ASTVผู้จัดการรายวัน - โฆษก ตร.แจงกรณีผู้การฯ สุพรรณ ออกคำสั่งให้ ตร.ที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ 28 นาย เข้ารายงานตัวต่อ "บรรหาร" จึงมีคำสั่งย้ายให้ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค7 เป็นการชั่วคราว ฐานวางตัวไม่เป็นกลาง
วานนี้ (28 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณี พล.ต.ต.ชัชชรินทร์ สว่างวงศ์ ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี ได้ออกหนังสือคำสั่งทางราชการบังคับให้ข้าราชการตำรวจระดับ รองผู้บังคับการ - สารวัตร ที่ได้รับแต่งตั้งใหม่จำนวน 28 นาย ในสังกัด ภ.จว.สุพรรณบุรี เข้าพบนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บ้านพักบริเวณถนนจรัญสนิทวงศ์ กทม.ว่า กรณีดังกล่าวทาง พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.7 ได้มี คำสั่งย้าย พล.ต.ต.ชัชชรินทร์ ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค7 เป็นการชั่วคราว เพื่อความเหมาะสมใน การปฏิบัติราชการ จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ตามหลักปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจทุกคนนั้น จะต้องวางตัว เป็นกลางทางการเมือง ไม่เลือกข้าง และไม่จำเป็นต้องเข้าไปรายงานตัวกับใคร
"กรณีดังกล่าวเมื่อพบว่าตำรวจวางตัวไม่เป็นกลาง และมีการออกคำสั่งเป็นหนังสือราชการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาซึ่งไม่ ทราบว่าเต็มใจหรือไม่ไปเข้าพบกับนักการเมือง ที่ถึงแม้จะเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่สังคมให้ความเคารพนับถือแต่ก็เป็นสิ่งที่ไม่ สมควรไม่เหมาะสม ดังนั้นผู้บังคับบัญชาจึงต้องดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนและความเหมาะสม การเรียกผู้บังคับการ ตำรวจภูธร จ.สุพรรณบุรี เข้ามาช่วยราชการนั้น คงเป็นการเรียกมาเพื่อปรับทัศนคติในการปฏิบัติงานว่าท่านได้ใช้ดุลยพินิจ อย่างไร จึงได้ดำเนินการออกคำสั่งดังกล่าวมาจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคม" โฆษก ตร.กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าในแต่ละจังหวัดก็จะมีผู้หลักผู้ใหญ่ที่ประชาชนให้ความเคารพนับถือ ซึ่งก็นับว่าเป็นสิทธิ์ที่ข้าราชการตำรวจแต่ละ คนจะกระทำได้ ถือเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แต่ไม่สมควรทำหนังสือออกมาเป็นคำสั่งทางราชการและบังคับผู้ ใต้บังคับบัญชากระทำตามเช่นนี้
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีข้าราชการตำรวจในบางพื้นที่เดินทางไปให้นักการเมืองท้องถิ่นหรือผู้นำกลุ่มการเมืองติดเข็มที่ อกเสื้อให้ พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า กรณีเช่นนี้ถือเป็นเรื่องส่วนตัวที่ตำรวจแต่ละคนจะเข้าไปพบผู้หลักผู้ใหญ่ที่ตัวเองนับถือ ได้ แต่ก็ไม่สมควรออกเป็นหนังสือคำสั่งให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์ในทางที่ไม่เหมาะสม.
วานนี้ (28 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณี พล.ต.ต.ชัชชรินทร์ สว่างวงศ์ ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี ได้ออกหนังสือคำสั่งทางราชการบังคับให้ข้าราชการตำรวจระดับ รองผู้บังคับการ - สารวัตร ที่ได้รับแต่งตั้งใหม่จำนวน 28 นาย ในสังกัด ภ.จว.สุพรรณบุรี เข้าพบนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บ้านพักบริเวณถนนจรัญสนิทวงศ์ กทม.ว่า กรณีดังกล่าวทาง พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.7 ได้มี คำสั่งย้าย พล.ต.ต.ชัชชรินทร์ ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค7 เป็นการชั่วคราว เพื่อความเหมาะสมใน การปฏิบัติราชการ จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ตามหลักปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจทุกคนนั้น จะต้องวางตัว เป็นกลางทางการเมือง ไม่เลือกข้าง และไม่จำเป็นต้องเข้าไปรายงานตัวกับใคร
"กรณีดังกล่าวเมื่อพบว่าตำรวจวางตัวไม่เป็นกลาง และมีการออกคำสั่งเป็นหนังสือราชการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาซึ่งไม่ ทราบว่าเต็มใจหรือไม่ไปเข้าพบกับนักการเมือง ที่ถึงแม้จะเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่สังคมให้ความเคารพนับถือแต่ก็เป็นสิ่งที่ไม่ สมควรไม่เหมาะสม ดังนั้นผู้บังคับบัญชาจึงต้องดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนและความเหมาะสม การเรียกผู้บังคับการ ตำรวจภูธร จ.สุพรรณบุรี เข้ามาช่วยราชการนั้น คงเป็นการเรียกมาเพื่อปรับทัศนคติในการปฏิบัติงานว่าท่านได้ใช้ดุลยพินิจ อย่างไร จึงได้ดำเนินการออกคำสั่งดังกล่าวมาจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคม" โฆษก ตร.กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าในแต่ละจังหวัดก็จะมีผู้หลักผู้ใหญ่ที่ประชาชนให้ความเคารพนับถือ ซึ่งก็นับว่าเป็นสิทธิ์ที่ข้าราชการตำรวจแต่ละ คนจะกระทำได้ ถือเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แต่ไม่สมควรทำหนังสือออกมาเป็นคำสั่งทางราชการและบังคับผู้ ใต้บังคับบัญชากระทำตามเช่นนี้
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีข้าราชการตำรวจในบางพื้นที่เดินทางไปให้นักการเมืองท้องถิ่นหรือผู้นำกลุ่มการเมืองติดเข็มที่ อกเสื้อให้ พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า กรณีเช่นนี้ถือเป็นเรื่องส่วนตัวที่ตำรวจแต่ละคนจะเข้าไปพบผู้หลักผู้ใหญ่ที่ตัวเองนับถือ ได้ แต่ก็ไม่สมควรออกเป็นหนังสือคำสั่งให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์ในทางที่ไม่เหมาะสม.