน 161 คน เนื่องจากในขณะนี้สภากาชาดไทยยังต้องการเลือดอีกเป็นจำนวนมาก จึงถือเป็นโอกาสที่ดีเพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการทำกุศลช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์

***เหล่าทัพร่วมเฉลิมพระเกียรติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทุกเหล่าทัพ พร้อมด้วยทหารในสังกัด ได้จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติอย่างพร้อมเพรียงกัน โดยกองทัพบก ได้จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติขึ้นที่กองบัญชาการกองทัพบก ถนนราชดำเนิน โดยมี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธาน ประกอบพิธีถวายราชสักการะและถวายพระพร พิธีสงฆ์และพิธีการไถ่ชีวิตโคกระบือ โดยมีนายทหารระดับสูงของกองทัพบก สมาชิกสมาคมแม่บ้านทหารบก เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง

กองทัพเรือ ได้จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ณ หอประชุมกองทัพเรือ เขตบางกอกใหญ่ โดยมี พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีถวายพระพรชัยมงคล หน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี การลงนามถวายพระพร นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ และพิธีปล่อยพันธุ์ปลา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และยังมีการจัดกิจกรรมในพื้นที่หน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือ เช่น โครงการน้อมเกล้าฯ ถวายปลากะตักและปลาทูแห้ง เฉลิมพระเกียรติ โครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ กิจกรรมค่ายเยาวชน "ตามรอยพระบาท องค์สยามบรมราชกุมารี" เป็นต้น

ส่วนกองทัพอากาศ พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ พร้อมด้วยนายกสมาคมแม่บ้านทหารอากาศ เป็นประธานจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ อาคารรณนภากาศ โรงเรียนนายเรืออากาศ ประกอบด้วย พิธีถวายราชสักการะ และกล่าวคำถวายพระพรชัยมงคล พิธีไถ่ชีวิตโค-กระบือถวายเป็นพระราชกุศล และร่วมชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ

***ทุกจังหวัดพร้อมใจถวายพระพร

สำหรับบรรยากาศในจังหวัดต่างๆ ทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก ภาคกลาง และภาคใต้ ผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ ได้นำข้าราชการ ประชาชน พร้อมใจกันสวมเสื้อสีม่วง และจัดพิธีทำบุญตักบาตร เพื่อเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อย่างพร้อมเพียงกัน รวมทั้งได้มีการจัดกิจกรรมที่เป็นสาธารณประโยชน์ เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติด้วย

***ยกย่อง "สมเด็จพระเทพ"ครูผู้ยิ่งใหญ่

พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระองค์ท่านทรงเป็นครูมา 30 กว่าปีในโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ทั้งยังทรงดูแลโรงเรียนจิตรลดา และโรงเรียนต่างๆ ที่สำคัญพระองค์ทรงติดตามการจัดการศึกษาทั่วประเทศ โดยเฉพาะในถิ่นทุรกันดารที่ไม่มีใครอยากไปเป็นครู เพราะเดินทางยาก มีแต่เด็กมอมแมม แต่พระองค์ทรงเสด็จไปทุกแห่ง และจากที่ตนได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ หลายครั้ง จึงมีโอกาสได้เห็นความทุ่มเทของพระองค์ และความใส่ใจที่ทรงมีต่อผู้บริหารโรงเรียน ไม่เว้นกระทั่งครูเล็กๆ ก็ยังทรงจำได้

***สธ.จัด31โครงการพัฒนาสุขอนามัย

ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รักษาการปลัดกระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ ได้ร่วมพิธีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 60 พรรษา โดยร่วมพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล พร้อมร่วมกันร้องเพลงมาร์ชพระเทพของชาวไทย

ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า สธ.ได้รับพระราชทานพระราชานุญาตในการดำเนินโครงการเฉลิมพระเกียรติ เรื่อง “ประยุกต์วัฒนธรรม ลดเหลื่อมล้ำ พัฒนาคน นำชนสุขภาพดี ด้วยพระบารมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ” มีโครงการย่อยรวม 31 โครงการ ซึ่งจะดำเนินการตลอดปี ทั้งในระดับส่วนกลางและในระดับพื้นที่ อาทิ โครงการด้านไอโอดีน การขับเคลื่อนชุมชนหมู่บ้านไอโอดีนทั่วประเทศให้ได้ 100% ภายในปี 2558 ซึ่งจะทำให้คนไทยได้รับสารไอโอดีนเพียงพอต่อการพัฒนาสติปัญญา โครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบในประชาชนอายุ 20-50 ปี จำนวน 28 ล้านคน โครงการควบคุมโรคหนอนพยาธินักเรียน เยาวชนในถิ่นทุรกันดาร การพัฒนาสุขศาลาพระราชทานในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน เป็นต้น โดย สธ. ได้คัดเลือกโครงการเด่นที่สอดคล้องกับสภาพปัญหาแต่ละพื้นที่ สรุปเป็นบทเรียน เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ด้านสุขภาพในศูนย์เรียนรู้สุขภาพ มุ่งหวังปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของประชาชนในการลดป่วย ลดโรค

***เพิ่ม4บุคคลในภาพสนองงานทำสารคดี

นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า ได้ประกาศรายชื่อบุคคลในภาพพระราชกรณียกิจ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่มีส่วนในการสนองงานในโครงการตามพระราชดำริ ได้แล้วจำนวน 40 คน โดยจะคัดเลือก 4 คน คือ 1.คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ ด้านการศึกษา 2.นายเกียรติภูมิ ภักดีไทยเทศา ด้านการสาธารณสุข (บัณฑิตคืนถิ่น) สถานีอนามัยหม่องกวั๊ก อุ้มผาง จ.ตาก 3.นางสิริเลิศ เมฆไพบูลย์ ด้านอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ4.น.ส.สุพรรณี เหล็กไหล ด้านการศึกษา อดีตนักเรียนทุนของสมเด็จพระเทพฯ เพื่อมาผลิตเป็นสารคดีเผยแพร่ความรู้และองค์ความรู้ตามพระราชกรณียกิจของพระองค์ต่อไป

คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ กล่าวว่า สิ่งที่ประทับใจมากที่สุดที่มีต่อสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เรื่องของพระเมตตา ทรงมีพระเมตตาสูงมาก โดยเฉพาะด้านการศึกษากับนักเรียนในต่างจังหวัดที่ด้อยโอกาส และทรงห่วงคนทั้งประเทศ อยากให้ทุกคนมีความสุข ไม่อยากให้เขาด้อยโอกาส

นายเกียรติภูมิ กล่าวว่า รู้สึกประทับใจทุกครั้งที่ไปรับเสด็จ ซึ่งพระองค์จะจำชื่อได้ และเรียกชื่อทุกครั้ง เราก็ดีใจและภูมิใจ คนเป็นหมื่นเป็นแสนเป็นล้าน เราเป็นคนธรรมดา ยังจำชื่อเราได้ รู้สึกภูมิใจที่สมเด็จพระเทพฯ ให้ทุนไปเรียนต่อ และทุกครั้งที่มีโอกาสเจอกับพระองค์ท่านก็จะเป็นห่วงเป็นใย และถามทุกข์สุขตลอด ซึ่งวันนี้ฝันของตนเป็นจริงเพราะพระองค์ท่าน ตนได้เป็นหมออนามัย กลับมาช่วยรักษาชาวบ้านที่เจ็บป่วยในถิ่นทุรกันดาร

นางสิริเลิศ กล่าวว่า พอได้เข้าใกล้ชิดก็ได้ทราบว่าพระองค์เป็นคนเรียบง่ายๆ พระทัยดี ท่านจะง่ายๆ สบายๆ ท่านขยันมาก ติดตามงาน เวลาเสด็จจะเห็นว่าจะเอาหลายๆ งานมารวมกันไว้ จะไม่ค่อยเสด็จงานเดียว มันเสียเวลา ท่านมัธยัสถ์ ดูรายละเอียด เพราะฉะนั้นคนที่รับถวายงานจะได้เรียนรู้จากเรื่องเหล่านี้ นี่คือข้อคิดที่ได้จากพระองค์

น.ส.สุพรรณี กล่าวว่า รู้สึกประทับใจพระองค์ท่านเป็นกันเอง พระองค์ท่านมาดูงานในถิ่นทุรกันดาร ไม่เคยเหนื่อย พระองค์เป็นแบบอย่างของตนนำมาใช้ในการดำรงชีวิต โดยเฉพาะความมานะอดทน ความเพียรพยายามในการทำงานที่ไม่เคยเหนื่อย ไม่เคยย่อท้อ ขณะนี้ตนเป็นครูอัตราจ้าง ตั้งใจถ่ายทอดความรู้ให้เด็กๆ ขณะเดียวกันก็ไม่ทิ้งเกษตรกรรมซึ่งเป็นรากฐานของครอบครัว ยังสานต่อการเกษตร

***แห่แลกธนบัตรสมเด็จพระเทพฯ คึกคัก

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการแลกธนบัตรราคา 100 บาท เนื่องในโอกาสเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและพระราชกรณียกิจนานัปการที่มีต่อปวงชนชาวไทย ส่วนใหญ่เป็นไปด้วยความคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า อย่างธนาคารไทยพาณิชย์ สาขารัชโยธิน สำนักงานใหญ่ เปิดให้แลกธนบัตรตั้งแต่เวลา 09.00 น. ประชาชนเข้าคิวแลกธนบัตรหมด 5,000 ฉบับภายในเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง เช่นเดียวกับธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ สีลม ธนาคารกรุงไทย สำนักงานใหญ่ นานา และธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนพหลโยธิน ขณะที่ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐบาล ได้แก่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารออมสิน ก็มีมีประชาชนเข้าคิวจองธนบัตรคึกคักเช่นกัน โดยผู้ที่มาแลกตอบตรงกันว่า ต้องการเก็บไว้เป็นที่ระลึก ถือเป็นสิริมงคลกับชีวิต
ส่วนการจัดสรรวันแรก พบว่าธนาคารหลายแห่งกำหนดให้แลก 1 คน ต่อ 1 ฉบับ เพื่อให้ได้รับบริการอย่างทั่วถึงตามนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งมีการจัดพิมพ์ทั้งสิ้น 10 ล้านฉบับ

นายวรพร ตั้งสง่าศักดิ์ศรี ผู้ช่วยผู้ว่าการสายออกบัตรธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้รายงานการจ่ายแลกธนบัตรที่ระลึกสมเด็จพระเทพรัตนฯ ในวันแรกวานนี้ (2 เม.ย.) เมื่อเวลา 17.43 น. พบว่า ประชาชนให้ความสนใจเข้าคิวแลกธนบัตรจากสาขาธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินรัฐทั้ง 4 แห่งเป็นอย่างมาก โดยในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีประชาชนแลกธนบัตรไปแล้วประมาณ 80% ในส่วนภูมิภาคมีไปแลกแล้วประมาณ 50% ซึ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ ธปท.กำหนดให้บริการแลกธนบัตรในงานกาชาด ซึ่งสามารถแลกได้รายละไม่เกิน 5 ฉบับ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บูท ธปท. ภายในงานกาชาด ซึ่งเป็นวันแรกให้ประชาชนแลกธนบัตร พร้อมกับสาขาสถาบันการเงินทั่วไป พบว่า ส่วนใหญ่มารอก่อนเวลาเปิดงานจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้สูงอายุ

นอกจากนี้ ยังพบว่า สาขาธนาคารเฉพาะกิจรัฐบางแห่ง ได้ติดป้ายหน้าหรือภายในธนาคารว่าธนบัตรดังกล่าวยังมาไม่ถึงสาขาและให้ประชาชนมาแลกวันที่ 3 เม.ย.นี้แทน

***รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ร่วมถวายพระพร

ทวิเตอร์กระทรวงการต่างประเทศ ได้เผยแพร่ ข้อความถ้อยแถลงเฉลิมพระเกียรติและถวายพระพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา ในวันที่ 2 เม.ย.2558 ของนาย John Kerry รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา

***นายกฯ นำจุดเทียนชัยถวายพระพร

วันเดียวกันนี้ เวลา 19.19 น. นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เดินทางมาถึงมณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อเป็นประธานในพิธีกล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ และถวายเครื่องราชสักการะจุดเทียนถวายพระพรชัย และถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมีคณะรัฐมนตรี ข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ และประชาชนทุกสาขาอาชีพ พร้อมใจกันสวมเสื้อสีม่วงซึ่งเป็นสีของวันพระราชสมภพ เข้าร่วมพิธีเพื่อแสดงความจงรักภักดีอย่างพร้อมเพรียง พร้อมนำกล่าวถวายพระพรชัยมงคล

จากนั้นนายกรัฐมนตรี และผู้ร่วมในพิธีได้ร่วมกันจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เพื่อแสดงความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมกับร้องเพลงมาร์ช “พระเทพของชาวไทย” และร่วมกันเปล่งเสียงทรงพระเจริญอย่างกึกก้องทั่วมณฑลพิธี
กำลังโหลดความคิดเห็น