เช้ามืดวันนี้เจ้าหน้าที่ไต้หวันได้เคลื่อนย้ายซากเครื่องบินโดยสารของสายการบินทรานส์เอเชีย เที่ยวบิน GE235 เส้นทางไทเป-จินเหมิน ที่ตกลงกลางแม่น้ำคีลุงทางตอนเหนือของเกาะในช่วงสายของวันพุธที่ผ่านมา พร้อมพบร่างไร้วิญญาณของกัปตัน ผู้ช่วยนักบิน และวิศวกรประจำเครื่องบินแล้ว
เซ็นทรัล นิวส์ เอเจนซี สื่อไต้หวัน รายงานล่าสุดว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 32 ราย หลังพบร่างของผู้โดยสารรายหนึ่งท่ามกลางเศษซากปรักหักพัง โดยในจำนวนนี้มี 16 ราย เป็นนักท่องเที่ยวจีนจากแถบเมืองซย่าเหมินบนแผ่นดินใหญ่ ส่วนยอดผู้สูญหายปรับลงมาที่ 11 ราย ขณะที่ผู้รอดชีวิต 15 คน ยังคงพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ซึ่งมี 3 ราย เป็นผู้โดยสารชาวจีนแผ่นดินใหญ่
ด้านสถาบันการบินพลเรือนของไต้หวัน (CAA) เผยเจ้าหน้าที่กู้ภัยพบร่างของกัปตัน Liao Chien-tsung วัย 42 ปี และ Liu Tzu-chu นักบินผู้ช่วย รวมถึง Hung Ping-chung วิศวกรประจำเที่ยวบินอยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิต โดย Lin Tyh-ming หัวหน้าสถาบันฯ กล่าวว่า เหลียวและนักบินผู้ช่วยปฏิบัติงานมาแล้ว 4,916 ชั่วโมงบิน และ 6,922 ชั่วโมงบิน ตามลำดับ
สถาบันฯ ยังออกคำสั่งถึงผู้ให้บริการเครื่องบิน ATR ทั้ง 22 ลำบนเกาะ ดำเนินมาตรการ “ตรวจเช็คพิเศษ” อย่างละเอียด โดยมุ่งเน้นที่ตัวเครื่องยนต์ ระบบควบคุมเชื้อเพลิง ระบบใบพัด ฯลฯ ของอากาศยานเครื่องยนต์เทอร์โบพรอบ ซึ่งผลิตโดยบริษัทเอทีอาร์ (ATR) สัญชาติอิตาลี-ฝรั่งเศส
ส่วนกระทรวงคมนาคมของไต้หวันกล่าวระงับสายการบินทรานส์เอเชียออกจากการร้องขอสิทธิ์การบินใหม่เป็นเวลาหนึ่งปี ระหว่างดำเนินกระบวนการสอบสวนหาสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งที่สองในรอบเจ็ดเดือนของสายการบินฯ
ทั้งนี้ช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ใช้เครนยกย้ายซากเครื่องบินขึ้นจากแม่น้ำ โดยชิ้นส่วนขนาดใหญ่ 3 ชิ้น ถูกทยอยเคลื่อนย้ายขึ้นฝั่งตลอดคืน เผยให้เห็นแรงกระแทกจากการพุ่งชนได้ทุบเอาห้องนักบินยุบลงไปกับส่วนบรรทุกสิ่งของของเครื่องบิน ขณะที่ซากเครื่องอีกส่วนที่เหลือยังคงจมอยู่ก้นแม่น้ำคีลุง
นายดาเนียล ชาง ผู้เชี่ยวชาญด้านการบิน ยกย่องนักบินสายการบินทรานส์เอเชียของไต้หวัน ที่พยายามบังคับเครื่องบินไม่ให้ชนย่านที่มีผู้คนหนาแน่นและอาคารระฟ้า หลังจากขอความช่วยเหลือก่อนเครื่องบินเฉี่ยวชนสะพานและตกในแม่น้ำ.
เซ็นทรัล นิวส์ เอเจนซี สื่อไต้หวัน รายงานล่าสุดว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 32 ราย หลังพบร่างของผู้โดยสารรายหนึ่งท่ามกลางเศษซากปรักหักพัง โดยในจำนวนนี้มี 16 ราย เป็นนักท่องเที่ยวจีนจากแถบเมืองซย่าเหมินบนแผ่นดินใหญ่ ส่วนยอดผู้สูญหายปรับลงมาที่ 11 ราย ขณะที่ผู้รอดชีวิต 15 คน ยังคงพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ซึ่งมี 3 ราย เป็นผู้โดยสารชาวจีนแผ่นดินใหญ่
ด้านสถาบันการบินพลเรือนของไต้หวัน (CAA) เผยเจ้าหน้าที่กู้ภัยพบร่างของกัปตัน Liao Chien-tsung วัย 42 ปี และ Liu Tzu-chu นักบินผู้ช่วย รวมถึง Hung Ping-chung วิศวกรประจำเที่ยวบินอยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิต โดย Lin Tyh-ming หัวหน้าสถาบันฯ กล่าวว่า เหลียวและนักบินผู้ช่วยปฏิบัติงานมาแล้ว 4,916 ชั่วโมงบิน และ 6,922 ชั่วโมงบิน ตามลำดับ
สถาบันฯ ยังออกคำสั่งถึงผู้ให้บริการเครื่องบิน ATR ทั้ง 22 ลำบนเกาะ ดำเนินมาตรการ “ตรวจเช็คพิเศษ” อย่างละเอียด โดยมุ่งเน้นที่ตัวเครื่องยนต์ ระบบควบคุมเชื้อเพลิง ระบบใบพัด ฯลฯ ของอากาศยานเครื่องยนต์เทอร์โบพรอบ ซึ่งผลิตโดยบริษัทเอทีอาร์ (ATR) สัญชาติอิตาลี-ฝรั่งเศส
ส่วนกระทรวงคมนาคมของไต้หวันกล่าวระงับสายการบินทรานส์เอเชียออกจากการร้องขอสิทธิ์การบินใหม่เป็นเวลาหนึ่งปี ระหว่างดำเนินกระบวนการสอบสวนหาสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งที่สองในรอบเจ็ดเดือนของสายการบินฯ
ทั้งนี้ช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ใช้เครนยกย้ายซากเครื่องบินขึ้นจากแม่น้ำ โดยชิ้นส่วนขนาดใหญ่ 3 ชิ้น ถูกทยอยเคลื่อนย้ายขึ้นฝั่งตลอดคืน เผยให้เห็นแรงกระแทกจากการพุ่งชนได้ทุบเอาห้องนักบินยุบลงไปกับส่วนบรรทุกสิ่งของของเครื่องบิน ขณะที่ซากเครื่องอีกส่วนที่เหลือยังคงจมอยู่ก้นแม่น้ำคีลุง
นายดาเนียล ชาง ผู้เชี่ยวชาญด้านการบิน ยกย่องนักบินสายการบินทรานส์เอเชียของไต้หวัน ที่พยายามบังคับเครื่องบินไม่ให้ชนย่านที่มีผู้คนหนาแน่นและอาคารระฟ้า หลังจากขอความช่วยเหลือก่อนเครื่องบินเฉี่ยวชนสะพานและตกในแม่น้ำ.