นางดวงกมล เจียมบุตร โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมแผนรับมือสถานการณ์มะนาวมีราคาสูงขึ้นเป็นการล่วงหน้าแล้ว หลังจากได้มีการติดตามปริมาณผลผลิต สถานการณ์ราคามาอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าสถิติย้อนหลัง 3 ปี (2555-2557) ช่วงที่มะนาวมีผลผลิตมากจะเป็นช่วงเดือนก.ค.-ส.ค. ราคาขายส่งและขายปลีกจะลดต่ำลง และจะเริ่มปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆจนถึงเดือนเม.ย. ที่เป็นช่วงนอกฤดูการผลิต ซึ่งจะทำให้ผลผลิตน้อยลงและราคามะนาวปรับตัวสูงขึ้น
“กระทรวงฯ ได้เตรียมตัวล่วงหน้า เพราะรู้ว่าเป็นปกติของทุกปี ที่มะนาวจะมีราคาสูงขึ้นในช่วงหน้าแล้ง และกระทบต่อการบริโภค จึงได้ทำแผนรับมือบรรเทาความเดือดร้อน โดยจะลดขั้นตอนทางการตลาดด้วยการสนับสนุนกิจกรรมการนำมะนาวจากสวน ให้เกษตรกร และกลุ่มเกษตรกร นำมะนาวมาจำหน่ายยังตลาดปลายทางให้แก่ผู้บริโภคโดยตรง แต่ก็จะดูแลให้เกษตรกรจำหน่ายผลผลิตได้ในราคาที่เป็นธรรมด้วย”นางดวงกมลกล่าว
ทั้งนี้ สถานการณ์ราคามะนาวในปี 2558 เดือนม.ค. ราคาขายส่ง (เบอร์ 1-2) อยู่ที่ 2.26 บาทต่อลูก ราคาขายปลีก (เบอร์ 1-2 คละ) ราคาอยู่ที่ 3.62 บาทต่อลูก คาดว่าในเดือนมี.ค.-เม.ย.2558 ราคาจะปรับตัวสูงขึ้นดังเช่นสถิติที่ผ่านมา เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย แต่ความต้องการใช้มีอย่างสม่ำเสมอ
นางดวงกมลกล่าวว่า ทางด้านสถานการณ์ราคาสินค้าปศุสัตว์ที่สำคัญ เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ และไข่ไก่ ที่หลายฝ่ายคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน ตามความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นนั้น กระทรวงฯ ประเมินว่า ปริมาณการใช้เนื้อหมู และไก่ จะเพิ่มขึ้นเพื่อใช้ในการเซ่นไหว้ของพี่น้องชาวจีนก็จริง แต่เนื่องจากปีนี้ ปริมาณผลผลิตมีจำนวนเพิ่มขึ้น
ราคาหน้าฟาร์ม ราคาขายปลีกในตลาด น่าจะยังทรงตัว และราคาจะไม่สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับไม่ส่งผลกระทบต่อการบริโภคของประชาชน
“กระทรวงฯ ได้มีการติดตามและตรวจสอบภาวะราคาอย่างใกล้ชิด ทั้งราคาขายส่งและราคาขายปลีกในตลาด เพื่อป้องปรามมิให้มีการฉวยโอกาสกำหนดราคาจำหน่ายที่ไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะในช่วงที่เกี่ยวข้องกับเทศกาล ซึ่งขณะนี้กรมการค้าภายในได้มีการจัดส่งสายตรวจออกตรวจตลาด และราคาสินค้าเป็นประจำทุกวันๆ ละ 9 สาย ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทำให้สามารถทราบความเคลื่อนไหวของราคาสินค้า และจะทำแผนรับมือได้อย่างทันท่วงที”นางดวงกมลกล่าว
ส่วนสถานการณ์ไข่ไก่ ปริมาณการใช้ในช่วงเทศกาลตรุษจีน จะเพิ่มขึ้นน้อยกว่าเนื้อหมูและเนื้อไก่ คาดว่าจะไม่มีผลกระทบด้านราคาเกิดขึ้น และในกรณีที่มีปัญหาผลผลิตล้นตลาด กระทรวงฯ ได้เตรียมแผนเพิ่มช่องทางการจำหน่ายเพื่อช่วยเหลือผู้เลี้ยงไก่ไข่ โดยนำไข่ไก่มาจำหน่ายผ่านจุดจำหน่ายที่กระทรวงฯ จัดหาให้ทั่วประเทศ และจะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเพิ่มการบริโภคไข่ไก่ เพราะเป็นอาหารโปรตีนที่มีประโยชน์ ราคาถูก
ทางด้านสถานการณ์น้ำมันปาล์มในประเทศ ล่าสุดพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้ประชุมคณะกรรมการด้านการตลาดปาล์มน้ำมันแล้ว พบว่า ปริมาณน้ำมันปาล์มมีเพียงพอต่อการบริโภค และราคาจำหน่ายไม่เกินขวดลิตรละ 42 บาท หลังจากที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้นำเข้าและได้มีการบรรจุขวดวางจำหน่ายในตลาดแล้ว.
“กระทรวงฯ ได้เตรียมตัวล่วงหน้า เพราะรู้ว่าเป็นปกติของทุกปี ที่มะนาวจะมีราคาสูงขึ้นในช่วงหน้าแล้ง และกระทบต่อการบริโภค จึงได้ทำแผนรับมือบรรเทาความเดือดร้อน โดยจะลดขั้นตอนทางการตลาดด้วยการสนับสนุนกิจกรรมการนำมะนาวจากสวน ให้เกษตรกร และกลุ่มเกษตรกร นำมะนาวมาจำหน่ายยังตลาดปลายทางให้แก่ผู้บริโภคโดยตรง แต่ก็จะดูแลให้เกษตรกรจำหน่ายผลผลิตได้ในราคาที่เป็นธรรมด้วย”นางดวงกมลกล่าว
ทั้งนี้ สถานการณ์ราคามะนาวในปี 2558 เดือนม.ค. ราคาขายส่ง (เบอร์ 1-2) อยู่ที่ 2.26 บาทต่อลูก ราคาขายปลีก (เบอร์ 1-2 คละ) ราคาอยู่ที่ 3.62 บาทต่อลูก คาดว่าในเดือนมี.ค.-เม.ย.2558 ราคาจะปรับตัวสูงขึ้นดังเช่นสถิติที่ผ่านมา เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย แต่ความต้องการใช้มีอย่างสม่ำเสมอ
นางดวงกมลกล่าวว่า ทางด้านสถานการณ์ราคาสินค้าปศุสัตว์ที่สำคัญ เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ และไข่ไก่ ที่หลายฝ่ายคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน ตามความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นนั้น กระทรวงฯ ประเมินว่า ปริมาณการใช้เนื้อหมู และไก่ จะเพิ่มขึ้นเพื่อใช้ในการเซ่นไหว้ของพี่น้องชาวจีนก็จริง แต่เนื่องจากปีนี้ ปริมาณผลผลิตมีจำนวนเพิ่มขึ้น
ราคาหน้าฟาร์ม ราคาขายปลีกในตลาด น่าจะยังทรงตัว และราคาจะไม่สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับไม่ส่งผลกระทบต่อการบริโภคของประชาชน
“กระทรวงฯ ได้มีการติดตามและตรวจสอบภาวะราคาอย่างใกล้ชิด ทั้งราคาขายส่งและราคาขายปลีกในตลาด เพื่อป้องปรามมิให้มีการฉวยโอกาสกำหนดราคาจำหน่ายที่ไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะในช่วงที่เกี่ยวข้องกับเทศกาล ซึ่งขณะนี้กรมการค้าภายในได้มีการจัดส่งสายตรวจออกตรวจตลาด และราคาสินค้าเป็นประจำทุกวันๆ ละ 9 สาย ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทำให้สามารถทราบความเคลื่อนไหวของราคาสินค้า และจะทำแผนรับมือได้อย่างทันท่วงที”นางดวงกมลกล่าว
ส่วนสถานการณ์ไข่ไก่ ปริมาณการใช้ในช่วงเทศกาลตรุษจีน จะเพิ่มขึ้นน้อยกว่าเนื้อหมูและเนื้อไก่ คาดว่าจะไม่มีผลกระทบด้านราคาเกิดขึ้น และในกรณีที่มีปัญหาผลผลิตล้นตลาด กระทรวงฯ ได้เตรียมแผนเพิ่มช่องทางการจำหน่ายเพื่อช่วยเหลือผู้เลี้ยงไก่ไข่ โดยนำไข่ไก่มาจำหน่ายผ่านจุดจำหน่ายที่กระทรวงฯ จัดหาให้ทั่วประเทศ และจะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเพิ่มการบริโภคไข่ไก่ เพราะเป็นอาหารโปรตีนที่มีประโยชน์ ราคาถูก
ทางด้านสถานการณ์น้ำมันปาล์มในประเทศ ล่าสุดพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้ประชุมคณะกรรมการด้านการตลาดปาล์มน้ำมันแล้ว พบว่า ปริมาณน้ำมันปาล์มมีเพียงพอต่อการบริโภค และราคาจำหน่ายไม่เกินขวดลิตรละ 42 บาท หลังจากที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้นำเข้าและได้มีการบรรจุขวดวางจำหน่ายในตลาดแล้ว.