00 จากการเปิดเผยของ ประธานป.ป.ช. ปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ว่าวันที่ 18 ก.พ. นี้ ป.ป.ช.ได้ส่งหนังสือไปถึงกระทรวงการคลัง เพื่อให้เรียกค่าเสียหายจาก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ทำให้โครงการรับจำนำข้าวเกิดความเสียหาย โดยคิดมูลค่าความเสียหายตามการประเมินของคณะกรรมการปิดบัญชีของกระทรวงการคลัง ที่สรุปตัวเลขเอาไว้ไม่ต่ำกว่า 6 แสนล้านบาท และยังให้กระทรวงการคลัง เรียกค่าเสียหายจากโครงการขายข้าวแบบจีทูจีเก๊ด้วย นั่นก็หมายความว่า นอกจากอดีตนายกฯคนสวย ที่จะต้องชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวแล้ว ยังต้องมี บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ นักการเมือง และ ขรก.พาณิชย์ หลายคนรวมอยู่ในนั้นด้วย
00 การดำเนินการเพื่อเอาผิดทางแพ่งกับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถือว่าเป็นกระบวนการทางกม.ล่าสุดที่เกิดขึ้นตามมา หลังจากที่เจอการถอดถอน ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี เจอฟ้องคดีอาญาต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีกำหนดส่งฟ้องในวันนี้ (19 ก.พ.) ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกสูงไม่เกิน 10 ปี แน่นอนว่าหากพูดกันส่งเดช แบบไม่ดูตาม้าตาเรือก็จะบอกว่า นักประชาธิปไตยกำลังถูกเผด็จการแกล้ง แต่ในความเป็นจริง คือว่าคนไทยถ้า"ไม่โง่ดักดาน"จนเกินไป ก็ต้องรับรู้ถึงความเสียหาย รับรู้กันถึงเรื่องการทุจริตกันแบบมโหฬาร แต่ถึงอย่างไร ผิดถูกเพื่อความชัวร์ก็ต้องไปพิสูจน์กันในศาลยุติธรรม และที่สำคัญ เรื่องแบบนี้จะมามั่วคิดจะปรองดองไม่ได้เป็นอันขาด !!
00 น่าตลกก็คือ ยังมีความพยายามใช้โอกาสที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำลังถูกฟ้องร้องเอาผิด เรียกค่าเสียหายมาบิดเบือน สร้างกระแสทางการเมือง เพื่อหาประโยชน์ให้กับตัวเอง (ไม่ใช่ยิ่งลักษณ์) เช่น ยุให้เธอยอมติดคุก เพื่อหวังสร้างภาพนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยแบบ "อองซานซูจี" เพื่อใช้เป็นแรงกระตุ้นให้เครือข่ายของเขาชนะเลือกตั้งในปีหน้า ตามกำหนดโรดแมปเอาไว้ แต่ปัญหาก็คือได้ปรึกษาเจ้าตัวคือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือ ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นพี่ชายแล้วหรือยัง ว่ายินดียอมติดคุกแบบที่ว่าหรือเปล่า
00 ขณะเดียวกัน หากต้องติดคุกจริงก็ต้องเป็นไปตามคำพิพากษา ซึ่งก็ต้องมีรายละเอียดที่ระบุความผิดออกมาให้เห็นชัดเจนตามกระบวนการ ไม่ใช่เรื่องของการสมัครใจ หรือไม่สมัครใจ แต่ที่น่าขำก็คือ ไม่รู้หรือไงว่า อองซานซูจี ของพม่า เธอไม่ได้ติดคุกเพราะถูกฟ้องร้อง เพราะคดีโกงนะ แต่นั่นเป็นเรื่องทางการเมืองล้วนๆ ที่รู้กันทั้งโลก พูดถึงเรื่องนี้ก็ยังนึกขำไม่หายกับ "จอมบิดเบือน" ที่ก่อนหน้าก็เคยคิดจะสร้างภาพ ทักษิณ ชินวัตร คนที่เป็นพี่ชายว่า "เป็นเนลสัน แมนเดล่าเมืองไทย" ทำนองว่าถูกรังแก ไล่ล่าจากเผด็จการเช่นเดียวกัน คราวนั้นก็ฮากันจนแทบขี้แตกขี้แตนไปพักหนึ่งแล้ว ลืมไปว่า แมนเดล่าของแอฟริกาใต้นั้น ไม่ได้ติดคุกเพราะใช้อำนาจมิชอบ ไม่เคยมีข้อกล่าวหาเรื่องทุจริต ไม่เคยมีแม้แต่เรื่องซุกหุ้น ไม่เคยทุจริตข้อสอบให้ลูก หรือไม่เคยแม้กระทั่งเรื่องมีข้อกล่าวหาว่าลูกชายทุจริตการสอบในมหาวิทยาลัย ที่สำคัญ แมนเดล่าไม่เคยหนี และไม่เคยคิดที่จะลบล้างความผิดให้ตัวเอง ทุด !!
00 อีกเรื่องที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดว่า การเปิดเวทีเพื่อแสวงหาข้อมูลจากทุกฝ่ายเปรียบเทียบผลดีผลเสียระหว่างวิธีเปิดให้สัมปทานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมกับวิธีการแบ่งปันผลผลิต อย่างไหนเกิดประโยชน์กับคนไทยที่เป็น "เจ้าของทรัพยากรที่แท้จริง" กันแน่ วิธีไหนจะทำให้คนไทยใช้ทรัพยากรอย่างเป็นธรรม คุ้มค่าและถูกที่สุด โดยจะมีการเปิดเวทีถกกันในวันศุกร์ที่ 20 ก.พ.โดยทีวีช่อง 11 รับหน้าที่ถ่ายทอดจนถึงเวลา 12.00 น. ก็ต้องลองดูว่านี่คือรายการ "ปาหี่" อีกหรือเปล่า !!
00 ที่ต้องจับตากันก็คือ การเปลี่ยนใจมาเปิดเวทีถกกันเรื่องปิโตรเลียมในนาทีสุดท้าย เป็นเพราะกระแสต้านการเปิดให้สัมปทานกับกลุ่มทุนพลังงานมันยิ่งมายิ่งแรงขึ้นหรือเปล่า จึงต้องลดกระแสชั่วคราวหรือเปล่า แต่ที่น่าสังเกตก็คือ แม้ว่า นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บอกว่าให้เปิดเวทีรับฟังข้อมูลเพื่อหาข้อสรุปที่ดีที่สุด ขณะเดียวกัน กระทรวงพลังงาน โดย ณรงค์ชัย อัครเศรณี กลับยืนยันว่าการเลื่อนวันขอยื่นสิทธิ์สำรวจและผลิตปิโตรเลียมจากเดิมที่กำหนดเอาไว้ในวันที่ 18 ก.พ.ออกไปเป็นวันที่ 16 มี.ค.โดยย้ำว่า หลังจากนี้ก็ต้องเดินหน้า อ้างว่าถ้าไม่ให้สัมปทาน เราจะขาดแคลนปริมาณสำรองก๊าซเข้าขั้นวิกฤติภายใน 7 ปี ก็ไม่รู้ว่าใครจะวิกฤติกันแน่ ถึงได้บอกว่างานนี้ต้องดูกันยาวๆ !!
00 การดำเนินการเพื่อเอาผิดทางแพ่งกับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถือว่าเป็นกระบวนการทางกม.ล่าสุดที่เกิดขึ้นตามมา หลังจากที่เจอการถอดถอน ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี เจอฟ้องคดีอาญาต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีกำหนดส่งฟ้องในวันนี้ (19 ก.พ.) ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกสูงไม่เกิน 10 ปี แน่นอนว่าหากพูดกันส่งเดช แบบไม่ดูตาม้าตาเรือก็จะบอกว่า นักประชาธิปไตยกำลังถูกเผด็จการแกล้ง แต่ในความเป็นจริง คือว่าคนไทยถ้า"ไม่โง่ดักดาน"จนเกินไป ก็ต้องรับรู้ถึงความเสียหาย รับรู้กันถึงเรื่องการทุจริตกันแบบมโหฬาร แต่ถึงอย่างไร ผิดถูกเพื่อความชัวร์ก็ต้องไปพิสูจน์กันในศาลยุติธรรม และที่สำคัญ เรื่องแบบนี้จะมามั่วคิดจะปรองดองไม่ได้เป็นอันขาด !!
00 น่าตลกก็คือ ยังมีความพยายามใช้โอกาสที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำลังถูกฟ้องร้องเอาผิด เรียกค่าเสียหายมาบิดเบือน สร้างกระแสทางการเมือง เพื่อหาประโยชน์ให้กับตัวเอง (ไม่ใช่ยิ่งลักษณ์) เช่น ยุให้เธอยอมติดคุก เพื่อหวังสร้างภาพนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยแบบ "อองซานซูจี" เพื่อใช้เป็นแรงกระตุ้นให้เครือข่ายของเขาชนะเลือกตั้งในปีหน้า ตามกำหนดโรดแมปเอาไว้ แต่ปัญหาก็คือได้ปรึกษาเจ้าตัวคือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือ ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นพี่ชายแล้วหรือยัง ว่ายินดียอมติดคุกแบบที่ว่าหรือเปล่า
00 ขณะเดียวกัน หากต้องติดคุกจริงก็ต้องเป็นไปตามคำพิพากษา ซึ่งก็ต้องมีรายละเอียดที่ระบุความผิดออกมาให้เห็นชัดเจนตามกระบวนการ ไม่ใช่เรื่องของการสมัครใจ หรือไม่สมัครใจ แต่ที่น่าขำก็คือ ไม่รู้หรือไงว่า อองซานซูจี ของพม่า เธอไม่ได้ติดคุกเพราะถูกฟ้องร้อง เพราะคดีโกงนะ แต่นั่นเป็นเรื่องทางการเมืองล้วนๆ ที่รู้กันทั้งโลก พูดถึงเรื่องนี้ก็ยังนึกขำไม่หายกับ "จอมบิดเบือน" ที่ก่อนหน้าก็เคยคิดจะสร้างภาพ ทักษิณ ชินวัตร คนที่เป็นพี่ชายว่า "เป็นเนลสัน แมนเดล่าเมืองไทย" ทำนองว่าถูกรังแก ไล่ล่าจากเผด็จการเช่นเดียวกัน คราวนั้นก็ฮากันจนแทบขี้แตกขี้แตนไปพักหนึ่งแล้ว ลืมไปว่า แมนเดล่าของแอฟริกาใต้นั้น ไม่ได้ติดคุกเพราะใช้อำนาจมิชอบ ไม่เคยมีข้อกล่าวหาเรื่องทุจริต ไม่เคยมีแม้แต่เรื่องซุกหุ้น ไม่เคยทุจริตข้อสอบให้ลูก หรือไม่เคยแม้กระทั่งเรื่องมีข้อกล่าวหาว่าลูกชายทุจริตการสอบในมหาวิทยาลัย ที่สำคัญ แมนเดล่าไม่เคยหนี และไม่เคยคิดที่จะลบล้างความผิดให้ตัวเอง ทุด !!
00 อีกเรื่องที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดว่า การเปิดเวทีเพื่อแสวงหาข้อมูลจากทุกฝ่ายเปรียบเทียบผลดีผลเสียระหว่างวิธีเปิดให้สัมปทานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมกับวิธีการแบ่งปันผลผลิต อย่างไหนเกิดประโยชน์กับคนไทยที่เป็น "เจ้าของทรัพยากรที่แท้จริง" กันแน่ วิธีไหนจะทำให้คนไทยใช้ทรัพยากรอย่างเป็นธรรม คุ้มค่าและถูกที่สุด โดยจะมีการเปิดเวทีถกกันในวันศุกร์ที่ 20 ก.พ.โดยทีวีช่อง 11 รับหน้าที่ถ่ายทอดจนถึงเวลา 12.00 น. ก็ต้องลองดูว่านี่คือรายการ "ปาหี่" อีกหรือเปล่า !!
00 ที่ต้องจับตากันก็คือ การเปลี่ยนใจมาเปิดเวทีถกกันเรื่องปิโตรเลียมในนาทีสุดท้าย เป็นเพราะกระแสต้านการเปิดให้สัมปทานกับกลุ่มทุนพลังงานมันยิ่งมายิ่งแรงขึ้นหรือเปล่า จึงต้องลดกระแสชั่วคราวหรือเปล่า แต่ที่น่าสังเกตก็คือ แม้ว่า นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บอกว่าให้เปิดเวทีรับฟังข้อมูลเพื่อหาข้อสรุปที่ดีที่สุด ขณะเดียวกัน กระทรวงพลังงาน โดย ณรงค์ชัย อัครเศรณี กลับยืนยันว่าการเลื่อนวันขอยื่นสิทธิ์สำรวจและผลิตปิโตรเลียมจากเดิมที่กำหนดเอาไว้ในวันที่ 18 ก.พ.ออกไปเป็นวันที่ 16 มี.ค.โดยย้ำว่า หลังจากนี้ก็ต้องเดินหน้า อ้างว่าถ้าไม่ให้สัมปทาน เราจะขาดแคลนปริมาณสำรองก๊าซเข้าขั้นวิกฤติภายใน 7 ปี ก็ไม่รู้ว่าใครจะวิกฤติกันแน่ ถึงได้บอกว่างานนี้ต้องดูกันยาวๆ !!