xs
xsm
sm
md
lg

คนแห่เที่ยวปีใหม่ตจว. มิตรภาพ-เอเซียรถหนึบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประชาชนและนักท่องเที่ยว หลั่งไหลออกต่างจังหวัดเตรียมฉลองปีใหม่กันคึกคัก จนการจราจรบนถนนสายหลักทั้งสายเหนือและอีสานหนาแน่นไปด้วยรถ คาดวันสุดท้ายของการทำงาน 30 ธ.ค.57 คนทะลักแน่ ขณะที่รถไฟสายเหนือแน่นทั้งขาขึ้น-ขาล่องตั๋วถูกจองล่วงหน้าเต็มยาวจนถึงต้นปีหน้า ส่วน "ยอดดอยเชียงใหม่" คึกคัก นักท่องเที่ยวแห่ท้าลมหนาว ด้าน จนท.ด่านเบตง คุมเข้มหวั่นผู้ไม่หวังดีเข้ามาป่วนช่วงปีใหม่

วานนี้ (28 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเดินทางกลับภูมิลำเนาของประชาชนในช่วงใกล้ถึงวันหยุดต่อเนื่องหลายวันช่วงเทศกาลปีใหม่ที่สถานีขนส่งหมอชิตว่า ได้มีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนามากขึ้นและเริ่มหน้าแน่นตั้งแต่ช่วงบ่าย แม้จะยังไม่ถึงช่วงวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ส่วนใหญ่จะเป็นผู้โดยสารที่เดินทางในระยะไกล และเดินทางในเวลากลางคืน แต่ต้องเข้ามาจองตั๋วโดยสารก่อน เนื่องจากเกรงว่าจะหาเที่ยวรถในการเดินทางยากขึ้น ทำให้บริเวณสนามหญ้าหน้าอาคารผู้โดยสารเต็มไปด้วยประชาชนที่เฝ้ารอเวลาเดินทางเต็มพื้นที่

ส่วนการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่จากสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ เพื่อดูแลความปลอดภัยในช่วงเย็นและกลางคืนมากขึ้น เนื่องจากในบริเวณสถานีขนส่งจะมีผู้โดยสารที่เฝ้ารอเดินทางอยู่จำนวนมาก รวมทั้งมีการจัดกำลังตำรวจจราจรทั้งจากกองบังคับการตำรวจจราจร และจากสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อดูแลเส้นทางโดยรอบเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีปริมาณรถโดยสารและรถยนต์ส่วนตัวเพิ่มมากขึ้นกว่าในช่วงเช้า

**ถนนหลักมิตรภาพ-เอเซียรถติดหนึบ

ส่วนสภาพการจราจรบนถนนพลหลโยธิน ตั้งแต่ จ.พระนครศรีอยุธยา ไปจนถึงถนนมิตรภาพมุ่งหน้าสู่ภาคอีสานไป จ.นครราชสีมา ช่วงตั้งแต่ ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย ไปจนถึง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ซึ่งเป็นทางขึ้นเนินเขา ตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้เป็นต้นมาได้มีรถยนต์สะสมและติดยาวตลอดจนเข้าเขต ต.ดงพญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยรถเคลื่อนตัวไปได้อย่างช้าๆ และหยุดนิ่งเป็นบางช่วงจังหวะ

ขณะที่สภาพการจราจรบนถนนมิตรภาพช่วงผ่าน จ.นครราชสีมา มุ่งหน้าสู่จังหวัดภาคอีสานก็มีปริมาณรถยนต์หนาแน่นตลอดทั้งสาย รถยนต์ชะลอตัวทำความเร็วได้ไม่ถึง 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงสลับกับหยุดนิ่งเป็นระยะ ส่งผลให้การจราจรบนถนนมิตรภาพติดขัดยาวเหยียด และมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และมีรายงานผู้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต 4 ราย ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเปิดช่องทางพิเศษ 2 ช่วงบนถนนมิตรภาพ

ช่วงแรกตั้งแต่เขต อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรีไปจนถึงบริเวณหน้าฟาร์มโชคชัย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เป็นระยะทางยาวกว่า 10 กิโลเมตร และช่วงถนนมิตรภาพบายพาสเลี่ยงเมืองเขต ต.จอหอ อ.เมืองนครราชสีมา ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร เพื่อเร่งระบายการจราจร และปริมาณรถที่สะสม

เช่นเดียวกับถนนสายเอเชียเส้นทางมุ่งหน้าสู่ภาคเหนือ ผ่าน จ.พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี และชัยนาท เข้าสู่ จ.นครสวรรค์ ก็มีปริมาณรถหนาแน่นตั้งแต่ช่วงเช้าจนกระทั่งช่วงค่ำ ทำให้ตำรวจจราจรแต่ละพื้นที่ทางผ่าน ต้องเร่งทำการโบกรถเพื่อระบายการจราจรให้คล่องตัวมากขึ้น ทั้งนี้ คาดว่าช่วงวันสุดท้ายของการทำงานในวันที่ 30 ธ.ค.57 ซึ่งจะเป็นวันหยุดยาวในช่วงของเทศกาลปีใหม่ จะมีรถออกเดินทางมุ่งสู่ภาคเหนือและอีสานมากขึ้นอย่างแน่นอน

**ปภ.อยุธยาพร้อมรับมือคนทะลัก30ธ.ค.

นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด (ปภ.) พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนากันมาก ทำให้ถนนทุกสายแออัดไปด้วยรถยนต์ ยังดีที่มีการเดินทางกลับบ้านแบ่งเป็น 2 ช่วง
"ช่วงแรกเดินทางถึงบ้านกันแล้ว รอระยะเวลาช่วงหลังคือช่วงเย็นของวันอังคารที่ 30 ธันวาคม 2557 ทำงานเป็นวันสุดท้าย ประชาชนต้องเดินทางอีกครั้ง คาดว่าจะมีเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยาก็ได้มีการเตรียมความพร้อมไว้แล้วเนื่องจากเป็นทางผ่านขึ้นภาคเหนือและไปภาคอีสาน โดยได้มีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายคอยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนอย่างเต็มที่" นายอุดมศักดิ์ กล่าว

**ผบก.ทล.ยันตำรวจทำงานเต็มที่

ด้าน พล.ต.ต.สมชาย เกาสำราญ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เปิดเผยว่า ขณะนี้การจราจรทางเส้นทางสายเหนือยังเคลื่อนตัวได้แต่จะติดขัดในช่วงเส้นทางต่างระดับบางปะอิน บริเวณ ต.เชียงรากน้อย จึงแนะนำประชาชนเลี่ยงไปใช้เส้นทางบางบัวทอง-สุพรรณบุรี ผ่านไปทาง อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท เชื่อมต่อไป จ.นครสวรรค์ แทน

ส่วนการเดินทางไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้นการจราจรติดขัดสะสมมา 3 วันแล้วตำรวจทางหลวง จึงเปิดช่องทางการจราจรพิเศษเป็นระยะบริเวณเส้นทาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ไปยัง จ.นครราชสีมา เพื่อให้การจราจรเคลื่อนตัวไปได้ แต่แนะนำให้ประชาชนเลี่ยงไปใช้ถนนสาย 304 กบินทร์บุรี-ปักธงชัยแทน เพราะการจราจรสามารถเคลื่อนตัวไปได้ต่อเนื่อง โดยคาดว่าในช่วงวันที่ 4-5 ม.ค.58 ที่ประชาชนเดินทางกลับจากต่างจังหวัดมายังกรุงเทพมหานคร จะทำให้การจราจรกลับมาหนาแน่นขึ้นอีกครั้ง

ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ยืนยันว่า ตำรวจทางหลวงจะทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น และประชาชนสามารถแวะพักจุดบริการตำรวจทางหลวง 196 จุดทั่วประเทศ หรือสอบถามเส้นทางได้ทางสายด่วน 1193 ตลอด 24 ชั่วโมง

**ช่วงทางขึ้นแขาใหญ่ปราจีนฯรถแน่น

ด้าน พ.ต.ท.อนุการ ธรรมวิจารณ์ สารวัตรใหญ่ สภ.วังขอนแดง อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เปิดเผยว่า บรรยากาศการเดินทางกลับภูมิลำเนาของประชาชนช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่บนถนนสาย 304 นาดี-นครราชสีมา โดยเฉพาะช่วงขึ้น-ลงภูเขาที่ตัดผ่านระหว่างอุทยานแห่งชาติทับลาน และอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มรดกโลก ที่ถนนจาก 4 เหลือเพียง 2 เลนมาเป็นลักษณะคอขวดรถวิ่งสวนทางกันที่ถนนแคบและชันทางโค้งหลายโค้ง และมักเกิดอุบัติเหตุรุนแรงทุกปีนั้น การเดินทางในวันที่ 2 ของวันหยุดนี้พบว่ารถยังคงหนาแน่น ประชาชนเดินทางกลับสู่ภาคอีสานต่อเนื่องตลอดทั้งช่วงกลางคืนถึงกลางวัน

โดยการจราจรติดขัดตั้งแต่ช่วง กม.ที่ 192-195 ยาวต่อเนื่อง 3-4 กิโลเมตร มาถึงทางเข้าเขตอุทยาน กม.26 เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจทางหลวงกบินทร์บุรี ร่วมกับสถานีตำรวจภูธรวังขอนแดง ได้เปิดช่องทางเดินพิเศษ

**รถไฟสายเหนือตั๋วเต็มยาวถึงต้นปี"แพะ"

นายสมคิด ลีลอย นายสถานีรถไฟเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ประชาชน และนักท่องเที่ยวใช้บริการรถไฟเพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้ขบวนรถไฟสายเหนือเชียงใหม่ - กรุงเทพฯ ทั้งขาขึ้น และขาล่องถูกจองล่วงหน้าเต็มทุกขบวนจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ปี 58 เหลือแต่ตั๋วยืนชั้น 3 เท่านั้นรวมทั้งขบวนรถไฟฟรีที่ออกในเวลา 05.45 น.ก็เต็มตั้งแต่ต้นทาง
"อย่างวันนี้รถไฟขาขึ้นเชียงใหม่ มีผู้ใช้บริการจนเต็มทุกขบวน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติใช้บริการตู้นอนเพื่อมาท่องเที่ยวสัมผัสอากาศหนาวเย็นที่เชียงใหม่กันอย่างคึกคัก" นายสมคิด กล่าว

นายสมคิด กล่าวต่อว่า ขณะนี้ประชาชนก็มีความเชื่อมั่นต่อการเดินทางโดยรถไฟมากขึ้น ผู้โดยสารเด็ก และสตรีจะมีตู้นอนพิเศษ มีกล้องวงจรปิดติดตั้งไว้ตลอดเส้นทาง รวมทั้งมีตำรวจรถไฟ พนักงานออกเดินตรวจตามโบกี้ทุกชั่วโมง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้โดยสาร และในอนาคตการรถไฟแห่งประเทศไอช.แจ้ซ้อน เตรียมพร้อมรับ นทท.ส่งท้ายปี ระดม จนท.ดูแลความปลอดภัย 24 ชม.

**คนรอรับตั๋วฟรีแน่นชุมทางหาดใหญ่

ส่วนบรรยากาศที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ มีประชาชนไปต่อแถวรอรับตั๋วโดยสารฟรีกันอย่างเนืองแน่นตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อให้มีที่นั่งสำหรับเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพราะหลายคนเดินทางพร้อมกับครอบครัวเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากในแต่ละวันรถไฟฟรีขบวนรถเร็วที่ 172 สุไหงโก-ลก-กรุงเทพฯ มีโควตาตั๋วฟรีสายใต้ 8 ตู้ จำนวน 592 ที่นั่งเท่านั้น

ขณะที่บรรยากาศการเดินทางที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะใกล้ถึงเทศกาลปีใหม่รถไฟสายใต้ทุกขบวนทั้งขบวนท้องถิ่นและรถสายยาวไปกลับกรุงเทพฯ มีผู้ใช้บริการเต็มทุกขบวนบางขบวนต้องยืนเนื่องจากที่นั่งไม่พอ

**เตรียมเสริมรถไฟพิเศษ 2-4 ขบวน

นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายด้านการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางออกจากต่างจังหวัด ตั้งแต่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมาแล้ว ทำให้มีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นประมาณ 20-30% จากช่วงปกติ ซึ่ง ร.ฟ.ท.ได้พ่วงโบกี้รถเสริม เพื่อให้เพียงต่อการใช้บริการ ขณะที่คาดว่า วันที่ 29-31 ธ.ค.จะมีการใช้บริการเพิ่มขึ้นอีกมาก จึงได้มีการเตรียมเสริมขบวนเพิ่มพิเศษวันละ 2-4 ขบวน โดยเฉพาะในวันที่ 30 ธ.ค.ที่คาดว่าจะมีการเดินทางมากที่สุดประมาณ 25,000 คน ก็จะมีการเสริมขบวนรถถึง 4 ขบวน ด้วยกัน

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายทนงศักดิ์ ยืนยันว่า ไม่กระทบต่อการให้บริการเดินรถไฟเข้าพื้นที่

**แรงงานพม่าแห่กลับบ้านเกิดคึกคัก

ส่วนบริเวณด่านพรมแดนแม่สอด-เมียวดี เชิงสะพานมิตรภาพไทย-พม่า บ้านริมเมย ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก มีแรงงานต่างด้าวชาวกะเหรี่ยง สัญชาติพม่า มาเข้าคิวรอทำหนังสือขออนุญาตเดินทางออกนอกราชอาณาจักรผ่านทางแม่สอด ข้ามฝั่งไปเมียวดี ประเทศพม่า ขณะที่บางส่วนได้โดยสารเรือตามท่าเรือต่างๆ บริเวณด้านเหนือ และด้านใต้สะพานกันเป็นจำนวนมาก เพื่อกลับไปยังภูมิลำเนาบ้านเกิดทั้งในจังหวัดเมียวดี-ผาอัน-กอกาเรก รัฐกะเหรี่ยง รวมถึงจังหวัดอื่นๆ ในชานกรุงย่างกุ้ง ในช่วงเทศกาลวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 58 เนื่องจากทางสถานประกอบการ และบริษัทต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดที่ใช้แรงงานต่างด้าวได้หยุดงานในช่วงเทศกาลปีใหม่หลายวัน

เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก แจ้งว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่นี้มีแรงานต่างด้าวสัญชาติพม่าทยอยเดินทางกลับบ้านเกิดกันมากกว่า 1,000 คนต่อวัน ซึ่งก่อนจะเดินทางกลับนั้นกลุ่มแรงงานต่างด้าวยังได้มีการจับจ่ายซื้อสินค้าของฝากของที่ระลึก ของกินของใช้ในพื้นที่ อ.แม่สอด ไปฝากพ่อแม่ และญาติพี่น้องจำนวนมาก ส่งผลทำให้การจับจ่ายซื้อขายสินค้าอุปโภคบริโภคของกินของใช้ร้านค้าในพื้นที่ชายแดนขายสินค้าพลอยคึกคักไปด้วย

**เบตงตั้งด่านคุมเข้มเส้นทางเข้า-ออก

ด้านเจ้าหน้าที่ทหารพราน ตำรวจภูธรเบตง ฝ่ายปกครอง (อส.) ได้ตั้งด่านตรวจบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 23 ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อทำการตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายและติดตามจับกุมบุคคลที่อยู่ในเป้าหมายเพื่อป้องกันการลักลอบเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ รวมทั้งเพื่อป้องกันบุคคลต้องสงสัยหนีออกนอกราชอาณาจักร

นายนิพนธ์ อินทรสกุล นายอำเภอเบตง กล่าวถึงมาตรการในการดูแลความปลอดภัยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าเพิ่มความเข้มงวดในทุกจุด โดยเน้นพิเศษเส้นทางเข้า-ออกเมืองเบตง ทั้งสายหลัก และสายรอง นอกจากนี้ มีการจัดชุดปฏิบัติการซึ่งเป็นปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น ลาดตระเวนในพื้นที่เป้าหมาย เพื่อกดดันกลุ่มก่อความไม่สงบ และค้นหาผู้ต้องสงสัย

สำหรับการดูแลรักษาความปลอดภัยในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่นี้ ได้เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษ และต้องดูแลอย่างเต็มที่ รวมถึงการบูรณาการกำลังในภาคส่วนของประชาชน ดังนั้น ในช่วงที่วันหยุดยาวจะวางมาตรการดูแลอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งปรับจุดแจ้งเตือนให้ดีขึ้นเพื่อป้องกันช่องโหว่ที่อาจจะเป็นจุดให้ผู้ไม่หวังดีลักลอบเข้ามาสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ได้ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ดังกล่าว

**คนแห่ท้าลมหนาวยอดดอย ชม.คึกคัก

ส่วนบรรยากาศที่ท่องเที่ยวตามจังหวัดต่างๆ ก็หนาแน่นไปด้วยผู้คน โดยเฉพาะที่ จ.เชียงใหม่ หลังจากเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ในหลายพื้นที่ของ จ.เชียงใหม่อากาศอบอุ่นขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากมวลอากาศเย็นที่อ่อนตัวลง แต่เมื่อช่วงเช้าวานนี้ พบว่าสภาพอากาศได้กลับมาหนาวเย็นลงอีกครั้ง โดยเฉพาะตามหุบเขา และยอดดอยต่างๆ ซึ่งที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง ที่ยอดดอยอินทนนท์อุณหภูมิต่ำสุดวัดได้ 0 องศา และที่จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน อุณหภูมิต่ำสุดวัดได้ 4 องศา

จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นและปัจจัยแวดล้อมที่เหมาะสมส่งผลทำให้มีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นบางๆ เป็นบริเวณกว้าง ท่ามกลางนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เข้ามาท่องเที่ยวกันคึกคักในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ คาดว่าเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์รวม 2 วันอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์จะมีสถิตินักท่องเที่ยวเข้าชมไม่น้อยกว่า 12,000 คน

รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จะมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเข้าเที่ยวชมกันเป็นจำนวนมากแล้ว ตามแหล่งท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติต่างๆ ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ทั้งอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก, อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง, อุทยานแห่งชาติศรีลานนา และอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ก็มีนักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชม และพักค้างแรมกันอย่างคึกคักเช่นกัน และคาดว่าในช่วงวันหยุดยาวส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่บรรยากาศน่าจะคึกคักยิ่งขึ้นกว่านี้

**"น่าน"คึกคักคนแห่ไหว้พระ-เที่ยวดอย

ทางด้านสภาพอากาศที่หนาวเย็นทั่ว จ.น่านโดยในเขตตัวเมืองมีอุณหภูมิต่ำสุด 12 องศา ขณะที่บนยอดดอยระดับอุณหภูมิอยู่ที่ 6-9 องศาฯ ยังคงดึงดูดนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวเมืองน่านกันอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนเดินทางมาถึงแล้วต่างพากันไปกราบไหว้พระเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และครอบครัว ที่วัดช้างค้ำ ศาลหลักเมืองน่าน วัดมิ่งเมือง และที่วัดภูมินทร์ ซึ่งมีจุดเด่นภาพจิตรกรรมฝาผนัง ปู่ม่านย่าม่าน หรือภาพกระซิบรักบันลือโลก รวมถึงเที่ยวชมโบราณสถานเก่าแก่บริเวณข่วงเมืองน่าน ก่อนพากันขึ้นไปสัมผัสอากาศหนาวตามอุทยานแห่งชาติต่างๆ

นายอุกริช พึ่งโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า จังหวัดได้เตรียมความพร้อมของแหล่งท่องเที่ยว และบุคลากรเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ทยอยเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการอำนวยความสะดวกเรื่องอาหาร ที่พัก ห้องน้ำ และสุขา มัคคุเทศก์ประจำแหล่งท่องเที่ยว และสิ่งสำคัญคือความปลอดภัยในแหล่งท่องเที่ยวและตามสถานที่ต่างๆ

**นักพนันทะลักเข้าบ่อนเขมรด้านสุรินทร์

ส่วนบรรยากาศการท่องเที่ยว ซื้อขายสินค้าที่ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ในช่วงก่อนเข้าสู่วันหยุดยาวเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่คึกคักเป็นอย่างมาก เนื่องจากประชาชนที่ไปทำงานอยู่ต่างจังหวัดต่างถือโอกาสลางานเพิ่มในวันจันทร์และวันอังคารที่ 29-30 ธ.ค.เพื่อให้มีวันหยุดยาวช่วงปีใหม่ต่อเนื่องกันรวมเป็นเวลา 9 วัน ส่งผลให้ตลาดการค้าชายแดนช่องจอมแห่งนี้เต็มไปด้วยประชาชนและนักท่องเที่ยวหลายพันคนที่เข้ามาเลือกซื้อสินค้ากันอย่างคึกคักตลอดทั้งวัน จนทำให้ตลาดดูคับแคบไปถนัดตา

ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าและประชาชนชาวกัมพูชา พากันข้ามแดนเข้ามาซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภคในฝั่งไทยเพื่อเตรียมไปขายในฝั่งประเทศกัมพูชา และร่วมฉลองเทศกาลปีใหม่กับญาติพี่น้อง กันอย่างคึกคักเช่นกัน ซึ่งคาดว่าจะมีเงินสะพัดภายในตลาดการค้าชายแดนช่องจอมแห่งนี้ ตลอดช่วงวันหยุดยาวปีใหม่ 2558 กว่า 20 ล้านบาท

ส่วนนักพนันชาวไทยยังคงหลั่งไหลข้ามแดน ที่บริเวณประตูด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องจอม-โอร์เสม็ด เพื่อเข้าไปเล่นพนันเสี่ยงโชคในบ่อนกาสิโนชายแดนขนาดใหญ่ ทั้ง 2 แห่ง ฝั่งประเทศกัมพูชากันจำนวนมาก วันละมากกว่า 1,000 คน.
กำลังโหลดความคิดเห็น