พาณิชย์ บุกตรวจโกดัง พบกระเทียมลักลอบนำเข้าจำนวนมาก เตรียมแจ้งความดำเนินคดี พร้อมเสริมกำลังตรวจทุกพื้นที่ด่านชายแดนจังหวัดติดเพื่อนบ้าน ป้องกันลักลอบนำเข้า เล็งจัดงาน “เทใจ...คืนสุข...รับเปิดเทอม” สิ้นเดือนเม.ย.นี้ บรรเทาภาระผู้ปกครองรับเปิดเทอม
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณรอบตลาดไทว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สำนักงานการค้าภายในจังหวัดว่ามีการลักลอบนำเข้ากระเทียมจากประเทศจีน เพื่อมาเก็บไว้บริเวณดังกล่าว ก่อนกระจายออกขายในท้องตลาดในราคาต่ำ ซึ่งได้ร่วมกับทหาร ตำรวจ และศุลกากร ออกตรวจสอบพื้นที่โดยรอบตลาดไท จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเมื่อเข้าไปตรวจสอบ พบว่า โกดังดังกล่าวมีการแจ้งที่อยู่ไม่ตรง และจัดตั้งโกดังเพื่อเก็บกระเทียมที่ลักลอบไว้ ก่อนนำออกขาย อีกทั้งผู้จัดการโกดังไม่อยู่ในพื้นที่ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่เรียกมาตรวจสอบ แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ ในเบื้องต้นหากไม่สามารถชี้แจงที่มาของกระเทียมได้ และไม่มีเอกสารสำคัญ ที่ชี้แจงการเสียภาษีนำเข้าจากศุลกากร จะถือว่าโกกังดังกล่าวกระทำผิดกฎหมาย และจะแจ้งความดำเนินคดีต่อไป
นอกจากนี้ ยังจะมีโทษตามกฎหมายของกรมการค้าภายใน กรณีไม่มีใบอนุญาตขนย้ายสินค้า ซึ่งหากปริมาณเกิน 400 กิโลกรัม จะมีโทษปรับ วันละ 2,000 บาท จนกว่าจะสามารถชี้แจง และแสดงเอกสารสำคัญได้ รวมทั้งมีความผิดตามกฎหมายศุลกากรด้วย
”หลังจากนี้ กรมฯ จะร่วมมือกับค้าภายในจังหวัด และพาณิชย์จังหวัด ตรวจสอบตามพื้นที่ชายแดน เช่น เชียงใหม่ ตราด แม่สอด เพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้ากระเทียม และหอมหัวใหญ่ ตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน และจากจีน เข้ามาในราคาต่ำ ซึ่งผลผลิตกระเทียมในประเทศแต่ละปีที่ประมาณ 100,000 ตัน เพียงพอกับความต้องการใช้ แต่ปีนี้ผลผลิตอาจลดลงเหลือ 70,000-80,000 ตัน เพราะภัยแล้ง แต่เนื่องจากมีการลักลอบนำเข้าจำนวนมาก และสำแดงราคานำเข้าถูกเกินไป ทำให้ราคาในประเทศลดต่ำลง และกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม รวมทั้งทำให้ปริมาณกระเทียมล้นตลาด”
นายบุณยฤทธิ์ กล่าวต่อว่า กรมฯเตรียมเสนอคณะกรรมการนโยบายและช่วยเหลือเกษตรกร (คชก). ชดเชยดอกเบี้ยให้เกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม เพื่อชะลอเก็บเกี่ยวผลผลิตออกสู่ตลาดในช่วงนี้ แต่จะเป็นวงเงินเท่าไรขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมิน เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยลดปริมาณกระเทียมที่ล้นตลาดลงได้
ด้านพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้ ราคาหอมหัวใหญ่ และกระเทียมในประเทศลดลงมาก เพราะปัญหาการลักลอบนำเข้าจากประเทศ หรือสำแดงราคาการนำเข้าไม่ถูกต้อง จึงได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน ประสานกับหน่วยงานในพื้นที่จ.เชียงใหม่ เชียงราย มุกดาหาร สงขลา สตูล ตาก แม่ฮ่องสอน ตั้งด่านตรวจบริเวณจุดนำเข้า เพื่อตรวจสอบใบขออนุญาตการขนย้าย
อย่างไรก็ตาม ระหว่างวันที่ 30 เม.ย.-10 พ.ค.นี้ กระทรวงพาณิชย์จะจัดงาน “เทใจ...คืนสุข...รับเปิดเทอม” ลดราคาสินค้าเป็นพิเศษในกลุ่มสินค้าเครื่องแบบนักเรียน อุปกรณ์การเรียน รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และสินค้าอื่นๆ เพื่อบรรเทาค่าครองชีพให้ประชาชนในช่วงเปิดเทอม โดยได้รับความร่วมมือจากค้าปลีกค้าส่ง ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าปลีกท้องถิ่น ลดราคาสินค้าทั่วประเทศ
ส่วนการแก้ปัญหาเรื่องของค่าครองชีพนั้น ยอมรับว่ากระทรวงพาณิชย์จะแก้ปัญหาปลายทางส่วนต้นทางเป็นหน้าที่ของหน่วยงานอื่นๆ โดยสาเหตุหลักที่ประชาชนมองว่าค่าครองชีพสูงมาจากรายได้ของประชาชนต่ำ โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกร แต่ได้มอบหมายให้ผู้บริหารงานกระทรวงฯลงพื้นที่สำรวจตลาด 21 แห่งทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา เช่น ตลาดวงเวียนใหญ่, ตลาดศิริชัย, ตลาดบางแค, ตลาดกลางแฮปปี้แลนด์, ตลาดบางเขน, ตลาดยิ่งเจริญ เป็นต้น ส่วนใหญ่ พบว่า สินค้าทั้งในกลุ่มอาหารสด อาหารสำเร็จรูป ราคายังทรงตัวใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณรอบตลาดไทว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สำนักงานการค้าภายในจังหวัดว่ามีการลักลอบนำเข้ากระเทียมจากประเทศจีน เพื่อมาเก็บไว้บริเวณดังกล่าว ก่อนกระจายออกขายในท้องตลาดในราคาต่ำ ซึ่งได้ร่วมกับทหาร ตำรวจ และศุลกากร ออกตรวจสอบพื้นที่โดยรอบตลาดไท จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเมื่อเข้าไปตรวจสอบ พบว่า โกดังดังกล่าวมีการแจ้งที่อยู่ไม่ตรง และจัดตั้งโกดังเพื่อเก็บกระเทียมที่ลักลอบไว้ ก่อนนำออกขาย อีกทั้งผู้จัดการโกดังไม่อยู่ในพื้นที่ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่เรียกมาตรวจสอบ แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ ในเบื้องต้นหากไม่สามารถชี้แจงที่มาของกระเทียมได้ และไม่มีเอกสารสำคัญ ที่ชี้แจงการเสียภาษีนำเข้าจากศุลกากร จะถือว่าโกกังดังกล่าวกระทำผิดกฎหมาย และจะแจ้งความดำเนินคดีต่อไป
นอกจากนี้ ยังจะมีโทษตามกฎหมายของกรมการค้าภายใน กรณีไม่มีใบอนุญาตขนย้ายสินค้า ซึ่งหากปริมาณเกิน 400 กิโลกรัม จะมีโทษปรับ วันละ 2,000 บาท จนกว่าจะสามารถชี้แจง และแสดงเอกสารสำคัญได้ รวมทั้งมีความผิดตามกฎหมายศุลกากรด้วย
”หลังจากนี้ กรมฯ จะร่วมมือกับค้าภายในจังหวัด และพาณิชย์จังหวัด ตรวจสอบตามพื้นที่ชายแดน เช่น เชียงใหม่ ตราด แม่สอด เพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้ากระเทียม และหอมหัวใหญ่ ตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน และจากจีน เข้ามาในราคาต่ำ ซึ่งผลผลิตกระเทียมในประเทศแต่ละปีที่ประมาณ 100,000 ตัน เพียงพอกับความต้องการใช้ แต่ปีนี้ผลผลิตอาจลดลงเหลือ 70,000-80,000 ตัน เพราะภัยแล้ง แต่เนื่องจากมีการลักลอบนำเข้าจำนวนมาก และสำแดงราคานำเข้าถูกเกินไป ทำให้ราคาในประเทศลดต่ำลง และกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม รวมทั้งทำให้ปริมาณกระเทียมล้นตลาด”
นายบุณยฤทธิ์ กล่าวต่อว่า กรมฯเตรียมเสนอคณะกรรมการนโยบายและช่วยเหลือเกษตรกร (คชก). ชดเชยดอกเบี้ยให้เกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม เพื่อชะลอเก็บเกี่ยวผลผลิตออกสู่ตลาดในช่วงนี้ แต่จะเป็นวงเงินเท่าไรขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมิน เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยลดปริมาณกระเทียมที่ล้นตลาดลงได้
ด้านพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้ ราคาหอมหัวใหญ่ และกระเทียมในประเทศลดลงมาก เพราะปัญหาการลักลอบนำเข้าจากประเทศ หรือสำแดงราคาการนำเข้าไม่ถูกต้อง จึงได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน ประสานกับหน่วยงานในพื้นที่จ.เชียงใหม่ เชียงราย มุกดาหาร สงขลา สตูล ตาก แม่ฮ่องสอน ตั้งด่านตรวจบริเวณจุดนำเข้า เพื่อตรวจสอบใบขออนุญาตการขนย้าย
อย่างไรก็ตาม ระหว่างวันที่ 30 เม.ย.-10 พ.ค.นี้ กระทรวงพาณิชย์จะจัดงาน “เทใจ...คืนสุข...รับเปิดเทอม” ลดราคาสินค้าเป็นพิเศษในกลุ่มสินค้าเครื่องแบบนักเรียน อุปกรณ์การเรียน รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และสินค้าอื่นๆ เพื่อบรรเทาค่าครองชีพให้ประชาชนในช่วงเปิดเทอม โดยได้รับความร่วมมือจากค้าปลีกค้าส่ง ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าปลีกท้องถิ่น ลดราคาสินค้าทั่วประเทศ
ส่วนการแก้ปัญหาเรื่องของค่าครองชีพนั้น ยอมรับว่ากระทรวงพาณิชย์จะแก้ปัญหาปลายทางส่วนต้นทางเป็นหน้าที่ของหน่วยงานอื่นๆ โดยสาเหตุหลักที่ประชาชนมองว่าค่าครองชีพสูงมาจากรายได้ของประชาชนต่ำ โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกร แต่ได้มอบหมายให้ผู้บริหารงานกระทรวงฯลงพื้นที่สำรวจตลาด 21 แห่งทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา เช่น ตลาดวงเวียนใหญ่, ตลาดศิริชัย, ตลาดบางแค, ตลาดกลางแฮปปี้แลนด์, ตลาดบางเขน, ตลาดยิ่งเจริญ เป็นต้น ส่วนใหญ่ พบว่า สินค้าทั้งในกลุ่มอาหารสด อาหารสำเร็จรูป ราคายังทรงตัวใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
