อาจารย์วิศวะ มข. ระบุสาเหตุแผ่นบุผนังอาคารเซ็นทรัล พลาซ่า ขอนแก่น ตกใส่ลูกค้าเสียชีวิต 1 เจ็บ 2 ราย เพราะน๊อตยึดติดกับตัวอาคารหมดอายุบวกลมพัดแรง แถมสร้างมา 5 ปีไม่ตรวจสอบ เผยยังมีปัญหาใกล้จุดที่หลุดอีก จี้แก้ไขด่วน ขณะผอ.ศูนย์ควบคุมมาตรฐาน "เซ็นทรัลพัฒนา" ยังอ้างเหตุสุดวิสัย ใช้วัสดุมาตรฐาน ยันตรวจสอบทุกปี แต่กลับจะรื้อออกทั้งหมด ติดของใหม่คุณภาพดีกว่า
จากเหตุแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ติดผนังห้างเซ็นทรัล พลาซา ขอนแก่น หลุดร่อนหล่นจากชั้น 5 ลงมาถูกลูกค้าที่ยืนพิงระเบียงบริเวณลานจอดรถชั้น 1 บาดเจ็บสาหัส 3 คน ต่อมาไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลขอนแก่นราม 1 ราย คือ นางบัวขาว ใจเที่ยง อายุ 45 ปี ส่วนลูกชายและเพื่อนบ้าน คือ ด.ช.อภิวัฒน์ ใจเที่ยง อายุ 9 ปี และน.ส.สมพร มะลิวัลย์ อายุ 29 ปี ต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู เหตุเกิดเวลา 12.30 น. วันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมานั้น
วานนี้(11ธ.ค.) รศ.ดร.วัชรินทร์ กาสลัก รองคณะบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น(มข.) กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าแผ่นวัสดุที่ตกลงมาเป็นแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ซึ่งมีขนาดใหญ่ สั่งทำพิเศษ เพื่อใช้ตกแต่งตัวอาคารให้สวยงาม โดยน๊อตชนิดเกลียวยึดติดกับตัวอาคารเสื่อมสภาพ หมดอายุการใช้งาน
อีกทั้งในวันเกิดเหตุ เกิดลมพัดแรง ทำให้น๊อตคลายเกลียวออกมา จนทำให้แผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์หลุดออกจากผนังอาคาร ประกอบกับตัวอาคารศูนย์การค้า ได้สร้างมาเป็นระยะเวลา 5 ปี แต่ไม่ตรวจสอบคุณภาพการใช้งานอย่างละเอียด จึงเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
"นอกจากนี้ยังพบมีแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ที่สภาพไม่สมบูรณ์อีกจำนวนหนึ่ง ที่อยู่ใกล้เคียงจุดที่หลุดออกมา ดังนั้นทางศูนย์การค้าควรเร่งแก้ไขอย่างเร่งด่วน"
วันเดียวกันนี้ ผู้บริหารบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) ได้เข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บด.ช.อภิวัตน์ ที่ถูกแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์หล่นใส่ศรีษะต้องเย็บ 9 เข็ม ส่วนน.ส.สมพรออกจากโรงพยาบาลแล้ว โดยหลังเกิดเหตุทางบริษัทรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งนี้ด.ช.อภิวัฒน์ยังอยู่ในอาการโศกเศร้า หลังทราบว่ามารดาเสียชีวิตแล้ว ซึ่งต่อมาญาติได้พาเดินทางกลับบ้านเกิดอ.พิมาย จ.นครราชสีมา ช่วงบ่ายวันเดียวกันพร้อมกับศพนางบัวขาว เพื่อทำพิธีบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนาต่อไป
บ่ายวันเดียวกัน ที่ห้องประชุม 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา ขอนแก่น นายอมร อมรกุล ผู้อำนวยการศูนย์บริหารและควบคุมมาตรฐาน บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และนายศกร ทวีสิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยนายอมรชี้แจงว่า ศูนย์การค้าได้รับการออกแบบและก่อสร้างโดยบริษัทชั้นนำของประเทศ ทั้งทางสถาปัตยกรรม วิศวกรรม และการควบคุมงานก่อสร้าง ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล มีมาตรการตรวจสอบอาคารเป็นประจำทุกปี เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุสุดวิสัย ประกอบกับในวันที่เกิดเหตุมีลมกระโชกแรงผิดปกติ
"เบื้องต้นบริษัทได้สำรวจอาคารโดยรอบ และอยู่ระหว่างติดตั้งตาข่ายนิรภัยบริเวณรอบที่เกิดเหตุที่มีแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ทั้งหมดให้แล้วเสร็จ ก่อนที่จะรื้อถอนออกเมื่อได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อนำแผ่นวัสดุตัวใหม่ที่มีคุณภาพดีกว่ามาติดตั้ง คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์"
นายอมร กล่าวว่า บริษัทขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ โดยยืนยันรับผิดชอบต่อเหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมด และหามาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อเรียกความมั่นใจของลูกค้ากลับมา สำหรับจำนวนเงินที่ต้องชดใช้แก่ผู้เสียหาย ยังไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขได้ เนื่องจากชีวิตคนมีค่ามากกว่า ซึ่งระหว่างนี้จะรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำแถลงดังกล่าวสังเกตุได้ว่าขัดแย้งกับผลการตรวจสอบของรศ.ดร.วัชรินทร์อย่างสิ้นเชิง
ทั้งนี้ https://www.facebook.com/centralkhonkaen ได้โพสต์ขอความในแถลงการณ์ของดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ลงวันที่ 10 ธันวาคมอีกครั้ง ว่าบริษัทรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น โดยยินดีรับผิดชอบผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทุกประการ
ซึ่งมาผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็น อาทิ "แค่ลมมันยังร่วงขนาดนี้ อีกหน่อยจะถล่มมั้ยคะ"
"เหตุสุดวิสัย ชมกระโชกแรง หรือเพราะความสะเพร่าคะ ถ้าลมพัดแรงจนกระเบื้องหลุดได้ ต่อไปลมคงพัดจนห้างถล่มแน่ๆ ช่วยแถลงการณ์ด้วยว่ารับผิดชอบต่อผู้เสียชีวิตยังไง"
"รับผิดชอบลูกชายเขาด้วยนะ คงเสียขวัญน่าดู"
"เกิดเรื่องขึ้นขนาดนี้แล้ว ช่วยตรวจสอบตึกเซ็นทรัลด้วยค่ะ ว่ามีบริเวณไหนที่ชำรุดบ้าง จะได้ไม่ต้องมานั่งขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียหายอีกนะ"
ขณะเดียวกันก็มีผู้แสดงความเห็นใจทั้ง 2 ฝ่าย "ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บด้วยนะครับ เรื่องแบบนี้คงไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นกับใครหรอกนะครับ หากมันได้เกิดขึ้นมาแล้ว เราควรจะให้กำลังใจกับญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต ผมมองว่าทางเซ็นทรัลก็รู้สึกเสียใจไม่น้อยเช่นเดียวกันครับ สู้ๆครับ"
จากเหตุแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ติดผนังห้างเซ็นทรัล พลาซา ขอนแก่น หลุดร่อนหล่นจากชั้น 5 ลงมาถูกลูกค้าที่ยืนพิงระเบียงบริเวณลานจอดรถชั้น 1 บาดเจ็บสาหัส 3 คน ต่อมาไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลขอนแก่นราม 1 ราย คือ นางบัวขาว ใจเที่ยง อายุ 45 ปี ส่วนลูกชายและเพื่อนบ้าน คือ ด.ช.อภิวัฒน์ ใจเที่ยง อายุ 9 ปี และน.ส.สมพร มะลิวัลย์ อายุ 29 ปี ต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู เหตุเกิดเวลา 12.30 น. วันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมานั้น
วานนี้(11ธ.ค.) รศ.ดร.วัชรินทร์ กาสลัก รองคณะบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น(มข.) กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าแผ่นวัสดุที่ตกลงมาเป็นแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ซึ่งมีขนาดใหญ่ สั่งทำพิเศษ เพื่อใช้ตกแต่งตัวอาคารให้สวยงาม โดยน๊อตชนิดเกลียวยึดติดกับตัวอาคารเสื่อมสภาพ หมดอายุการใช้งาน
อีกทั้งในวันเกิดเหตุ เกิดลมพัดแรง ทำให้น๊อตคลายเกลียวออกมา จนทำให้แผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์หลุดออกจากผนังอาคาร ประกอบกับตัวอาคารศูนย์การค้า ได้สร้างมาเป็นระยะเวลา 5 ปี แต่ไม่ตรวจสอบคุณภาพการใช้งานอย่างละเอียด จึงเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
"นอกจากนี้ยังพบมีแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ที่สภาพไม่สมบูรณ์อีกจำนวนหนึ่ง ที่อยู่ใกล้เคียงจุดที่หลุดออกมา ดังนั้นทางศูนย์การค้าควรเร่งแก้ไขอย่างเร่งด่วน"
วันเดียวกันนี้ ผู้บริหารบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) ได้เข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บด.ช.อภิวัตน์ ที่ถูกแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์หล่นใส่ศรีษะต้องเย็บ 9 เข็ม ส่วนน.ส.สมพรออกจากโรงพยาบาลแล้ว โดยหลังเกิดเหตุทางบริษัทรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งนี้ด.ช.อภิวัฒน์ยังอยู่ในอาการโศกเศร้า หลังทราบว่ามารดาเสียชีวิตแล้ว ซึ่งต่อมาญาติได้พาเดินทางกลับบ้านเกิดอ.พิมาย จ.นครราชสีมา ช่วงบ่ายวันเดียวกันพร้อมกับศพนางบัวขาว เพื่อทำพิธีบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนาต่อไป
บ่ายวันเดียวกัน ที่ห้องประชุม 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา ขอนแก่น นายอมร อมรกุล ผู้อำนวยการศูนย์บริหารและควบคุมมาตรฐาน บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และนายศกร ทวีสิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยนายอมรชี้แจงว่า ศูนย์การค้าได้รับการออกแบบและก่อสร้างโดยบริษัทชั้นนำของประเทศ ทั้งทางสถาปัตยกรรม วิศวกรรม และการควบคุมงานก่อสร้าง ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล มีมาตรการตรวจสอบอาคารเป็นประจำทุกปี เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุสุดวิสัย ประกอบกับในวันที่เกิดเหตุมีลมกระโชกแรงผิดปกติ
"เบื้องต้นบริษัทได้สำรวจอาคารโดยรอบ และอยู่ระหว่างติดตั้งตาข่ายนิรภัยบริเวณรอบที่เกิดเหตุที่มีแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ทั้งหมดให้แล้วเสร็จ ก่อนที่จะรื้อถอนออกเมื่อได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อนำแผ่นวัสดุตัวใหม่ที่มีคุณภาพดีกว่ามาติดตั้ง คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์"
นายอมร กล่าวว่า บริษัทขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ โดยยืนยันรับผิดชอบต่อเหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมด และหามาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อเรียกความมั่นใจของลูกค้ากลับมา สำหรับจำนวนเงินที่ต้องชดใช้แก่ผู้เสียหาย ยังไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขได้ เนื่องจากชีวิตคนมีค่ามากกว่า ซึ่งระหว่างนี้จะรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำแถลงดังกล่าวสังเกตุได้ว่าขัดแย้งกับผลการตรวจสอบของรศ.ดร.วัชรินทร์อย่างสิ้นเชิง
ทั้งนี้ https://www.facebook.com/centralkhonkaen ได้โพสต์ขอความในแถลงการณ์ของดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ลงวันที่ 10 ธันวาคมอีกครั้ง ว่าบริษัทรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น โดยยินดีรับผิดชอบผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทุกประการ
ซึ่งมาผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็น อาทิ "แค่ลมมันยังร่วงขนาดนี้ อีกหน่อยจะถล่มมั้ยคะ"
"เหตุสุดวิสัย ชมกระโชกแรง หรือเพราะความสะเพร่าคะ ถ้าลมพัดแรงจนกระเบื้องหลุดได้ ต่อไปลมคงพัดจนห้างถล่มแน่ๆ ช่วยแถลงการณ์ด้วยว่ารับผิดชอบต่อผู้เสียชีวิตยังไง"
"รับผิดชอบลูกชายเขาด้วยนะ คงเสียขวัญน่าดู"
"เกิดเรื่องขึ้นขนาดนี้แล้ว ช่วยตรวจสอบตึกเซ็นทรัลด้วยค่ะ ว่ามีบริเวณไหนที่ชำรุดบ้าง จะได้ไม่ต้องมานั่งขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียหายอีกนะ"
ขณะเดียวกันก็มีผู้แสดงความเห็นใจทั้ง 2 ฝ่าย "ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บด้วยนะครับ เรื่องแบบนี้คงไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นกับใครหรอกนะครับ หากมันได้เกิดขึ้นมาแล้ว เราควรจะให้กำลังใจกับญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต ผมมองว่าทางเซ็นทรัลก็รู้สึกเสียใจไม่น้อยเช่นเดียวกันครับ สู้ๆครับ"