xs
xsm
sm
md
lg

ถ้าผมได้เป็นนายกฯ ...

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ป้อมพระอาทิตย์
โดย โสภณ องค์การณ์

คำท้าทายของท่านผู้นำให้ผมเข้าไปบริหารบ้านเมืองแทนการนั่งวิพากษ์วิจารณ์ ทำให้ท่านอารมณ์เสียจนแทบควบคุมตัวเองไม่อยู่ทำให้ผมรู้สึกเป็นห่วงบ้านเมืองมาก ยังดีที่ประเทศไม่มีศึกสงคราม ถ้าท่านต้องบัญชาการรบ หรือตัดสินใจ ยังจินตนาการไม่ได้ว่าจะเผชิญกับจุดจบอย่างไร

ถ้าท่านมุทะลุดุดัน โมโหเลือดเดือดพล่านคงเหมาะกับการเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันได้ดี

แต่ถ้าท่านใช้ยุทธวิธีล้งเล้งเม้งแตก ขู่คำรามใส่ข้าศึก คงทำได้ครั้งเดียว โดนลองของแน่ เหมือนเล่นเผ กบไต๋เพื่อลักไก่ ก็ทำได้ไม่กี่ครั้ง ถ้าไม่ของจริง สู้กี่ครั้งก็แพ้

วันนี้ผมไม่หาเรื่องต่อความยาวสาวความยืดอะไรนะครับ ผมหวังดีต่อท่านเสมอ

การที่ท่านล้งเล้ง เรียกผมว่า “ไอ้โสภณ” ทั้งๆ ที่ท่านอายุน้อยกว่าผม 5 ปี นั้นผมไม่โกรธเคืองท่านหรอกครับ ใครเจอผมก็ไม่นึกว่าอายุผมเยอะ เพราะดูแล้วหน้าอ่อนเยาว์กว่าอายุจริง

ผมเป็นคนไม่เครียด มีอารมณ์ขัน ชอบเล่าโจ๊กให้คนหัวเราะ ทำให้ไม่มีปัญหามาก

ผมไม่เป็นคนเรื่องเยอะ หรือจำเป็นต้องทำอะไรมีพิธีกรรมเยอะ หวังผลสุดท้ายเป็นตัวชี้วัด

การที่ท่านโกรธผมจนปากคอสั่น ผมรู้สึกดีใจ ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตในการทำงานเป็นสื่อมวลชนยาวนานเกือบ 40 ปี นานพอๆ กับท่านผู้นำรับราชการในกองทัพนั่นแหละ

ผมไม่ว่าท่านหรอก ท่านคุ้นเคยกับบรรยากาศในค่ายทหาร ชีวิตไม่อิสระเสรี วิพากษ์วิจารณ์ผู้บังคับบัญชา เถียงนายไม่ได้ คิดเองไม่ได้ รอฟังคำสั่งอย่างเดียวจนกระทั่งวันที่ท่านได้ตำแหน่งสูงสุด

ถึงวันนั้นช้าเกินไปหรือไม่สำหรับการพัฒนากระบวนความคิดอิสระเสรี เป็นตัวของตัวเอง

ยิ่งมารับภารกิจหนักหนาสาหัสแบบนี้ ในบรรยากาศไม่คุ้น ย่อมเครียดแน่ บอกแล้วว่าประชาชนไม่ใช่ไอ้เณร ทหารเกณฑ์ที่นายตะคอกใส่ได้ตามอารมณ์ ประชาชนคุ้นกับการใช้สิทธิเสรีภาพเต็มที่

ท่านต้องปรับตัวเองด้วย ไม่ใช่สั่งให้คนอื่นไปเข้าค่ายทหารเพื่อปรับทัศนคติ ท่านให้คนไทยใส่เสื้อขนาดเดียวกันทุกคนไม่ได้ อย่างที่ท่านบอกอเมริกานั่นแหละ

ผมทำงานสื่อเริ่มจากการเขียนภาษาอังกฤษ นานกว่า 20 ปีก่อนจะเริ่มเขียนในสื่อภาษาไทย

ช่วงเวลากว่า 30 ปี ผมได้เดินทางไปมากว่า 50 ประเทศ ได้พบปะสัมภาษณ์ผู้นำองค์กรสากล ผู้บริหารบริษัทข้ามชาติ รัฐมนตรี ผู้นำรัฐบาลหลายประเทศ และผมต้องยอมรับประการหนึ่ง ยังไม่มีใครเหมือนท่านแม้แต่คนเดียวในการแสดงออกในสถานการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะการแสดงออกทางอารมณ์ และผมยังเป็นผู้ฝึกอบรมด้านการปฏิบัติตนของผู้นำองค์กรว่าควรทำอย่างไรเมื่อเกิดวิกฤต ต้องตอบตำถามสื่อมวลชนและกระแสความคิด มุมมองของมหาชนอย่างไร

ผมไม่ถือสาท่านหรอก แต่ห่วงลึกๆ ในประเด็นอารมณ์และขีดความสามารถของท่านในการแยกแยะมิตรและศัตรู ผมไม่แน่ใจว่าท่านได้อ่านข้อเขียนของผมอย่างละเอียดหรือไม่ เกรงว่าท่านได้รับฟังเฉพาะการสรุปประเด็นโดยทีมงาน ถ้าติดตามอ่านมาโดยตลอดจะรู้ว่าผมท้วงติงเสนอแนะด้วย

เอาเถอะ ไม่เป็นไรครับ ผมเพียงอยากบอกว่า ถ้าผมได้เป็นนายกรัฐมนตรี มีอำนาจเท่ากับท่านทุกประการ ผมเชื่อมั่นว่าผมจะทำหลายอย่างเพื่อให้บ้านเมืองดีขึ้นโดยรวม ประชาชนมีความสุข ลดระดับความเหลื่อมล้ำด้านการทำ มาหากิน ไม่อยู่ในสภาพแร้นแค้นและคับแค้นใจดังเช่นทุกวันนี้

เอาเป็นว่า ถ้าผมได้เป็นนายกฯ ขั้นแรกผมจะเร่งทำในเรื่องต่อไปนี้

ผมจะออกกฎหมายตั้งบริษัทมหาชนโดยให้คนไทยทุกคนมี 1 หุ้นราคา 1 พันบาทเป็นทุนก่อตั้งบริษัท ก็จะได้อย่างน้อย 65,000 ล้านบาท ถ้าใครยังไม่มี ผ่อนจ่ายก็ได้ หุ้นนี้สิ้นสภาพเมื่อผู้ถือเสียชีวิตเด็กเกิดใหม่มีสิทธิได้หุ้นเมื่อบรรลุนิติภาวะ และให้บริษัทเป็นเจ้าของสัมปทานปิโตรเลียมทั้งหมด ไม่ต้องให้บริษัทต่างชาติมากอบโกยความมั่งคั่งของทรัพย์แผ่นดินไทย ให้บริษัท ปตทสผ. หรือบริษัทอื่นๆ เป็นคู่สัญญารับจ้างขุดเจาะสำรวจ ผลิตปิโตรเลียมแต่ผลผลิตเป็นของบริษัทมหาชน

ผมจะออกกฎหมายเอาคืนที่ดิน สปก. ภบท. จากผู้ถือครอง ให้เหลือไว้เพียงไม่เกิน 30 ไร่ต่อครอบครัว ที่เหลือจะจัดสรรให้ผู้ไม่มีที่ดินทำกินทั่วประเทศโดยห้ามถ่ายโอนกรรมสิทธิ์เว้นให้ทายาท

ผมจะออกประกาศให้เร่งปลูกป่าทั่วประเทศ ฟื้นฟูแหล่งต้นน้ำ ใครบุกรุกป่ามีความผิดหนัก

ผมจะออกประกาศห้ามนำเข้า หรือใช้สารเคมีเกษตร ปุ๋ยเคมี สารกำจัดศัตรูพืช โดยส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ด้านเงินทุน แหล่งจำหน่ายสินค้า

ผมจะออกประกาศตรวจสอบการถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดิน จำกัดการถือครองเพื่อการเกษตร ที่อยู่อาศัย ห้ามการถือครองที่ดินโดยไม่จำกัดเป็นหมื่นหรือแสนไร่ดังเช่นทุกวันนี้

จะตรวจสอบการถือครองอสังหาริมทรัพย์ ที่นา พื้นที่เกษตร โดยคนต่างชาติ ผู้ถือครองผ่านตัวแทน นายหน้าต้องถูกยึด มีโทษปรับและโทษอาญา

จะปฏิรูปการศึกษาอย่างเร่งด่วนโดยการร่วมมือกับภาคธุรกิจ องค์กรเอกชน เป็นเงื่อนไขในการออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจ โดยให้องค์กร บริษัท ส่งตัวแทนไปเป็นครู ผู้สอนในโรงเรียนต่างๆ ในชุมชนที่ประกอบธุรกิจ บริษัทต่างชาติให้รับผิดชอบด้านผู้สอนภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่นๆ

บริษัทเชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมให้ส่งผู้รู้ด้านวิศวกรรมไปสอนในสถาบันศึกษา ค่าใช้จ่ายถือว่าเป็นภาระช่วยเหลือสังคม จัดสรรที่ดินสำหรับอุตสาหกรรม ห้ามอยู่ต้นน้ำ

จัดให้มีตลาดชุมชน ควบคุมการขยายตัวของห้างยักษ์ ห้างสะดวกซื้อ เปิดโอกาสให้รายย่อยได้ทำมาค้าขาย ชาวบ้านทั่วไปจะมีลู่ทางสร้างรายได้
นี่คือเรื่องหลัก อย่างอื่นตามมาแน่ โดยเฉพาะการปฏิรูปกระบวรการยุติธรรมทุกระดับ

ถ้าท่านผู้นำทำอย่างที่ผมว่าไว้ ผมไม่จำเป็นต้องไปเป็นนายกฯ เป็นสื่ออย่างทุกวันนี้ก็พอแล้ว หวังว่าท่านคงไม่โกรธผมอีก ขอแสดงความนับถือด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น