เมื่อเวลา 08.00 น. วานนี้ (18ม.ค.) ที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานพิธีถวายราชสักการะ พระบรมรูปรัชกาลที่ 5 พร้อมทั้งบวงสรวงพระบรมรูปพระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นมหาราช 9 พระองค์ ตลอดจนวางพวงมาลาสักการะดวงวิญญาณนักรบไทย ก่อนจะเข้าร่วมพิธีบำเพ็ญกุศล เนื่องในวันกองทัพไทย ประจำปี 2558 โดยมี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยนายทหารชั้นผู้ใหญ่ เข้าร่วมพิธี
สำหรับการจัดงานดังกล่าว เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช องค์วีรมหากษัตริย์ไทย และบูรพกษัตริย์ทุกพระองค์ ตลอดจนเหล่าบรรพชนของไทย ที่ได้สร้างวีรกรรมอันกล้าหาญ สละเลือดเนื้อและชีวิต เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยไว้เป็นมรดกตกทอดมาจนถึงทุกวันนี้
โดย พล.อ.วรพงษ์ ได้ให้โอวาทว่า กองทัพไทยมีหน้าที่ปกป้องรักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ช่วยเหลือประชาชนพัฒนา และแก้ไขปัญหาของชาติ การที่ทหารทุกคนจะทำหน้าที่อันสำคัญนี้ให้สมบูรณ์ได้ ต้องยึดมั่นในคำสัตย์ปฏิญาณตนอย่างมั่นคง ถือเป็นเกียรติ มีระเบียบวินัย กล้าหาญ เสียสละ เชื่อมั่นในผู้บังคับบัญชา มีความสามัคคี เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เทิดทูน และจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ยิ่งชีวิต จึงขอชื่นชมที่ทุกท่านปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเท เสียสละ มีความร่วมมือร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวจนเป็นที่เชื่อมั่นศรัธาของประชาชน
ขณะที่ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า บทบาทหน้าที่ของกองทัพไทยนับแต่อดีตยังดำรงความมุ่งหมายในการป้องกันรักษาความปลอดภัยของราชอาณาจักร การพิทักษ์ค้ำจุณราชบัลลังก์ และสร้างสรรค์ความมีสันติสุขให้กับประชาชน ซึ่งกองทัพบกในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของกองทัพไทย ได้ทุ่มเทสรรพกำลังสนับสนุนภาระกิจทุกด้านอย่างเต็มกำลังความสามารถให้บรรลผลสัมฤทธิ์ ควบคู่ไปกับการเร่งรัดพัฒนาทั้งด้านกำลังพล บริหารจัดการ และอาวุธยุทโธปกรณ์ พร้อมให้ก้าวไปสู่กองทัพที่มีความพร้อมสมบูรณ์แบบในทุกมิติ สามารถปฏิบัติงานอย่างเห็นผลเป็นรูปธรรม ตลอดจนมีศักยภาพให้สมกับการเป็นกองทัพของชาติและประชาชน อันเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศ และภูมิภาคอาเซียน โดยพร้อมเป็นกำลังสนับสนุน และส่งเสริมให้กองทัพไทยเป็นเสาหลักด้านความมั่นคงของชาติที่เข้มแข็ง และเป็นที่พึ่งของประชาชนทุกโอกาสตลอดไป
เนื่องในวันกองทัพไทย กองทัพบกขอให้คำมั่นว่า จะทุ่มเทในการปฏิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุด เพื่อรักษาเกียรติยศ ศักดิ์ศรีของกองทัพไทย โดยยึดถือประโยชน์ของ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ด้านพล.ร.อ.ไกรสร กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา กองทัพเรือได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถในการปกป้องเอกราช อธิปไตยของชาติ การถวายพระเกียรติยศ และความปลอดภัยแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ รวมทั้งการคุ้มครองรักษาผลประโยช์ของชาติทางทะเล เพื่อนำความมั่นคง มั่งคั่ง และความมีเกียรติ ศักดิ์ศรีในเวทีโลกมาสู่ประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ
กองทัพเรือ ขอให้คำมั่นว่า จะเทิดทูน และธำรงไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ เพื่อสร้างความผาสุขให้ประชาชน
ในส่วนของพล.อ.อ.ตรีทศ กล่าวให้โอวาทว่า ในวันนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ทหารได้กระทำสัตย์ปฏิญาณต่อธงชัยเฉลิมพล เพื่อให้เป็นทหารที่สมบูรณ์พร้อมทั้งร่ายกาย และจิตใจ มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ท่ามกลางสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตลอดจนตระหนักถึงความซื่อสัตย์สุจริต มีอุดมการณ์เป็นทหารอาชีพ พร้อมเสียสละเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการป้องกันประเทศ การรักษาความมั่นคงภายใน และมีความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มความสามารถ ตลอดจนสนับสนุนภารกิจของรัฐบาลในการพัฒนาประเทศให้มั่นคง รุ่งเรื่องต่อไป
สำหรับการจัดงานดังกล่าว เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช องค์วีรมหากษัตริย์ไทย และบูรพกษัตริย์ทุกพระองค์ ตลอดจนเหล่าบรรพชนของไทย ที่ได้สร้างวีรกรรมอันกล้าหาญ สละเลือดเนื้อและชีวิต เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยไว้เป็นมรดกตกทอดมาจนถึงทุกวันนี้
โดย พล.อ.วรพงษ์ ได้ให้โอวาทว่า กองทัพไทยมีหน้าที่ปกป้องรักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ช่วยเหลือประชาชนพัฒนา และแก้ไขปัญหาของชาติ การที่ทหารทุกคนจะทำหน้าที่อันสำคัญนี้ให้สมบูรณ์ได้ ต้องยึดมั่นในคำสัตย์ปฏิญาณตนอย่างมั่นคง ถือเป็นเกียรติ มีระเบียบวินัย กล้าหาญ เสียสละ เชื่อมั่นในผู้บังคับบัญชา มีความสามัคคี เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เทิดทูน และจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ยิ่งชีวิต จึงขอชื่นชมที่ทุกท่านปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเท เสียสละ มีความร่วมมือร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวจนเป็นที่เชื่อมั่นศรัธาของประชาชน
ขณะที่ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า บทบาทหน้าที่ของกองทัพไทยนับแต่อดีตยังดำรงความมุ่งหมายในการป้องกันรักษาความปลอดภัยของราชอาณาจักร การพิทักษ์ค้ำจุณราชบัลลังก์ และสร้างสรรค์ความมีสันติสุขให้กับประชาชน ซึ่งกองทัพบกในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของกองทัพไทย ได้ทุ่มเทสรรพกำลังสนับสนุนภาระกิจทุกด้านอย่างเต็มกำลังความสามารถให้บรรลผลสัมฤทธิ์ ควบคู่ไปกับการเร่งรัดพัฒนาทั้งด้านกำลังพล บริหารจัดการ และอาวุธยุทโธปกรณ์ พร้อมให้ก้าวไปสู่กองทัพที่มีความพร้อมสมบูรณ์แบบในทุกมิติ สามารถปฏิบัติงานอย่างเห็นผลเป็นรูปธรรม ตลอดจนมีศักยภาพให้สมกับการเป็นกองทัพของชาติและประชาชน อันเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศ และภูมิภาคอาเซียน โดยพร้อมเป็นกำลังสนับสนุน และส่งเสริมให้กองทัพไทยเป็นเสาหลักด้านความมั่นคงของชาติที่เข้มแข็ง และเป็นที่พึ่งของประชาชนทุกโอกาสตลอดไป
เนื่องในวันกองทัพไทย กองทัพบกขอให้คำมั่นว่า จะทุ่มเทในการปฏิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุด เพื่อรักษาเกียรติยศ ศักดิ์ศรีของกองทัพไทย โดยยึดถือประโยชน์ของ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ด้านพล.ร.อ.ไกรสร กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา กองทัพเรือได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถในการปกป้องเอกราช อธิปไตยของชาติ การถวายพระเกียรติยศ และความปลอดภัยแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ รวมทั้งการคุ้มครองรักษาผลประโยช์ของชาติทางทะเล เพื่อนำความมั่นคง มั่งคั่ง และความมีเกียรติ ศักดิ์ศรีในเวทีโลกมาสู่ประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ
กองทัพเรือ ขอให้คำมั่นว่า จะเทิดทูน และธำรงไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ เพื่อสร้างความผาสุขให้ประชาชน
ในส่วนของพล.อ.อ.ตรีทศ กล่าวให้โอวาทว่า ในวันนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ทหารได้กระทำสัตย์ปฏิญาณต่อธงชัยเฉลิมพล เพื่อให้เป็นทหารที่สมบูรณ์พร้อมทั้งร่ายกาย และจิตใจ มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ท่ามกลางสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตลอดจนตระหนักถึงความซื่อสัตย์สุจริต มีอุดมการณ์เป็นทหารอาชีพ พร้อมเสียสละเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการป้องกันประเทศ การรักษาความมั่นคงภายใน และมีความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มความสามารถ ตลอดจนสนับสนุนภารกิจของรัฐบาลในการพัฒนาประเทศให้มั่นคง รุ่งเรื่องต่อไป