วานนี้ (18 ก.พ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการหารือร่วมไทย-จีน ที่จีนจะเสนอการให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อสร้างรถไฟทางคู่ รางมาตรฐาน (Standard Gauge)ว่า ทุกอย่างเป็นเรื่องของการเจรจา ต่างฝ่ายต่างยื่นข้อเสนอกันมา ตอนนี้ทางจีนเสนอดอกเบี้ยมาร้อยละ 2.5 และ ทางนี้ต่อรองมาว่าให้ ร้อยละ 2 และเราจะมาดูอีกว่า จะสามารถต่ำกว่า ร้อยละ 2 หรือไม่ ถ้าได้ก็โอเค แต่ถ้าไม่ได้ ส่วนไหนที่ได้ ก็จะกู้มาจำนวนหนึ่งในส่วนที่อาจมีการลงทุนร่วมกัน บางส่วนอาจจะต้องไปกู้แหล่งเงินทุนอื่น ที่ดอกเบี้ยราคาถูกกล่าว
"นี่คือสิ่งที่รัฐบาลจะทำ ไม่ใช่เหมาจ่ายไปทุกวัน เวลาคิดให้นึกถึงคณะทำงาน ที่คิดเยอะไปหมด คิดในหลายๆ ส่วน การลงทุนไม่ใช่การเซ็นเอ็มโอยู แล้วสร้าง แล้วจ่ายเงินในทันที ต้องมีการกู้เงินอีก มีอีกตั้ง 7-8 คณะ การลงทุน การก่อสร้าง การควบคุม เดินรถ การค้าขายบนเส้นางรถไฟ ต้องผ่านการทำผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ก่อน รวมถึงประชาพิจารณ์ ต้องทำทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าเซ็นพรุ่งนี้ แล้วมะรืนนี้สร้างซะเมื่อไหร่ โน้นตั้งกันยายน ผมจะเร่งให้เร็วกว่านั้น แต่ก็ยังติดปัญหา ดอกเบี้ยก้ยังตกลงกันไม่ได้ กู้เงินจะกู้ที่ไหน ไม่ใช่สมยอมกันทุกเรื่อง เป็นมิตรกันก็ต้องมีผลประโยชน์ที่ เท่าเทียม ทางจีนเขาก็โอเค ผู้นำพูดกันไม่มีปัญหาเลย แต่ปัญหาที่พบคือกลไกลต่าง ๆ เช่น บริษัทก่อสร้าง ที่ไม่ได้สร้างเอง แต่มีบริษัท ที่ต้องเข้ามาสร้าง แล้วเราต้องเลือกบริษัทอื่นอีก มาร่วมกันลงทุน ที่จะมาก่อสร้างกับบริษัทไทย พวกเราและข้าราชการ คงจะทำรถไฟเองไมได้หรอก เราต้องจ้างคนต่ออีกเหมือนกัน ต่างคนต่างต้องเลือกกัน อยู่ที่การเจรจา ตกลงได้ก็ได้ อย่าไปกังวล อันไหนดอกเบี้ยถูกก็กู้ที่นั่น" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
**อวยพรตรุษจีน ขอให้คนไทยมีความสุข
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวอวยพร เนื่องในเทศกาลตรุษจีนว่า “ซินเจีย ยู่อี่ ซินนี้ ฮวดไช้ ขอให้ร่ำให้รวย มีควาสุขสุขภาพแข็งแรง ในวันตรุษจีน เราเป็นคนไทยด้วยกัน ไม่ว่าจะเชื้อชาติใด ศาสนาใด เราคือคนไทย ใต้ร่มพระบารมี ขอให้ทุกคนตั้งสติให้ดีๆ ใช้สติปัญญาในการแก้ปัญหา และช่วยรัฐบาลทำในสิ่งที่ดี อันไหนไม่ดี ก็ติเตือนว่ากันมา บอกๆมา ให้กำลังใจกันบ้าง ขอแค่นั้นแหละ ปีใหม่ไม่ขออะไรเลย ผมมีความปราถนาดีกับคนไทยทุกคน”
สำหรับเฉพาะคนที่ยังมีรายได้น้อยอยู่ เราได้พยายามทำทุกอย่างอยู่ วางอนาคตให้ได้ ถ้าทุกคนเข้าใจว่าปัญหาไม่ใช่ว่าประชุมวันนี้ สั่งวันนี้ จบวันนี้ มันไม่ใช่สักอันเลย ทำงานต้องทำแบบนี้ และถ้าทำงานกันแบบนี้มาหลายๆ รัฐบาลคงไม่ต้องถึงวันนี้ จะไม่มีปัญหาที่ว่ามาเลย สิ่งที่ทำออกมาแล้วมันอาจจะมีผลพอใจหรือไม่นั้น มันก็พอใจไม่ได้ เพราะยังไม่ยั่งยืน ยังไม่เกิดขึ้น ต้องไปถามหาจากรัฐบาลต่อไป ถ้าทำได้อย่างที่ตนทำได้ก็โอเค ได้เริ่มไว้ให้หมดแล้ว แต่จะทำต่อหรือเปล่าไม่รู้ ก็อยู่ที่ท่าน
"นี่คือสิ่งที่รัฐบาลจะทำ ไม่ใช่เหมาจ่ายไปทุกวัน เวลาคิดให้นึกถึงคณะทำงาน ที่คิดเยอะไปหมด คิดในหลายๆ ส่วน การลงทุนไม่ใช่การเซ็นเอ็มโอยู แล้วสร้าง แล้วจ่ายเงินในทันที ต้องมีการกู้เงินอีก มีอีกตั้ง 7-8 คณะ การลงทุน การก่อสร้าง การควบคุม เดินรถ การค้าขายบนเส้นางรถไฟ ต้องผ่านการทำผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ก่อน รวมถึงประชาพิจารณ์ ต้องทำทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าเซ็นพรุ่งนี้ แล้วมะรืนนี้สร้างซะเมื่อไหร่ โน้นตั้งกันยายน ผมจะเร่งให้เร็วกว่านั้น แต่ก็ยังติดปัญหา ดอกเบี้ยก้ยังตกลงกันไม่ได้ กู้เงินจะกู้ที่ไหน ไม่ใช่สมยอมกันทุกเรื่อง เป็นมิตรกันก็ต้องมีผลประโยชน์ที่ เท่าเทียม ทางจีนเขาก็โอเค ผู้นำพูดกันไม่มีปัญหาเลย แต่ปัญหาที่พบคือกลไกลต่าง ๆ เช่น บริษัทก่อสร้าง ที่ไม่ได้สร้างเอง แต่มีบริษัท ที่ต้องเข้ามาสร้าง แล้วเราต้องเลือกบริษัทอื่นอีก มาร่วมกันลงทุน ที่จะมาก่อสร้างกับบริษัทไทย พวกเราและข้าราชการ คงจะทำรถไฟเองไมได้หรอก เราต้องจ้างคนต่ออีกเหมือนกัน ต่างคนต่างต้องเลือกกัน อยู่ที่การเจรจา ตกลงได้ก็ได้ อย่าไปกังวล อันไหนดอกเบี้ยถูกก็กู้ที่นั่น" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
**อวยพรตรุษจีน ขอให้คนไทยมีความสุข
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวอวยพร เนื่องในเทศกาลตรุษจีนว่า “ซินเจีย ยู่อี่ ซินนี้ ฮวดไช้ ขอให้ร่ำให้รวย มีควาสุขสุขภาพแข็งแรง ในวันตรุษจีน เราเป็นคนไทยด้วยกัน ไม่ว่าจะเชื้อชาติใด ศาสนาใด เราคือคนไทย ใต้ร่มพระบารมี ขอให้ทุกคนตั้งสติให้ดีๆ ใช้สติปัญญาในการแก้ปัญหา และช่วยรัฐบาลทำในสิ่งที่ดี อันไหนไม่ดี ก็ติเตือนว่ากันมา บอกๆมา ให้กำลังใจกันบ้าง ขอแค่นั้นแหละ ปีใหม่ไม่ขออะไรเลย ผมมีความปราถนาดีกับคนไทยทุกคน”
สำหรับเฉพาะคนที่ยังมีรายได้น้อยอยู่ เราได้พยายามทำทุกอย่างอยู่ วางอนาคตให้ได้ ถ้าทุกคนเข้าใจว่าปัญหาไม่ใช่ว่าประชุมวันนี้ สั่งวันนี้ จบวันนี้ มันไม่ใช่สักอันเลย ทำงานต้องทำแบบนี้ และถ้าทำงานกันแบบนี้มาหลายๆ รัฐบาลคงไม่ต้องถึงวันนี้ จะไม่มีปัญหาที่ว่ามาเลย สิ่งที่ทำออกมาแล้วมันอาจจะมีผลพอใจหรือไม่นั้น มันก็พอใจไม่ได้ เพราะยังไม่ยั่งยืน ยังไม่เกิดขึ้น ต้องไปถามหาจากรัฐบาลต่อไป ถ้าทำได้อย่างที่ตนทำได้ก็โอเค ได้เริ่มไว้ให้หมดแล้ว แต่จะทำต่อหรือเปล่าไม่รู้ ก็อยู่ที่ท่าน