สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,229 คน ถึง การเมืองไทย หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้ามาบริหารประเทศ พบว่า 80.63% ความขัดแย้งลดน้อยลง บ้านเมืองสงบ เป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น 77.87 % กำลังเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น 71.93 % ยังไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ สินค้าแพง ค่าครองชีพสูง 70.55 % มีการชี้แจง เปิดเผยข้อมูลต่างๆให้ประชาชนรับรู้มากขึ้น และ 61.76% เป็นการเมืองที่มีทหารเข้ามาบริหารประเทศ มาจากการทำรัฐประหาร
เมื่อถามถึง จุดเด่นการเมืองไทย 79.09 % เป็นรัฐบาลทหาร ทำให้มีความเข้มแข็ง มีอำนาจเด็ดขาดในการตัดสินใจ 74.86 % ทำงานรวดเร็ว แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี โดยเฉพาะปัญหาของประชาชน 72.82% มีการตรวจสอบมากขึ้น ขจัดการทุจริตคอร์รัปชัน 68.19% เน้นการปฏิรูปการเมืองไทยให้เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น และ 65.91% การทะเลาะเบาะแว้งของนักการเมืองลดน้อยลง เมื่อถามถึงจุดอ่อนการเมืองไทย 78.93 % ยังขาดความสามัคคี มีความขัดแย้ง แบ่งพรรคแบ่งพวก 67.13% ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ฝังรากลึกมานาน มุ่งหวังแต่อำนาจและผลประโยชน์ 66.64% อยู่ภายใต้การประกาศใช้กฎอัยการศึก ถูกปิดกั้น ควบคุมสิทธิเสรีภาพ 64.93% ไม่มีเสถียรภาพ มาจากการทำรัฐประหารทำให้ไม่ได้รับการยอมรับ และ 63.47% ขาดความรู้ความเชี่ยวชาญ แก้ปัญหาไม่ตรงจุด เศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น
เมื่อเปรียบเทียบการเมืองไทย ณ วันนี้ กับก่อนที่จะมีการรัฐประหาร 63.55% ดีขึ้น เพราะ บ้านเมืองสงบเรียบร้อย นักการเมืองไม่ทะเลาะเบาะแว้ง ปราบปรามการทุจริต คอร์รัปชัน จัดระเบียบสังคม ฯลฯ 26.04% เหมือนเดิม เพราะ ไม่ว่าใครจะเข้ามาบริหารก็เหมือนเดิม ปัญหาการเมืองไทยแก้ไขยาก ประชาชนยังมีความเป็นอยู่ลำบาก ฯลฯ และ 10.41% แย่ลง เพราะ ปัญหาความขัดแย้งยังคงมีอยู่เพียงแต่ยังไม่ปรากฏชัด ประชาชนถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพ เศรษฐกิจแย่ฯลฯ และ เมื่อถามถึงบทบาทนักการเมืองไทย 76.32% ถูกควบคุมและมีบทบาทลดลง อยู่ในช่วงที่มี คสช. เข้ามาดูแล 75.67% เป็นที่จับตามองของสังคม มีทั้งนักการเมืองที่ดีและไม่ดี 73.80% ต้องทำงานมากขึ้น พิสูจน์ตัวเอง มีผลงานเป็นรูปธรรม 69.24% ยังคงมีการใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ มีการทุจริตคอร์รัปชัน และ 62.33% นักการเมืองเป็นตัวแทนของประชาชน เป็นปากเป็นเสียงให้กับคนในพื้นที่
เมื่อถามถึง จุดเด่นการเมืองไทย 79.09 % เป็นรัฐบาลทหาร ทำให้มีความเข้มแข็ง มีอำนาจเด็ดขาดในการตัดสินใจ 74.86 % ทำงานรวดเร็ว แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี โดยเฉพาะปัญหาของประชาชน 72.82% มีการตรวจสอบมากขึ้น ขจัดการทุจริตคอร์รัปชัน 68.19% เน้นการปฏิรูปการเมืองไทยให้เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น และ 65.91% การทะเลาะเบาะแว้งของนักการเมืองลดน้อยลง เมื่อถามถึงจุดอ่อนการเมืองไทย 78.93 % ยังขาดความสามัคคี มีความขัดแย้ง แบ่งพรรคแบ่งพวก 67.13% ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ฝังรากลึกมานาน มุ่งหวังแต่อำนาจและผลประโยชน์ 66.64% อยู่ภายใต้การประกาศใช้กฎอัยการศึก ถูกปิดกั้น ควบคุมสิทธิเสรีภาพ 64.93% ไม่มีเสถียรภาพ มาจากการทำรัฐประหารทำให้ไม่ได้รับการยอมรับ และ 63.47% ขาดความรู้ความเชี่ยวชาญ แก้ปัญหาไม่ตรงจุด เศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น
เมื่อเปรียบเทียบการเมืองไทย ณ วันนี้ กับก่อนที่จะมีการรัฐประหาร 63.55% ดีขึ้น เพราะ บ้านเมืองสงบเรียบร้อย นักการเมืองไม่ทะเลาะเบาะแว้ง ปราบปรามการทุจริต คอร์รัปชัน จัดระเบียบสังคม ฯลฯ 26.04% เหมือนเดิม เพราะ ไม่ว่าใครจะเข้ามาบริหารก็เหมือนเดิม ปัญหาการเมืองไทยแก้ไขยาก ประชาชนยังมีความเป็นอยู่ลำบาก ฯลฯ และ 10.41% แย่ลง เพราะ ปัญหาความขัดแย้งยังคงมีอยู่เพียงแต่ยังไม่ปรากฏชัด ประชาชนถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพ เศรษฐกิจแย่ฯลฯ และ เมื่อถามถึงบทบาทนักการเมืองไทย 76.32% ถูกควบคุมและมีบทบาทลดลง อยู่ในช่วงที่มี คสช. เข้ามาดูแล 75.67% เป็นที่จับตามองของสังคม มีทั้งนักการเมืองที่ดีและไม่ดี 73.80% ต้องทำงานมากขึ้น พิสูจน์ตัวเอง มีผลงานเป็นรูปธรรม 69.24% ยังคงมีการใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ มีการทุจริตคอร์รัปชัน และ 62.33% นักการเมืองเป็นตัวแทนของประชาชน เป็นปากเป็นเสียงให้กับคนในพื้นที่