xs
xsm
sm
md
lg

“เซ็ปเป้”ฝันตามรอย“กระทิงแดง”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – “เซ็ปเป้”ฝันโกอินเตอร์เทียบชั้น “กระทิงแดง” สู่บริษัทจำหน่ายเครื่องดื่มและอาหารระดับโลกให้ได้ภายในปี 63 ชูแบรนด์ “โมกุ โมกุ” และ “เซ็ปเป้ อโล เวร่า” พระเอกส่งออก ล่าสุดเร่งปรับโครงสร้างพร้อมลุยภายในปี60 สู่ปี63 พร้อมรายได้ทะลุ 10,000 ล้านบาท จากเป้ารายได้ปีนี้ 3,500 ล้านบาท โตจากปีก่อน 20%
นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่ม เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทมีแผนการดำเนินงานที่ต้องการก้าวขึ้นเป็นบริษัทจำหน่ายเครื่องดื่มและอาหารระดับโลกให้ได้ภายในปี 63 ในลักษณะเดียวกับแบรนด์ กระทิงแดง ที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการวางแผนและปรับโครงสร้างภายในองค์กร ทั้งการปรับทีมบริหาร และตั้งบริษัท เซ็ปเป้ โฮลดิ้งไทยแลนด์ เข้ามาดูแลกิจการในต่างประเทศ ทั้งแบบดำเนินการเองและร่วมมือกันพันธมิตร ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการร่วมกับพันธมิตรในจีนและอินโดนีเซียอยู่
”เซ็ปเป้ ต้องการที่จะก้าวขึ้นมาสู่การเป็นแบรนด์ระดับโลกเช่นเดียวกับแบรนด์กระทิงแดง ที่ได้รับการยอมรับและสามารถส่งสินค้าไปขายทั่วโลก โดยสินค้าแต่ละตัวจะต้องมียอดขายไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท จากขณะนี้สินค้าหลักในการส่งออก คือ แบรนด์ โมกุ โมกุ และ เซ็ปเป้ อโล เวร่า ที่เป็นน้ำผลไม้ผสมเนื้อ โดยพบว่าได้รับความนิยมมากในต่างประเทศ โดยเฉพาะแบรนด์โมกุโมกุ กำลังทำยอดขายส่งออกได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่วางแล้ว”
อย่างไรก็ตามในส่วนของการวางแผนซื้อกิจการเครื่องดื่มและอาหาร ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่มีศักยภาพเพื่อนำไปขายร่วมกันนั้น คาดว่าจะเริ่มได้ในปี60 ทั้งการคิดค้นและผลิตเอง หรือการเข้าซื้อกิจการเข้ามาบริหารต่อ จากปัจจุบันยังไม่มีสินค้าดังกล่าวจำหน่าย เนื่องจากอยู่ในระหว่างการศึกษาถึงโอกาสของอาหารแต่ละกลุ่ม ส่วนในเรื่องของกำลังการผลิตสินค้าขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายโรงงานซึ่งจะแล้วเสร็จหลังกลางปีนี้ ส่งผลให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 30% รองรับการดำเนินธุรกิจได้ถึงปี 60 และต่อจากนั้นจึงจะพิจารณาเรื่องขยายโรงงานใหม่อีกครั้ง
นางสาวปิยจิต กล่าวต่อว่า แผนการดำเนินธุรกิจเพื่อเป็นบริษัทระดับโลกในครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ 1.ช่วงการเพิ่มฐานประเทศคู่ค้า และขยายเครือข่ายในการกระจายสินค้า ตั้งแต่ปีนี้ถึงปี 60 โดยในปีนั้น บริษัทคาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 5,000 ล้านบาท และ2.ช่วงการส่งสินค้าไปจำหน่ายและการซื้อกิจการอื่นๆ ตั้งแต่ปี 60-63 ซึ่งส่งผลให้รายได้โตเป็นเท่าตัวจากปี 60 ขึ้นมาที่ 10,000 ล้านบาท จากรายได้ปีก่อนอยู่ที่ 2,857 ล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้าโต20% หรืออยู่ที่ประมาณ 3,500 ล้านบาท มาจากส่งออก 60% และจำหน่ายใฝนประเทศ 40% โดยแผนการส่งออกจะยังคงสัดส่วนไว้ที่ 60-65% เช่นเดิม
กำลังโหลดความคิดเห็น