ASTVผู้จัดการรายวัน - ไฮโซสาว “ตั๋ม” วิชชุดา ลีนุตพงษ์ แฉต่อ "รองอั๋น" คบซ้อน "หมอแอร์" คุณหมอคนสวยแห่ง สตช. หวังให้ช่วยสนับสนุนเพราะรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่หลายคน ขณะที่ฝ่ายชายโต้เลิกกันไม่เกี่ยวเรื่องขอเงิน แต่เพราะพฤติกรรมล้วนๆ ระบุฝ่ายหญิงเคยขู่ถ้าเลิกกันจะทำลายให้ถึงที่สุด พร้อมยันไม่เคยเสียเงินซื้อตำแหน่งแม้แต่บาทเดียว
หลังจากไฮโซสาว “ตั๋ม” วิชชุดา ลีนุตพงษ์ โพสต์เฟซบุ๊กแฉ อดีตแฟนหนุ่ม “รองอั๋น” พ.ต.ท.อรรถพล อิทธโยภาสกุล ถึงสาเหตุที่ต้องล้มเลิกงานแต่ง ทั้งที่มีแผนจะเข้าสู่พิธีวิวาห์กลางปี 2558 นี้ เกิดจากฝ่ายชายขอให้ช่วยเงิน 5 ล้านบาท แต่ฝ่ายหญิงปฏิเสธ
เรื่องราวยังไม่จบเพียงแค่นั้น เพราะไฮโซสาวยังออกมาแฉต่อว่า ระหว่างที่ระหองระแหงเรื่องที่ฝ่ายหญิงไม่ยอมช่วยเงิน 5 ล้านบาท “รองอั๋น” ยังคบซ้อน กับ หมอแอร์ - พันตำรวจโทหญิง แพทย์หญิงอัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิธีกรรายการโทรทัศน์ และจิตแพทย์โรงพยาบาลตำรวจด้วย
โดยมีภาพการไปเดินเล่นกินไอศกรีมกันของ รองอั๋นและหมอแอร์ โดยงานนี้ไฮโซตั๋มในฐานะแฟนที่คบกันอยู่ได้โพสต์ข้อความในภาพที่ทั้งคู่ไปกินไอศกรีมด้วยกันว่า
"คนที่พี่อั๋นไปกินไอติมด้วยเมื่อวานคือหมอแอร์ที่เป็นตำรวจเหมือนกันค่ะ เขาเคยโทร.หาพี่อั๋นตอนตั๋มกะพี่อั๋นอยู่ในโรงหนัง ตอนนั้นพี่อั๋นบอกเพื่อนเก่า ถ้าเข้าใจไม่ผิด เค้าเพิ่งรู้จักกันตอนไปเดินถือป้ายลอยกระทงที่ข้าวสาร ตอนนั้นยังคบตั๋มอยู่แล้วยังหวังว่าตั๋มจะช่วยเรื่องเงินด้วย จากใจจริง หวังว่าหมอแอร์คงไม่โดนหลอกเหมือนตั๋มกับผู้หญิงทุกคนที่ผ่านมา รวมถึงภรรยาเก่าที่เขาหย่ากันแล้วด้วยนะคะ"
ข้อมูลจากนักสืบทางอินเทอร์เน็ตยังพบว่า ทั้งสองมีการไปไหนมาไหนด้วยกัน และยังถ่ายรูปภาพที่ใส่แว่นตาที่คาดว่าจะเป็นอันเดียวกันอีกด้วย โดยมีคอมเมนต์ว่า หมอแอร์นั้นถูกย้ายไปอยู่ใน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และน่าจะรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่หลายท่าน น่าจะช่วยสนับสนุนฝ่ายชายได้
เรียกได้ว่าเรื่องราวฉาวๆ ในวงการสีกากีตอนนี้มันส์สะท้านวงการจริงๆ
*** “รองอั๋น”ยันไม่เคยใช้เงินซื้อตำแหน่ง
ด้าน “รองอั๋น” พ.ต.ท.อรรถพล อิทธโยภาสกุล ตำรวจหนุ่มหล่อล่ำ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก “Aun Pol” เพื่อตอบโต้กลับ “ตั๋ม” วิชชุดา ลีนุตพงษ์ อดีตแฟนสาว โดยระบุว่า ขอบคุณทุกกำลังใจนะครับ ที่เป็นห่วง... เป็นเรื่องของคน 2 คนที่คบกันแล้วเลิกกันไป แต่ฝ่ายหนึ่งผิดหวังจึงทำลาย
ทั้งนี้ มีคนเตือนฝ่ายชายมากมายเกี่ยวกับเธอ ฝ่ายชายลังเล แต่จะเชื่อเมื่อพิสูจน์ด้วยตนเอง เธอมีทั้งด้านดีและด้านไม่ดีเหมือนคนทั่วๆ ไป ซึ่งชีวิตคู่นั้นทั้งคู่ต้องยอมรับด้านไม่ดีของซึ่งกันและกันได้ ถึงจะอยู่ด้วยกันในระยะยาวได้
ปัญหาจริงๆ ที่ต้องยุติความสัมพันธ์นั้น คือ พฤติกรรมการไม่ให้เกียรติ และการกระทำบางอย่าง (ขอไม่กล่าวถึงที่ทำให้ฝ่ายหญิงเสียหายครับ) รวมถึงอีกมากมายที่วงสังคมเดียวกันกับฝ่ายหญิงรู้ดี เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่สามารถใช้ชีวิตคู่ได้ ไม่ใช่เรื่องเงินตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด
ตรรกะง่ายๆ สิ่งที่เธอกล่าวหาว่าฝ่ายชายต้องการเงินจากเธอ ใครๆ ก้อคิดได้ ว่าถ้าต้องการแบบนั้นจริง คงยอมแต่ง แล้วเอาเงิน แต่มันไม่ใช่ ตลอดระยะเวลาที่คบกัน ฝ่ายชายไม่เคยเอาเงินหรือของอะไรจากเธอเลย จะมีแลกของบ้าง ตามปกติของคนคบกัน แม้เธออยากจะซื้ออะไรให้ ฝ่ายชายมักบอกเสมอว่า ไม่เป็นไร สิ่งที่อยากได้ สามารถซื้อเองได้หมด ยืนยันว่าฝ่ายชายไม่เคยขอหรือเอาเงินหรือทรัพย์สินใดๆ ของฝ่ายหญิงแม้แต่บาทเดียว
โดยฝ่ายชายเองเป็นเพียงคนธรรมดา มีข้อดีและไม่ดีเช่นกัน เมื่อฝ่ายหนึ่งไม่สามารถรับข้อเสียและความเป็นตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่ายหนึ่งได้ ทั้งคู่ต่างยอมรับและยุติความสัมพันธ์ไป โดยทั้งสองคนได้ยุติความสัมพันธ์ช่วงต้นเดือนมกราคม ที่ผ่านมา
สำหรับการกล่าวหาฝ่ายชายในเรื่องเป็นเท็จที่ทำให้ฝ่ายชายเสียหาย ฝ่ายชายยอมถูกด่าถูกว่าโดยบิดเบือนข้อเท็จจริงเป็นระยะเวลาหนึ่งโดยไม่ตอบโต้ หวังเพื่อให้จบเรื่องนี้โดยดี ยอมให้ฝ่ายหญิงจบเรื่องนี้อย่างสง่างาม แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมจบ เกิดความเสียหายต่อ ตัวฝ่ายชาย ครอบครัว อาชีพ และบุคคลอื่น
ชีวิตฝ่ายชายมาได้ทุกวันนี้ ยืนยันว่ามาด้วยการทำงานตามปกติไม่เคยเสียเงิน ในการขึ้นตำแหน่งตามที่ถูกกล่าวหาแม้แต่บาทเดียว ทุกคนที่รู้จัก รู้ดี
สิ่งที่ฝ่ายหญิงกล่าวไว้ ถ้าเลิกกัน จะทำลายฝ่ายชายให้ถึงที่สุด ในทุกรูปแบบ เป็นสิ่งที่กำลังโดนโจมตี อย่างหนักหน่วง ซึ่งคำพูดใครจะพูดอะไรก็พูดได้ แต่ขอให้ใช้วิจารณญาณในการรับฟัง
หลังจากไฮโซสาว “ตั๋ม” วิชชุดา ลีนุตพงษ์ โพสต์เฟซบุ๊กแฉ อดีตแฟนหนุ่ม “รองอั๋น” พ.ต.ท.อรรถพล อิทธโยภาสกุล ถึงสาเหตุที่ต้องล้มเลิกงานแต่ง ทั้งที่มีแผนจะเข้าสู่พิธีวิวาห์กลางปี 2558 นี้ เกิดจากฝ่ายชายขอให้ช่วยเงิน 5 ล้านบาท แต่ฝ่ายหญิงปฏิเสธ
เรื่องราวยังไม่จบเพียงแค่นั้น เพราะไฮโซสาวยังออกมาแฉต่อว่า ระหว่างที่ระหองระแหงเรื่องที่ฝ่ายหญิงไม่ยอมช่วยเงิน 5 ล้านบาท “รองอั๋น” ยังคบซ้อน กับ หมอแอร์ - พันตำรวจโทหญิง แพทย์หญิงอัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิธีกรรายการโทรทัศน์ และจิตแพทย์โรงพยาบาลตำรวจด้วย
โดยมีภาพการไปเดินเล่นกินไอศกรีมกันของ รองอั๋นและหมอแอร์ โดยงานนี้ไฮโซตั๋มในฐานะแฟนที่คบกันอยู่ได้โพสต์ข้อความในภาพที่ทั้งคู่ไปกินไอศกรีมด้วยกันว่า
"คนที่พี่อั๋นไปกินไอติมด้วยเมื่อวานคือหมอแอร์ที่เป็นตำรวจเหมือนกันค่ะ เขาเคยโทร.หาพี่อั๋นตอนตั๋มกะพี่อั๋นอยู่ในโรงหนัง ตอนนั้นพี่อั๋นบอกเพื่อนเก่า ถ้าเข้าใจไม่ผิด เค้าเพิ่งรู้จักกันตอนไปเดินถือป้ายลอยกระทงที่ข้าวสาร ตอนนั้นยังคบตั๋มอยู่แล้วยังหวังว่าตั๋มจะช่วยเรื่องเงินด้วย จากใจจริง หวังว่าหมอแอร์คงไม่โดนหลอกเหมือนตั๋มกับผู้หญิงทุกคนที่ผ่านมา รวมถึงภรรยาเก่าที่เขาหย่ากันแล้วด้วยนะคะ"
ข้อมูลจากนักสืบทางอินเทอร์เน็ตยังพบว่า ทั้งสองมีการไปไหนมาไหนด้วยกัน และยังถ่ายรูปภาพที่ใส่แว่นตาที่คาดว่าจะเป็นอันเดียวกันอีกด้วย โดยมีคอมเมนต์ว่า หมอแอร์นั้นถูกย้ายไปอยู่ใน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และน่าจะรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่หลายท่าน น่าจะช่วยสนับสนุนฝ่ายชายได้
เรียกได้ว่าเรื่องราวฉาวๆ ในวงการสีกากีตอนนี้มันส์สะท้านวงการจริงๆ
*** “รองอั๋น”ยันไม่เคยใช้เงินซื้อตำแหน่ง
ด้าน “รองอั๋น” พ.ต.ท.อรรถพล อิทธโยภาสกุล ตำรวจหนุ่มหล่อล่ำ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก “Aun Pol” เพื่อตอบโต้กลับ “ตั๋ม” วิชชุดา ลีนุตพงษ์ อดีตแฟนสาว โดยระบุว่า ขอบคุณทุกกำลังใจนะครับ ที่เป็นห่วง... เป็นเรื่องของคน 2 คนที่คบกันแล้วเลิกกันไป แต่ฝ่ายหนึ่งผิดหวังจึงทำลาย
ทั้งนี้ มีคนเตือนฝ่ายชายมากมายเกี่ยวกับเธอ ฝ่ายชายลังเล แต่จะเชื่อเมื่อพิสูจน์ด้วยตนเอง เธอมีทั้งด้านดีและด้านไม่ดีเหมือนคนทั่วๆ ไป ซึ่งชีวิตคู่นั้นทั้งคู่ต้องยอมรับด้านไม่ดีของซึ่งกันและกันได้ ถึงจะอยู่ด้วยกันในระยะยาวได้
ปัญหาจริงๆ ที่ต้องยุติความสัมพันธ์นั้น คือ พฤติกรรมการไม่ให้เกียรติ และการกระทำบางอย่าง (ขอไม่กล่าวถึงที่ทำให้ฝ่ายหญิงเสียหายครับ) รวมถึงอีกมากมายที่วงสังคมเดียวกันกับฝ่ายหญิงรู้ดี เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่สามารถใช้ชีวิตคู่ได้ ไม่ใช่เรื่องเงินตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด
ตรรกะง่ายๆ สิ่งที่เธอกล่าวหาว่าฝ่ายชายต้องการเงินจากเธอ ใครๆ ก้อคิดได้ ว่าถ้าต้องการแบบนั้นจริง คงยอมแต่ง แล้วเอาเงิน แต่มันไม่ใช่ ตลอดระยะเวลาที่คบกัน ฝ่ายชายไม่เคยเอาเงินหรือของอะไรจากเธอเลย จะมีแลกของบ้าง ตามปกติของคนคบกัน แม้เธออยากจะซื้ออะไรให้ ฝ่ายชายมักบอกเสมอว่า ไม่เป็นไร สิ่งที่อยากได้ สามารถซื้อเองได้หมด ยืนยันว่าฝ่ายชายไม่เคยขอหรือเอาเงินหรือทรัพย์สินใดๆ ของฝ่ายหญิงแม้แต่บาทเดียว
โดยฝ่ายชายเองเป็นเพียงคนธรรมดา มีข้อดีและไม่ดีเช่นกัน เมื่อฝ่ายหนึ่งไม่สามารถรับข้อเสียและความเป็นตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่ายหนึ่งได้ ทั้งคู่ต่างยอมรับและยุติความสัมพันธ์ไป โดยทั้งสองคนได้ยุติความสัมพันธ์ช่วงต้นเดือนมกราคม ที่ผ่านมา
สำหรับการกล่าวหาฝ่ายชายในเรื่องเป็นเท็จที่ทำให้ฝ่ายชายเสียหาย ฝ่ายชายยอมถูกด่าถูกว่าโดยบิดเบือนข้อเท็จจริงเป็นระยะเวลาหนึ่งโดยไม่ตอบโต้ หวังเพื่อให้จบเรื่องนี้โดยดี ยอมให้ฝ่ายหญิงจบเรื่องนี้อย่างสง่างาม แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมจบ เกิดความเสียหายต่อ ตัวฝ่ายชาย ครอบครัว อาชีพ และบุคคลอื่น
ชีวิตฝ่ายชายมาได้ทุกวันนี้ ยืนยันว่ามาด้วยการทำงานตามปกติไม่เคยเสียเงิน ในการขึ้นตำแหน่งตามที่ถูกกล่าวหาแม้แต่บาทเดียว ทุกคนที่รู้จัก รู้ดี
สิ่งที่ฝ่ายหญิงกล่าวไว้ ถ้าเลิกกัน จะทำลายฝ่ายชายให้ถึงที่สุด ในทุกรูปแบบ เป็นสิ่งที่กำลังโดนโจมตี อย่างหนักหน่วง ซึ่งคำพูดใครจะพูดอะไรก็พูดได้ แต่ขอให้ใช้วิจารณญาณในการรับฟัง