xs
xsm
sm
md
lg

แก๊งโกงสจล.เช่าฮ.ผลาญเงิน บินทัวร์เกาะฮ่องกง 'บอย'หนาว!ซื้อรถหรูแก๊งฟอกเงิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เผยเที่ยวบินต้องสงสัย “แก๊งโกงเงิน ลาดกระบัง” 1,400 ล้าน เช่าเฮลิคอปเตอร์ผลาญเงินทัวร์เกาะฮ่องกงที่ รอง ผบก.ป. ออกมาเปิดเผย ข้อมูลเชื่อมโยงชื่อ “โอ๊ต ภาดา” ไอดอลรวยร้อยล้าน กับ “กิตติศักดิ์” กุญแจสำคัญของคดี หลังเปิดบริษัทขายเครื่องสำอางร่วมกันกลางเดือน ธ.ค. 57 ที่ผ่านมา เตรียมสอบทรัพย์ "กิตติศักดิ์" ด้าน “บอย ปกรณ์” หนาว! ซื้อต่อรถหรู 13.5 ล้าน โยงแก๊งฟอกเงิน?

หลังจากที่ พ.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บังคับการปราบปราม (รอง ผบก.ป.) หัวหน้าพนักงานตำรวจฝ่ายสืบสวนชุดคลี่คลายคดีลักทรัพย์เงินของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) จำนวนมากกว่า 1,400 ล้านบาท ได้ออกมาเปิดเผยว่า นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหาสำคัญของคดีเชื่อว่าหลบหนีไปต่างประเทศ และเพื่อนมีพฤติกรรมการนำเงินที่ทุจริตจาก สจล. ไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือยราวกับเศรษฐี โดยนอกจากจะนำไปซื้อรถยนต์ซูเปอร์คาร์ราคาแพงและขายต่อในราคาถูกเพื่อฟอกเงินแล้วยังมีการนำเงินไปท่องเที่ยวและเช่า เฮลิคอปเตอร์บินดูรอบๆ เกาะฮ่องกงกันอีกด้วย

ล่าสุดผู้สื่อข่าว ASTVผู้จัดการรายวัน ได้รับเบาะแสว่า ในกลุ่มคนใกล้ชิดของนายกิตติศักดิ์ มีชายที่ชื่อว่า “ภาดา บัวขาว” หรือ โอ๊ต อยู่ด้วย โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมานายโอ๊ต ภาดา ขึ้นชื่อในกลุ่มชายรักชายในโลกออนไลน์ว่าเป็นไอดอลหนุ่มที่สร้างเนื้อสร้างตัวให้มีเงินนับร้อยล้านได้ในเวลาเพียงหนึ่งปี ไม่ว่าจะเป็นการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ซื้อรถยนต์ ซื้อแหวนเพชรราคาแพง รวมถึงมีพฤติกรรมในการท่องเที่ยวราวกับมหาเศรษฐี โดยนายโอ๊ต ภาดา ใช้ชื่อในโลกสื่อสังคมออนไลน์ว่า @Oat_pada จนเป็นที่รู้จักกันไปทั่ว

นอกจากนี้ในเวลาต่อมา นายกิตติศักดิ์ และนายภาดา ยังมีการทำธุรกิจร่วมกันในที่ชื่อ บริษัท เอ็ม เฟส โทเทิล เอฟเฟกต์ จำกัด (M FACE TOTAL EFFECT COMPANY LIMITED) โดยบริษัทดังกล่าวเพิ่งจดทะเบียนเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา มีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ประเภทธุรกิจ ประกอบกิจการขายส่งขายปลีกครีมบำรุงผิวเครื่องสำอาง โดยมีที่ตั้งเลขที่ 98/11 หมู่ที่ 6 หมู่บ้านธนาภิรมย์ ชั้น 2 หมู่บ้านธนาภิรมย์ ถนนศรีนครินทร์ ตำบลบางเมืองใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ 10270 ทั้งนี้มีนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม และมีกรรมการอีก 4 คนประกอบไปด้วย นายภาดา บัวขาว น.ส.กนกวรรณ ทัพพะกุล ณ อยุธยานายสุกฤษ เขียวนันใจ และน.ส.ศิรดา วงค์วาท

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาในโลกออนไลน์ได้มีการเผยแพร่คลิปในอดีตที่นายโอ๊ต ภาดา เผยแพร่คลิปวิดีโอที่ตนเองพร้อมเพื่อนกำลังเดินทางขึ้นเฮลิคอปเตอร์ พร้อมระบุข้อความว่า “พี่กำลังจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปคาสิโน #ขอให้#เฮงๆ #รวยๆ #ไม่ได้ติดการพนันนะ #แต่บังเอิญพี่ชอบเสี่ยงดวง” จึงเป็นที่น่าสงสัยว่า คลิปดังกล่าวจะมีการเชื่อมโยงกับกรณีที่ พ.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบก.ป. ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนด้วยหรือไม่ว่า นายกิตติศักดิ์ และเพื่อนมีพฤติกรรมการนำเงินที่ทุจริตจาก สจล. ไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือยราวกับเศรษฐี รวมถึงการเช่าเฮลิคอปเตอร์บินดูรอบๆ เกาะฮ่องกงอีกด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (5 ม.ค.) กองปราบปรามจะตรวจสอบที่มาของทรัพย์สินของ นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างการหลบหนี ได้แก่ รถยนต์ซูเปอร์คาร์จำนวน 3 คัน รถยนต์ราคาแพง 8 คัน ที่ดินรวม 9 แปลง ว่า ได้มาถูกต้องหรือไม่ หากพบว่าไม่ถูกต้อง จะประสานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ให้อายัดทรัพย์สินต่อไป

วานนี้ (4 ม.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 น. พ.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบก.ป. หัวหน้าพนักงานตำรวจฝ่ายสืบสวนชุดคลี่คลายคดีลักทรัพย์เงินของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เรียกประชุมฝ่ายสืบสวน นำโดย พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รักษาการ ผกก. 1 บก.ป.และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน กก. 1 บก.ป. พ.ต.อ.กรไชย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายทำงานกันมาตลอดแม้จะเป็นช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ก็ไม่มีใครได้หยุดพักเนื่องจากเป็นคดีสำคัญ เงินที่สูญหายมีจำนวนมากจำเป็นต้องเร่งติดตามกลับคืนมาให้มากที่สุด ซึ่งวันนี้ได้เรียกประชุมพนักงานสืบสวนสอบสวนมาดูและวางแนวทางการทำงาน ตั้งแต่พรุ่งนี้จะมีการขยายผลออกไปต่อ ส่วนเรื่องของรถยนต์และทรัพย์สินต่างๆ จะได้ประสาน ปปง.เข้ามาทำการตรวจยึด อายัด ของเหล่านี้ที่ผู้ต้องหาได้มาเป็นทรัพย์ที่ได้มาโดยมิชอบมีการเล่นแร่แปรธาตุ ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการโกง ใครซื้อทรัพย์สินของผู้ต้องหากลุ่มนี้ไปขอเตือนเอาไว้เลยว่ายังไงๆ ก็จะต้องถูกยึดกลับคืน

รอง ผบก.กล่าวต่อว่า จากแนวทางการสืบสวนตนเชื่อว่า น.ส.อำพร จะต้องมีส่วนรู้เห็นด้วยอย่างแน่นอน ทำงานด้านการเงินมานานกว่า 30 ปี ที่เรามีเอกสารยืนยันว่า น.ส.อำพรน้อยสัมฤทธิ์ อายุ 56 ปี ผอ.ส่วนการคลังสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง นายทรงกลด ศรีประสงค์ อดีตผู้จัดการธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาห้างบิ๊กซี ศรีนครินทร์และอดีตผู้บริหารรู้กัน นอกจากนี้ยังเชื่อว่ามีคนที่อยู่เหนือขึ้นไปจากนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ด้วยที่ยังไม่เปิดเผยออกมา ไม่ใช่คนธรรมดา เป็นคนที่มีอำนาจวาสนาแต่ยังไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นใคร เพราะยังไม่รู้พยานหลักฐานจะพาดพิงไปถึงหรือไม่

สำหรับยอดเงินของ สจล. ตั้งแต่ปี 2555 ถึง 2557 ที่ตรวจสอบพบว่าสูญหายไปทั้งสิ้น 1,400 ล้านบาท ทรัพย์สินที่ตรวจพบเฉพาะในส่วนของนายกิตติศักดิ์มีประมาณ 700 ล้านบาท บ้าน 2 หลัง ที่บูเลอวาร์ด กับ พฤกษ์ภิรมย์ ก็รวมๆ 100 ล้านบาท

"โชคดีที่แก๊งนี้เอาเงินออกนอกระบบไปไม่มากนัก เฉพาะที่ยังอยู่ในระบบที่ตรวจสอบพบอยู่ประมาณ 994 ล้านบาท ที่ยังตรวจสอบหาไม่เจออีกประมาณ 400 ล้านกว่าบาท" รอง ผบก.ป.กล่าว พ.ต.อ.กรไชย กล่าวอีกว่า สำหรับคดีนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับแล้วทั้งสิ้นจำนวน 8 ราย สามารถติดตามจับกุมตัวมาได้แล้ว 4 ราย มีนายกิตติศักดิ์ที่เป็นผู้ต้องหาสำคัญเชื่อว่าหลบหนีไปต่างประเทศ 1 ราย นอกนั้นอีก 3 รายได้ให้ฝ่ายสืบสวนเฝ้าติดตามจับกุมตามบ้านพักทั้งในและต่างจังหวัดที่เชื่อว่าบุคคลเหล่านั้นจะหลบหนีไป แต่ยังไม่ได้ตัวมา

จากการตรวจสอบพบว่า นายกิตติศักดิ์มีกำหนดเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 12 ม.ค. ซึ่งจากการส่งชุดสืบสวนไปตรวจสอบที่บ้านญาตินายกิตติศักดิ์ที่ จ.พิจิตร เท่าที่ทราบพบว่าพ่อหรือแม่ไม่แน่ใจ เป็นผู้ใหญ่บ้านด้วย บ้านช่องที่ปลูกหลังใหญ่โตกำลังให้ฝ่ายสืบสวนยังเฝ้าอยู่

สำหรับทรัพย์สินต่างๆของนายกิตติศักดิ์ ประกอบด้วย บริษัทต่างๆ จำนวน 7 แห่ง ฝ่ายสืบสวนเรามีการตรวจสอบพบว่า บริษัท เอ็ม.ที.เจ.พร็อปเปอร์ตี้ มีเงินทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาทเป็นบริษัทประกอบธุรกิจบ้านจัดสรร มีกิตติศักดิ์ เป็นหุ้นส่วนใหญ่ มีนายพูลศักดิ์ บุญทรัพย์ น.ส.จันทร์จิรา โสประดิษฐ์ ผู้ต้องหาอีก 2 คนเป็นหุ้นส่วนด้วย ส่วนบริษัทอื่นๆ อีก 6 แห่ง มีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท สำหรับบริษัทมัทธุจัด ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ตำรวจเราเชื่อว่าน่าจะเป็นบริษัทที่ใช้สำหรับทำการฟอกเงิน โดยนายพูลศักดิ์ ซื้อบ้าน ที่หมู่บ้านโครงการลัดดารมย์ ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ ราคา 24 ล้าน เมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 โดยซื้อด้วยเงินสดโดยกู้เงินจากบริษัทมัทธุจัดผ่อนคืนให้เดือนละ 1 แสนบาททั้งที่ตัวเองบอกยังไม่มีงานทำ ไม่รู้ว่าเอาเงินที่ไหนมาผ่อน กลุ่มแก๊งนี้จะใช้วิธีการเอาเงินฟอกเงิน

พ.ต.อ.กรไชย กล่าวต่อว่า บริษัททั้ง 7 แห่งเริ่มประกอบธุรกิจตั้งแต่ปี 2555 - 57 ซึ่งเป็นปีที่มีการเอาเงินจาก สจล.ออกมา มีบริษัท เค.ลิฟวิ่ง แอนด์เซอร์วิส จำกัด ที่เพิ่งมาเปิดเมื่อปลายปี 57, บริษัท เอ็ม.เอฟ. โทเทิล เอฟเฟค จำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับการบำรุงผิว ที่น่าสังเกตคือ บริษัททั้งหมดมีที่ตั้งอยู่บริเวณเดียวกันคือหมู่บ้านธนภิรมย์ มีบริษัทเดียวที่แยกไปอยู่ที่บูเลอวาร์ดซึ่งฝ่ายสืบสวนเราขอหมายศาลไปตรวจค้นและอายัดเอาฮาร์ดดิสก์คอมพิวเตอร์และวงจรปิดที่ลงทุนด้วยเงินจำนวนมากถึง 7 แสนบาท มาเพื่อทำการตรวจสอบทั้งหมดอยู่ เพื่อหาหลักฐานการเชื่อมโยงกับการลักทรัพย์เงินของ สจล.

***ชี้ “บอย ปกรณ์” เข้าชี้แจงยังไม่เคลียร์

พ.ต.อ.กรไชย กล่าวด้วยว่าส่วนทรัพย์สินที่เป็นรถยนต์ของนายกิตติศักดิ์ เราตรวจสอบพบข้อมูลว่าได้ขายไปแล้วจำนวน 3 คัน เป็นรถยนต์หรูยี่ห้อ ลัมโบกีนี 2 คัน ๆ หนึ่งขายให้ดาราหนุ่มที่เป็นข่าวคือ “บอย” ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ และยี่ห้อออดี้ อีก 1 คันสำหรับลัมโบกีนี คันที่นายกิตติศักดิ์ ขายให้กับ บอย ปกรณ์ไปนั้น ทางฝ่ายสืบสวนเรายังมีข้อกังขาสงสัยอยู่ว่ามีเหตุผลอะไร เมื่อซื้อมาจาก บ.คาร์ แม็กซ์ พระราม 9 ในราคา 19.5 ล้านบาท ซื้อมาระยะเวลาแค่ 2 เดือนกว่า ขายต่อให้ บอย ปกรณ์ไป 13.5 ล้านบาท ทำไมถึงขายขาดทุนไปตั้ง 6 ล้านบาทแบบนั้น ขนาดคนรวยๆ เขายังไม่ทำกันเลย ซื้อรถมาขับเดือนละ 2 ล้านบาท สู้เอาเงินไปเช่ารถมาใช้ไม่ดีกว่าหรือ

“ส่วนตัวของ บอย ปกรณ์ นั้นแม้จะมาพบฝ่ายสอบสวนเมื่อวันก่อนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ นำเอกสารการซื้อขายมาให้ดูแล้วก็ตามแต่ตนยังมีข้อสงสัยอยู่ จะประสานขอให้มาพบเพื่อคุยกันก่อน เราจะต้องดูความเชื่อมโยงระหว่างเขากับกลุ่มผู้ต้องหากลุ่มนี้ด้วย ทุกอย่างมีเส้นทางหมด เขาพูดว่าไม่รู้จักกันมาก่อน ผมจะทำให้ดูว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นยังไง บอย ปกรณ์ มาพบพนักงานสอบสวนเท่านั้น ไม่ได้มาพบผม ถ้ามาพบจะมีคำถามมากกว่านั้นอีกเยอะ ยังไงๆ ก็จะประสานให้มาพบอีกครั้ง แต่ขอเวลาไปหาข้อมูลก่อน" พ.ต.อ.กรไชย กล่าว

สำหรับทรัพย์สินทั้งหมดของนายกิตติศักดิ์นั้น รอง ผบก.ป.กล่าวว่า ทาง ปปง.จะเป็นคนอายัดทรัพย์สินที่มีการซื้อมาอยู่ในครอบครอง รวมทั้งทรัพย์สินที่จำหน่ายขายไปแล้ว ว่ามีการขายไปอย่างไร คนที่ได้ทรัพย์สินเหล่านี้ไปไม่ว่าจะเป็นชื่อพ่อแม่พี่น้องของผู้ต้องหาที่มีการซื้อหรือโอนให้เป็นเจ้าของแทน แม้จะไม่โดนดำเนินคดีแต่ก็อาจจะต้องถูกอายัดทรัพย์เหล่านั้นถ้าไม่สามารถชี้แจงกับ ปปง.ได้ ส่วนรถยนต์อีก 2 คัน ยี่ห้อ ลัมโบกีนี และ ออดี้ ยังไม่ทราบว่าขายต่อไปในราคาเท่าไร แต่เชื่อว่าน่าจะขายไปในราคาไม่แพง เหมือนกับคันที่ขายต่อให้ บอย ปกรณ์

จากเงินที่นายกิตติศักดิ์ได้มาตั้งแต่ปี 2555 โดยได้มาจากธนาคารต่างๆ เป็นการโอนเข้าบัญชีตนเอง หรือบัญชีของพรรคพวกคนอื่นๆ ก่อน การที่นายกิตติศักดิ์จะเบิกเงินสดไปซื้อรถยนต์หรูราคาแพงแต่ละคันทำได้ไม่ง่าย เชื่อว่าเป็นการซื้อมาด้วยการใช้แคชเชียร์เช็คเงินสด เป็นการฟอกเงินดีๆ นี่เอง การเคลื่อนไหวตัวเลขในบัญชีไม่น่าสงสัย ไม่ต้องมีการแจ้งให้ ปปง.ทราบ เมื่อซื้อรถยนต์แล้ว การที่จะได้เงินกลับมาก็คือการขายรถยนต์ออกไป เขาก็จะได้เงินสดกลับมาอยู่ในบัญชีธนาคารของเขาทันที

พ.ต.อ.กรไชยกล่าวอีกว่าเราพบว่าเขาเดินทางไปเที่ยวที่ฮ่องกง ใช้จ่ายเงินอย่างกับเศรษฐี มีการเช่าเฮลิคอปเตอร์บินดูรอบๆเกาะฮ่องกงกัน คนธรรมดาเขาทำกันไมได้แบบนี้แน่นอนและ ยังมีอีกหลายคนที่เชื่อว่าได้ร่วมกับแก๊งนี้ อาจจะเป็นรับจ้างไปเปิดบัญชี ผู้ต้องหาที่ยังไม่ได้ตัวอีก 2 คนก็เชื่อว่าแค่รับจ้างเปิดบัญชีเท่านั้น ได้ค่าจ้างหลักแสนบาท แต่ก็ต้องหลบหนีไป ถ้าเข้ามามอบตัวให้ปากคำเราก็จะช่วยให้สำนวนเบาลงอาจแค่กันเป็นพยานไม่งั้นก็ต้องหลบหนีไปตลอด

ส่วนการทำงานต่อไปเรามีเป้าหมายอีก 1 รายที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับทำหน้าที่รับจ้างเปิดบัญชี แต่ได้รับเงินไปมากถึง 20 ล้านบาท โดยไปเปิดบัญชีธนาคารในเวลา 17.00 น. เมื่อโอนเงินเข้าบัญชีแล้วก็โอนต่อไปทันทีเวลา 18.00 น.วันเดียวกันเลยเป็นการทำธุรกรรมทางการเงินในธนาคารภายในห้างแห่งหนึ่ง.
กำลังโหลดความคิดเห็น