ASTVผู้จัดการรายวัน-ผบ.ตร.ยันคดีระเบิดทางเชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอส ข้างห้างพารากอนคืบหน้า ออกหมายจับเพิ่มอีก 1 รวมเป็น 3 คน ยังไม่ชี้เป็นอดีตทหารพราน รอตรวจสอบพยานหลักฐานก่อน ยันไม่กดดันเจ้าหน้าที่ ให้เวลาทำงานเต็มที่ ป้องกันข้อครหา
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสืบสวนคดีคนร้ายวางระเบิด 2 ลูก บริเวณทางเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยามกับห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ว่า คดีมีความคืบหน้าไปมาก โดยสามารถขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับเหตุดังกล่าวเพิ่มอีก 1 คน รวมเป็น 3 คน เป็นการออกหมายจับทั้งจากภาพถ่ายและคำให้การของผู้ที่มีส่วนรู้เห็น แต่ยังไม่ชัดเจนว่า 1 ใน 3 ผู้ต้องหาตามหมายจับ เป็นอดีตทหารพรานหรือไม่ ต้องรอตรวจสอบพยานหลักฐานให้แน่ชัดกว่านี้ แต่เชื่อว่ากระทำเป็นขบวนการ ซึ่งมีทั้งผู้ก่อเหตุและผู้สนับสนุน
ทั้งนี้ ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้เมื่อไร จะให้เวลาพนักงานสอบสวนทำงานเต็มที่ อีกทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ได้กำชับตำรวจให้สืบสวนอย่างถี่ถ้วน ไม่ต้องรีบเร่ง ให้ดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาในภายหลัง
ก่อนหน้านี้ ตำรวจได้ออกหมายจับบุคคลตามภาพจากกล้องวงจรปิดไปแล้ว 2 คน และประเมินว่าเหตุระเบิดดังกล่าว มีสาเหตุมาจากการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความวาดกลัว ส่วนจะเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ ตำรวจได้ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการสืบสวนจับกุมคนร้ายให้ได้ก่อน ซึ่งตำรวจมีความมั่นใจว่าจะติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสืบสวนคดีคนร้ายวางระเบิด 2 ลูก บริเวณทางเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยามกับห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ว่า คดีมีความคืบหน้าไปมาก โดยสามารถขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับเหตุดังกล่าวเพิ่มอีก 1 คน รวมเป็น 3 คน เป็นการออกหมายจับทั้งจากภาพถ่ายและคำให้การของผู้ที่มีส่วนรู้เห็น แต่ยังไม่ชัดเจนว่า 1 ใน 3 ผู้ต้องหาตามหมายจับ เป็นอดีตทหารพรานหรือไม่ ต้องรอตรวจสอบพยานหลักฐานให้แน่ชัดกว่านี้ แต่เชื่อว่ากระทำเป็นขบวนการ ซึ่งมีทั้งผู้ก่อเหตุและผู้สนับสนุน
ทั้งนี้ ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้เมื่อไร จะให้เวลาพนักงานสอบสวนทำงานเต็มที่ อีกทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ได้กำชับตำรวจให้สืบสวนอย่างถี่ถ้วน ไม่ต้องรีบเร่ง ให้ดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาในภายหลัง
ก่อนหน้านี้ ตำรวจได้ออกหมายจับบุคคลตามภาพจากกล้องวงจรปิดไปแล้ว 2 คน และประเมินว่าเหตุระเบิดดังกล่าว มีสาเหตุมาจากการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความวาดกลัว ส่วนจะเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ ตำรวจได้ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการสืบสวนจับกุมคนร้ายให้ได้ก่อน ซึ่งตำรวจมีความมั่นใจว่าจะติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้