xs
xsm
sm
md
lg

จับ"ด.ต.ชาญชัย"หลังหนีกบดานลาว มือชี้เป้าฆ่า"พระหมอ" เตรียมขอตัวดำเนินคดี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อุดรธานี-จับแล้ว "ด.ต.ชาญชัย" คนชี้เป้าให้ "ปัญจ๋า" ลงมือลั่นไกสังหาร "พระหมอ" ขณะหนีไปกบดานที่เมืองปากกระดิ่ง แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว เตรียมประสานนำตัวกลับมาดำเนินคดี อีกด้านเจ้าหน้าที่คุมตัวมือปืนทำแผนจุดรับเงินและทิ้งปืนลงน้ำ เจ้าตัวสารภาพใช้รถ 4 คันก่อนลงมือยิง


พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.กองแผนงานพิเศษ สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามจับกุมคนร้ายที่ร่วมกันสังหารพระอาจารย์บัณฑิต สุปัณฑิโต หรือพระหมอ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าตอสีเสียด ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้สามารถจับกุมตัว ด.ต.ชาญชัย สร้อยสังวาลย์ ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.เมือง จ.อุดรธานี ช่วยราชการชุดปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.อุดรธานี คนชี้เป้าให้นายปัญจ๋า ชาลีแสน หรือโบ้ ลงมือสังหารพระหมอได้แล้วที่บ้านหลังหนึ่งในเมืองปากกระดิ่ง แขวงบอลิคำไซย สปป.ลาว

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังสามารถยึดรถต้องสงสัยได้ด้วย ซึ่งถูกปรับเปลี่ยนสีจากเดิมสีขาวเป็นสีดำ โดยตรวจยึดได้ที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู

***จับ"ดต.ชาญชัย"ได้แล้วที่สปป.ลาว

พล.ต.ต.ชาติชาย เอี่ยมแสง ผู้บังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 4 (ผบก.ตม.4) กล่าวว่า ล่าสุด ได้รับการประสานจากชุดคลี่คลายคดีว่า สามารถจับกุมตัว ด.ต.ชาญชัย สร้อยสังวาลย์ ผู้ต้องหาในคดีลอบสังหารพระได้แล้ว ที่แขวงบอลิคำไซย สปป.ลาว โดยจะควบคุมตัวข้ามมายังประเทศไทย ทางด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.บึงกาฬ

พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. กล่าวว่า ได้รับแจ้งว่าตำรวจ สปป.ลาวว่าได้จับกุม ด.ต.ชาญชัยได้แล้วขณะกบดานบริเวณชายแดนในประเทศลาว ห่างจาก จ.บึงกาฬ ของไทยกว่า 100 กิโลเมตร โดยกำลังรอรับมอบตัวผู้ต้องหามาให้นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่สอบสวนอยู่

รายงานข่าวแจ้งว่า ด.ต.ชาญชัย ได้หลบหนีจากฝั่งไทยไปกบดานอยู่ที่บ้านพักของเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่ฝั่ง สปป.ลาว ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ประสานกับตำรวจท้องที่ สปป.ลาว ให้ช่วยเหลือในการควบคุมตัวมาส่งยังด่านชายแดนฝั่ง จ.บึงกาฬ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของไทยได้ไปรับตัวผู้ต้องหามาสอบสวน

***เร่งประสานขอตัวกลับดำเนินคดี

พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า ขณะนี้ด.ต.ชาญชัย อยู่ระหว่างการควบคุมตัวอยู่ฝั่ง สปป.ลาว เมืองปากดิ่ง แขวงบอลิคำไชย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้เร่งประสานขอตัวกลับมาดำเนินคดีต่อไป

ขณะเดียวกัน เตรียมขอหมายจับจากศาลเพื่อจับกุมผู้ที่มีส่วนร่วมในกระบวนการฆ่าพระหมอเพิ่ม ประมาณ 3-4 คน แต่ไม่สามารถบอกได้ว่ามีใครบ้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยที่เดินทางไปขอรับตัว ด.ต.ชาญชัย ที่ สปป.ลาว ไม่สามารถนำตัวกลับเข้ามาสู่ประเทศไทยได้ เนื่องจาก ด.ต.ชาญชัย หลบหนีเข้าเมืองของประเทศ สปป.ลาว อย่างผิดกฎหมาย จึงถูกควบคุมตัวไว้ที่เมืองปากกระดิ่ง แขวงบอลิคำไซ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายของประเทศ สปป.ลาวก่อน

**แม่"ชาญชัย"วอนลูกมอบตัวชดใช้กรรม

ก่อนหน้านี้ นางขันตี สร้อยสังวาลย์ อายุ 74 ปี บ้านเลขที่ 95 หมู่ 2 ต.เชียงเพ็ง อ.กุดจับ จ.อุดรธานี มารดา ด.ต.ชาญชัย ได้กล่าวว่า ตนไม่นึกไม่ฝันว่าลูกชายจะไปร่วมฆ่าพระสงฆ์ จึงอยากให้ลูกชายเข้ามามอบตัวกับตำรวจ เพื่อความปลอดภัยของตนเอง และขอให้กลับเนื้อกลับตัว ให้สำนึกผิด อันไหนผิดไปแล้วก็สามารถเริ่มต้นใหม่ได้ ซึ่ง ด.ต.ชาญชัย เป็นลูกคนโตของครอบครัว เป็นคนซื่อและกตัญญูรู้คุณคน จริงจังกับชีวิตและการทำงาน

นางเด็ด ดาบุญ อายุ 68 ปี น้าสาว ด.ต.ชาญชัย กล่าวว่า อยากให้ ด.ต.ชาญชัยเข้ามอบตัว โทษหนักจะได้เป็นเบา ถ้าผู้ใช้เราไปฆ่าพระอาจฆ่าตัดตอนจะเป็นอย่างไร ให้คิดถึงหัวอกพ่อแม่ด้วย เพราะแก่เฒ่ามากแล้ว อาจจะไม่เห็นหน้ากันอีก ถ้าถลำลึกลงไปมากกว่านี้ ทุกคนในครอบครัวให้อภัยหมดแล้ว เพราะเห็นว่าหลงผิดไป หรืออาจมีความจำเป็นที่ต้องทำ แต่ก็ขอให้มามอบตัวกับผู้บังคับบัญชาเผื่อท่านจะช่วยเราได้ โทษอาจจะน้อยลงกว่าเดิม จะทำให้มีชีวิตรอดปลอดภัย แม้ว่าจะติดคุก ครอบครัวก็สามารถไปเยี่ยมกันได้อยู่

"หนีไปก็ไม่พ้น สักวันตำรวจก็ตามจับตัวได้ เวรกรรมมันมีจริง ขอให้กลับมาชดใช้กรรมที่ก่อเหตุขึ้นมาดีกว่า" นางเด็ด กล่าว

**คุมตัว"ปัญจ๋า"ทำแผนจุดรับเงิน-ทิ้งปืน

เมื่อเวลา 12.00 น. วันเดียวกันนี้ คณะสอบสวนคดีสังหารพระหมอ นำโดย พ.ต.อ.จักรกฤษณ์ จันทรัตน์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.บรรจบ สีหานาวี พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 4 ตำรวจกองปราบปรามกว่า 50 นาย นำตัวนายปัญจ๋า หรือโบ้ ชาลีแสน ผู้ต้องหายิงพระหมอ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพจุดที่ ด.ต.ชาญชัย สร้อยสังวาลย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีสังหารพระหมอนำเงินที่เหลืออีก 20,000 บาทมาให้ที่หน้าวัดสว่างศรีบูรพา หมู่ 2 บ้านเหล่าเชียงสง ต.แชแล อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี หลังจากก่อเหตุได้ 2 วัน

จากนั้นเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จตุพลปานรักษา รอง ผบช.ภาค 4 พล.ต.ต.พีระพงษ์วงษ์ สมาน ผบก.ศูนย์ สส.ภาค 4, พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูน ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พร้อมตำรวจชุดคลี่คลายคดีได้นำตัวนายปัญจ๋า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์อีกหลายจุด

เริ่มที่บริเวณบ้านพักถนนสนามบิน เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ จากนั้นไปที่วิทยาลัยสารพัดช่างกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาระบุว่าเป็นจุดประกอบอาวุธปืน จากนั้นควบคุมตัวไปยังพนังกั้นแม่น้ำชีเขตรอยต่อระหว่าง อ.กมลาไสย กับ อ.ฆ้องชัย ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาระบุว่าเป็นจุดที่นำอาวุธปืนมาทิ้ง ก่อนที่จะทำการตัดทำลายที่บ้านพัก จากนั้นได้ใช้หนังสติ๊กยิงอาวุธปืนทิ้งลงแม่น้ำชีเพื่อทำลายหลักฐาน ซึ่งจุดนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้นักประดาน้ำของมูลนิธิเต็กก่า จีโหงวเกาะ ลงไปค้นหา ซึ่งการค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากมีกระแสน้ำที่เชียวกาจ ท่ามกลางความสนใจของประชาชน โดยเบื้องต้นยังไม่พบอาวุธปืนสังหาร

พล.ต.ต.จตุพลกล่าวว่า การหาอาวุธปืนต้องใช้เวลา ซึ่งจากคำให้การผู้ต้องหาเชื่อว่าอาวุธปืนถูกนำมาทิ้งบริเวณนี้

**"ปัญจ๋า" สารภาพใช้รถ 4 คันก่อนลงมือ

นายปัญจ๋ากล่าวว่า เงินค่าจ้าง 50,000 บาท ตนนำไปใช้หมดแล้ว โดยเอาไปเปลี่ยนยางรถ 13,000 บาท ซ่อมรถไถ 17,000 บาท จ่ายค่าฌาปนกิจให้พ่อแม่ใช้อีก 4,000 บาท ที่เหลือใช้จ่ายส่วนตัว สำหรับรถที่ใช้ก่อเหตุครั้งนี้มี 4 คัน คือ รถกระบะโตโยต้า วีโก้ 4 ประตู สีดำทะเบียน กค 8584 กาฬสินธุ์ รถยนต์ฮอนด้า ซีวิค ไม่ทราบทะเบียน รถกระบะสีขาว 2 คัน ไม่ทราบทะเบียน

"ระหว่างลงมือ ผมพร้อมคนขับรถได้ใช้รถรถกระบะสีขาว 1 คันขับไปสังเกตการณ์เพื่อรอสังหารวันที่ 27 และ 28 ก.พ.แต่ไม่มีโอกาสได้ยิง จึงนำรถคันดังกล่าวนำไปจอดไว้ที่โรงสีสิริยากร อ.สร้างคอม จ.อุดรธานี จากนั้นมีคนขับรถฮอนด้า ซีวิค มารับไปเอารถอีกคันมาใช้ก่อเหตุวันที่ 1 มี.ค."นายปัญจ๋ากล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น