ผู้ช่วย ผบ.ตร.หันพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองอุดรฯขอให้จับคนร้ายฆ่า "พระหมอ" ได้เร็ววัน ก่อนเรียกประชุมชุดคลี่คลายคดีนานกว่า 3 ชั่วโมง เผยทำงานคืบหน้าไปแล้วกว่า 70% สั่ง จนท.เร่งแกะรอยรถกระบะที่เหลืออีก 20 คันที่คาดว่าคนร้ายใช้ก่อเหตุ เผยตำรวจโชคดีได้อดีตมือปืนช่วยตามจับมือฆ่า กำชับ ผกก.เมืองอุดรธานี ลงพื้นที่หาข้อมูลเพิ่มเติม
เมื่อช่วงสายวานนี้ (16 มี.ค.) พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมเกียรติ เกิดจงรักษ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รอง ผบก.ภ.จว.) อุดรธานี พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ได้เดินทางไปสักการะอนุสาวรีย์พลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม และศาลหลักเมืองอุดรธานี ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอุดรธานี ก่อนเข้าร่วมประชุมเพื่อหารือการทำงานคลี่คลายคดีคนร้ายลอบยิงพระอาจารย์บัณฑิต สุปัณฑิโต หรือพระหมอ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าตอสีเสียด จ.อุดรธาานี
พล.ต.ท.ปัญญา เปิดเผยว่า ตอนที่สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นตนได้อธิษฐานขอให้ท่านคุ้มครองประชาชน และเจ้าหน้าที่ตำรวจให้อยู่อย่างมั่นคงปลอดภัย อยู่ดีมีสุข ในขณะเดียวกันได้ขอดลบันดาลให้พวกเราสามารถปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่โดยเฉพาะคดีคนร้ายลอบฆ่าพระหมอ นั้น ก็ขอให้สามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างราบรื่นและการดำเนินการต่างๆ เป็นไปด้วยความปลอดภัย
"ขอฝากไปยังมือปืนว่า ถ้ากลัวว่าจะถูกฆ่าตัดตอนก็ให้รีบเข้ามอบตัวซะ แต่ถ้ามั่นใจว่าจะไม่ถูกฆ่าตัดตอนก็หลบหนีให้ได้ตลอด" พล.ต.ท.ปัญญากล่าว พร้อมระบุด้วยว่า "ข่าวที่ออกไปว่ารู้ตัวคนร้ายแล้วนั้นไม่เป็นความจริง เพราะคนลงมือยิงเราก็ยังไม่รู้ตัว ส่วนคนบงการนั้นจากการสืบสวนเราค่อนข้างจะปักใจเชื่อว่าคาดการณ์ไม่ผิดตัว"
ต่อมาช่วงบ่าย ที่ห้องประชุมสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธร จังหวัดอุดรธานี จำกัด พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผช.ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รอง ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ได้มีการประชุมเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีคนร้ายลอบยิงพระหมอ" โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจากหลายหน่วยร่วมประชุม โดยใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ปัญญา เปิดเผยก่อนการประชุมว่า จากวันเกิดเหตุถึงปัจจุบัน มีผลการทำงานด้านการสืบสวนสอบสวนคืบหน้าไปแล้ว 70-80 เปอร์เซ็นต์ ชนวนและปมสังหารนั้นตอนนี้ค่อนข้างมั่นใจเป็นอย่างมาก คือ การเข้าใจผิด ส่วนที่ชุดทำงานกำลังทำอยู่ตอนนี้คือการแกะรอยคนลงมือก่อเหตุ โดยแกะรอยเริ่มจากรูปรถ ซึ่งคืบหน้าไปมากแล้วเหลือรถกระบะอีกประมาณ 20 คันที่ต้องตรวจสอบ
ส่วนกลุ่มคนร้ายที่มีความสามารถและศักยภาพทำงานฆ่าคนได้นั้น ขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าประกบติดตามตัวอย่างใกล้ชิดแล้วทั้งอดีตตำรวจ อดีตมือปืนที่พ้นโทษ ซึ่งมีหลายคนได้ออกมาแสดงตัวตนแล้วว่าไม่ใช่ แต่เราก็ต้องสอบสวนต่อไป โดยได้มีการติดตามตรวจสอบอาวุธปืนที่ก่อเหตุ โดยได้เจาะไปยังบุคคลที่มีความสามารถดัดแปลงอาวุธปืนโดยได้เรียกตัวนายปวิณชัย บุญพิเชษ อายุ 48 ปีช่างซ่อมอาวุธปืนและดัดแปลงอาวุธปืน อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 4 ต.บึงกาฬ อ.เมือง จ.บึงกาฬ มาสอบปากด้วย อีกทั้ง ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ก็ได้เข้าไปตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายว่าเกี่ยวข้องกับมือปืนฆ่าพระหมอ หรือไม่ แต่ก็ยังไม่พบหลักฐานอะไรเป็นพิเศษ มีเพียงอาวุธปืนขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอกและอุปกรณ์แตกแต่งปืนหลายอย่างเท่านั้นเอง
ภายหลังประชุมยาวนานกว่า 3 ชั่วโมง พล.ต.ท.ปัญญา เปิดเผยอีกครั้งว่า ผลการประชุมวันนี้ ได้มีการติดตามคนลงมือฆ่า โดยติดตามรถที่ใช้ก่อเหตุ และติดตามบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งโชคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แนวร่วมจากอดีตมือปืนมาร่วมทำงานติดตามคนร้ายด้วย
ส่วนอาวุธปืนที่ตรวจได้จากพื้นที่ จ.เลย จ.หนองคาย และ จ.บึงกาฬนั้น จะตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหรือไม่ ส่วนเรื่องรถยนค์คันที่ใช้ก่อเหตุตอนนี้มีมุมมองที่แคบลงมากแล้ว เหลือรถต้องตรวจสอบอีกเพียง 20 คันเท่านั้น ซึ่งจะเชื่อมโยงไปถึงตัวคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุได้
"ตอนนี้ผมได้กำชับไปยังผู้กำกับการ สภ.เมืองอุดรธานี ให้ลงพื้นที่หาข้อมูลเพิ่มเติม โดยเชื่อว่าในวันก่อเหตุน่าจะมีบุคคลพบเห็นแน่นอน สำหรับแนวทางการสืบสวนหาตัวคนบงการนั้น ต้องหาตัวบุคคลใกล้ชิดมาเพื่อกันเป็นพยานซัดทอด อย่างไรก็ตาม จากการตรวจพิสูจน์หลักฐานหัวกระสุนที่ได้ระบุแน่ชัดเลยว่า ปืนที่ใช้ยิงนั้นเป็นปืนเอ็ม 16 หรือ เอชเค และได้พยายามหาอาวุธ โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ออกกวาดล้าง ซึ่งได้อาวุธต้องสงสัยส่วนหนึ่งมาทำการตรวจสอบแล้ว" พล.ต.ท.ปัญญา กล่าว
เมื่อช่วงสายวานนี้ (16 มี.ค.) พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมเกียรติ เกิดจงรักษ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รอง ผบก.ภ.จว.) อุดรธานี พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ได้เดินทางไปสักการะอนุสาวรีย์พลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม และศาลหลักเมืองอุดรธานี ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอุดรธานี ก่อนเข้าร่วมประชุมเพื่อหารือการทำงานคลี่คลายคดีคนร้ายลอบยิงพระอาจารย์บัณฑิต สุปัณฑิโต หรือพระหมอ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าตอสีเสียด จ.อุดรธาานี
พล.ต.ท.ปัญญา เปิดเผยว่า ตอนที่สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นตนได้อธิษฐานขอให้ท่านคุ้มครองประชาชน และเจ้าหน้าที่ตำรวจให้อยู่อย่างมั่นคงปลอดภัย อยู่ดีมีสุข ในขณะเดียวกันได้ขอดลบันดาลให้พวกเราสามารถปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่โดยเฉพาะคดีคนร้ายลอบฆ่าพระหมอ นั้น ก็ขอให้สามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างราบรื่นและการดำเนินการต่างๆ เป็นไปด้วยความปลอดภัย
"ขอฝากไปยังมือปืนว่า ถ้ากลัวว่าจะถูกฆ่าตัดตอนก็ให้รีบเข้ามอบตัวซะ แต่ถ้ามั่นใจว่าจะไม่ถูกฆ่าตัดตอนก็หลบหนีให้ได้ตลอด" พล.ต.ท.ปัญญากล่าว พร้อมระบุด้วยว่า "ข่าวที่ออกไปว่ารู้ตัวคนร้ายแล้วนั้นไม่เป็นความจริง เพราะคนลงมือยิงเราก็ยังไม่รู้ตัว ส่วนคนบงการนั้นจากการสืบสวนเราค่อนข้างจะปักใจเชื่อว่าคาดการณ์ไม่ผิดตัว"
ต่อมาช่วงบ่าย ที่ห้องประชุมสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธร จังหวัดอุดรธานี จำกัด พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผช.ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รอง ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ได้มีการประชุมเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีคนร้ายลอบยิงพระหมอ" โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจากหลายหน่วยร่วมประชุม โดยใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ปัญญา เปิดเผยก่อนการประชุมว่า จากวันเกิดเหตุถึงปัจจุบัน มีผลการทำงานด้านการสืบสวนสอบสวนคืบหน้าไปแล้ว 70-80 เปอร์เซ็นต์ ชนวนและปมสังหารนั้นตอนนี้ค่อนข้างมั่นใจเป็นอย่างมาก คือ การเข้าใจผิด ส่วนที่ชุดทำงานกำลังทำอยู่ตอนนี้คือการแกะรอยคนลงมือก่อเหตุ โดยแกะรอยเริ่มจากรูปรถ ซึ่งคืบหน้าไปมากแล้วเหลือรถกระบะอีกประมาณ 20 คันที่ต้องตรวจสอบ
ส่วนกลุ่มคนร้ายที่มีความสามารถและศักยภาพทำงานฆ่าคนได้นั้น ขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าประกบติดตามตัวอย่างใกล้ชิดแล้วทั้งอดีตตำรวจ อดีตมือปืนที่พ้นโทษ ซึ่งมีหลายคนได้ออกมาแสดงตัวตนแล้วว่าไม่ใช่ แต่เราก็ต้องสอบสวนต่อไป โดยได้มีการติดตามตรวจสอบอาวุธปืนที่ก่อเหตุ โดยได้เจาะไปยังบุคคลที่มีความสามารถดัดแปลงอาวุธปืนโดยได้เรียกตัวนายปวิณชัย บุญพิเชษ อายุ 48 ปีช่างซ่อมอาวุธปืนและดัดแปลงอาวุธปืน อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 4 ต.บึงกาฬ อ.เมือง จ.บึงกาฬ มาสอบปากด้วย อีกทั้ง ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ก็ได้เข้าไปตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายว่าเกี่ยวข้องกับมือปืนฆ่าพระหมอ หรือไม่ แต่ก็ยังไม่พบหลักฐานอะไรเป็นพิเศษ มีเพียงอาวุธปืนขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอกและอุปกรณ์แตกแต่งปืนหลายอย่างเท่านั้นเอง
ภายหลังประชุมยาวนานกว่า 3 ชั่วโมง พล.ต.ท.ปัญญา เปิดเผยอีกครั้งว่า ผลการประชุมวันนี้ ได้มีการติดตามคนลงมือฆ่า โดยติดตามรถที่ใช้ก่อเหตุ และติดตามบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งโชคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แนวร่วมจากอดีตมือปืนมาร่วมทำงานติดตามคนร้ายด้วย
ส่วนอาวุธปืนที่ตรวจได้จากพื้นที่ จ.เลย จ.หนองคาย และ จ.บึงกาฬนั้น จะตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหรือไม่ ส่วนเรื่องรถยนค์คันที่ใช้ก่อเหตุตอนนี้มีมุมมองที่แคบลงมากแล้ว เหลือรถต้องตรวจสอบอีกเพียง 20 คันเท่านั้น ซึ่งจะเชื่อมโยงไปถึงตัวคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุได้
"ตอนนี้ผมได้กำชับไปยังผู้กำกับการ สภ.เมืองอุดรธานี ให้ลงพื้นที่หาข้อมูลเพิ่มเติม โดยเชื่อว่าในวันก่อเหตุน่าจะมีบุคคลพบเห็นแน่นอน สำหรับแนวทางการสืบสวนหาตัวคนบงการนั้น ต้องหาตัวบุคคลใกล้ชิดมาเพื่อกันเป็นพยานซัดทอด อย่างไรก็ตาม จากการตรวจพิสูจน์หลักฐานหัวกระสุนที่ได้ระบุแน่ชัดเลยว่า ปืนที่ใช้ยิงนั้นเป็นปืนเอ็ม 16 หรือ เอชเค และได้พยายามหาอาวุธ โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ออกกวาดล้าง ซึ่งได้อาวุธต้องสงสัยส่วนหนึ่งมาทำการตรวจสอบแล้ว" พล.ต.ท.ปัญญา กล่าว