นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ กล่าวถึง กรณีคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภาสหรัฐอเมริกา เผยแพร่รายงานผลการสอบสวนการกระทำทารุณ ทรมาน ผู้ต้องสงสัยของสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) ที่ประเทศไทยตกเป็นหนึ่งในประเทศซึ่งเป็นที่ตั้งของคุกลับว่า ไม่มีคุกลับในประเทศไทย และไม่มีรายงานเรื่องการทรมานในประเทศไทย หน่วยงานของไทยไม่เคยปฏิบัติการเกี่ยวกับเรื่องนี้
สำหรับรายงานฉบับดังกล่าว ตนยังไม่เห็นมีบทไหนที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย เป็นเรื่องภายในของสหรัฐฯ เป็นเรื่องของ กมธ.ข่าวกรองของวุฒิสภา สหรัฐฯ กับซีไอเอ ที่มีการตรวจสอบการปฏิบัติงานของเขา ส่วนประเทศไทยไม่ใช่คู่กรณีกับใครทั้งสิ้น เรื่องมันเกิดมาหลายปีแล้ว ทั้งนี้ความร่วมมือของรัฐบาลปัจจุบัน อยู่บนพื้นฐานอำนาจอธิปไตยของเรา ไม่มีนโยบายเรื่องการปฏิบัติงานใดๆที่จะขัดกับหลักกฎหมาย ดังนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องภายในของสหรัฐฯ ยืนยันได้ว่าไม่มีคุกลับ และไม่มีการทรมานที่เกิดขึ้นในประเทศไทย
ส่วนข่าวที่ออกมาจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทย หรือไม่นั้น นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า หากไปดูข่าวละเอียด จะพบว่าทางการสหรัฐฯ มีการแจ้งเตือนพลเมือง และผลประโยชน์ของเขาที่อยู่ในต่างประเทศ ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากรายงานฉบับนี้ ซึ่งกำลังเป็นข้อโต้แย้งใหญ่ในสังคมของสหรัฐฯขณะนี้ ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เรื่องที่จะกระทบต่อประเทศไทย คือผลประโยชน์ของสหรัฐฯในประเทศไทย ซึ่งหน่วยงานความมั่นคง ตระหนักและดูแลอยู่แล้ว โดยจะมีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยและมาตรการดูแลให้กับชาวต่างชาติ ขณะนี้งานการข่าวจะดูทุกมิติในเรื่องผลกระทบด้านความมั่นคงที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาเคยมีข่าวเรื่องคุกลับในไทยหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ถึงขั้นออกมาเป็นรายงาน นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า ตนไม่เห็นว่าอยู่หน้าไหนของรายงาน ยืนยันได้ว่า เท่าที่ทราบนั้นไม่มี เห็นมีแต่การตีความกันเอง ยืนยันว่าไม่เคยมีโครงการลักษณะนี้ในประเทศไทย
เมื่อถามว่า ท่าทีของไทยจะต้องชี้แจงต่อสหรัฐฯ หรือไม่ นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศ กำลังดำเนินการเรื่องนี้อยู่ ส่วนจะทำหนังสือประท้วงไปยังสหรัฐฯ หรือไม่ ต้องถามไปยังกระทรวงการต่างประเทศ
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ไทยมีข้อตกลงการปฏิบัติการทางทหาร กับหลายประเทศ ซึ่งทางสหรัฐฯ ก็เช่นเดียวกัน แต่ว่ากรณีดังกล่าว ตนยังไม่เคยได้รับรายงานข้อมูลว่าเมื่อเรามีการปฎิบัติงาน และมอบพื้นที่บางส่วนให้ไปปฏิบัติแล้วจะไปกระทำเช่นนั้น ซึ่งยังไม่ได้รับรายงาน ตนขอให้สื่อได้รับทราบว่า ปัจจุบันยังไม่ได้รับรู้ในเรื่องนี้ แต่การปฏิบัติระหว่างมิตรประเทศก็มีอยู่
ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในกองทัพและรัฐบาล ซึ่งทางทหาร และรัฐบาล ได้ระมัดระวังเกี่ยวกับเรื่องการก่อเหตุต่างๆ อยู่แล้ว เนื่องจากเราได้รับทราบจากกลุ่มนอกประเทศ ซึ่งทุกคนคงทราบดีว่าป็นกลุ่มไหน คงไม่ต้องเอ่ยนาม กลุ่มต่างๆเหล่านั้น เพราะในบางประเทศยังคงมีความเคลื่อนไหวอยู่ แต่กลุ่มที่มีความเคลื่อนไหวทางศาสนา ที่ดำเนินการและเป็นข่าวต่างๆ เหล่านี้ ทางมิตรประเทศ และทางไทยได้ติดตามข่าวอยู่ตลอด ซึ่งจากการตรวจสอบยังไม่พบการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ที่จะเข้ามาเคลื่อนไหวในประเทศไทย
เมื่อถามว่า จะให้ความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวกับคนไทยเกี่ยวกับเรื่องการก่อการร้ายอย่างไร พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ขอให้มีความมั่นใจ เพราะทางทหารไม่ได้ปฏิบัติเพียงฝ่ายเดียว แต่มีหลายหน่วยทางด้านการข่าว ช่วยกันทำงานและติดตามสิ่งต่างๆ เหล่านี้ และได้มีการประสานงานอยู่ตลอดเวลา และติดตามอย่างใกล้ชิด ขอให้ประชาชนมีความมั่นใจ รวมถึงด้านการท่องเที่ยว ขอให้มีความปกติ โดยเฉพาะช่วงนี้ใกล้เทศกาลสำคัญ และปีใหม่ และมีนักท่องเที่ยวต่างๆมากมายเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย ทางราชการก็ต้องกวดขันมากยิ่งขึ้น แต่ทุกอย่างยังมีความเป็นไปตามปกติ ตนก็ขอฝากให้ใช้ชีวิตปกติ ทางราชการจะพยายามดูแลเรื่องนี้ให้ดีที่สุด ขอให้ทุกคนผ่านพ้นช่วงปีใหม่ ด้วยความสุขและขอให้ดำเนินชีวิตไปตามปกติ
สำหรับรายงานฉบับดังกล่าว ตนยังไม่เห็นมีบทไหนที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย เป็นเรื่องภายในของสหรัฐฯ เป็นเรื่องของ กมธ.ข่าวกรองของวุฒิสภา สหรัฐฯ กับซีไอเอ ที่มีการตรวจสอบการปฏิบัติงานของเขา ส่วนประเทศไทยไม่ใช่คู่กรณีกับใครทั้งสิ้น เรื่องมันเกิดมาหลายปีแล้ว ทั้งนี้ความร่วมมือของรัฐบาลปัจจุบัน อยู่บนพื้นฐานอำนาจอธิปไตยของเรา ไม่มีนโยบายเรื่องการปฏิบัติงานใดๆที่จะขัดกับหลักกฎหมาย ดังนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องภายในของสหรัฐฯ ยืนยันได้ว่าไม่มีคุกลับ และไม่มีการทรมานที่เกิดขึ้นในประเทศไทย
ส่วนข่าวที่ออกมาจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทย หรือไม่นั้น นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า หากไปดูข่าวละเอียด จะพบว่าทางการสหรัฐฯ มีการแจ้งเตือนพลเมือง และผลประโยชน์ของเขาที่อยู่ในต่างประเทศ ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากรายงานฉบับนี้ ซึ่งกำลังเป็นข้อโต้แย้งใหญ่ในสังคมของสหรัฐฯขณะนี้ ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เรื่องที่จะกระทบต่อประเทศไทย คือผลประโยชน์ของสหรัฐฯในประเทศไทย ซึ่งหน่วยงานความมั่นคง ตระหนักและดูแลอยู่แล้ว โดยจะมีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยและมาตรการดูแลให้กับชาวต่างชาติ ขณะนี้งานการข่าวจะดูทุกมิติในเรื่องผลกระทบด้านความมั่นคงที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาเคยมีข่าวเรื่องคุกลับในไทยหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ถึงขั้นออกมาเป็นรายงาน นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า ตนไม่เห็นว่าอยู่หน้าไหนของรายงาน ยืนยันได้ว่า เท่าที่ทราบนั้นไม่มี เห็นมีแต่การตีความกันเอง ยืนยันว่าไม่เคยมีโครงการลักษณะนี้ในประเทศไทย
เมื่อถามว่า ท่าทีของไทยจะต้องชี้แจงต่อสหรัฐฯ หรือไม่ นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศ กำลังดำเนินการเรื่องนี้อยู่ ส่วนจะทำหนังสือประท้วงไปยังสหรัฐฯ หรือไม่ ต้องถามไปยังกระทรวงการต่างประเทศ
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ไทยมีข้อตกลงการปฏิบัติการทางทหาร กับหลายประเทศ ซึ่งทางสหรัฐฯ ก็เช่นเดียวกัน แต่ว่ากรณีดังกล่าว ตนยังไม่เคยได้รับรายงานข้อมูลว่าเมื่อเรามีการปฎิบัติงาน และมอบพื้นที่บางส่วนให้ไปปฏิบัติแล้วจะไปกระทำเช่นนั้น ซึ่งยังไม่ได้รับรายงาน ตนขอให้สื่อได้รับทราบว่า ปัจจุบันยังไม่ได้รับรู้ในเรื่องนี้ แต่การปฏิบัติระหว่างมิตรประเทศก็มีอยู่
ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในกองทัพและรัฐบาล ซึ่งทางทหาร และรัฐบาล ได้ระมัดระวังเกี่ยวกับเรื่องการก่อเหตุต่างๆ อยู่แล้ว เนื่องจากเราได้รับทราบจากกลุ่มนอกประเทศ ซึ่งทุกคนคงทราบดีว่าป็นกลุ่มไหน คงไม่ต้องเอ่ยนาม กลุ่มต่างๆเหล่านั้น เพราะในบางประเทศยังคงมีความเคลื่อนไหวอยู่ แต่กลุ่มที่มีความเคลื่อนไหวทางศาสนา ที่ดำเนินการและเป็นข่าวต่างๆ เหล่านี้ ทางมิตรประเทศ และทางไทยได้ติดตามข่าวอยู่ตลอด ซึ่งจากการตรวจสอบยังไม่พบการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ที่จะเข้ามาเคลื่อนไหวในประเทศไทย
เมื่อถามว่า จะให้ความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวกับคนไทยเกี่ยวกับเรื่องการก่อการร้ายอย่างไร พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ขอให้มีความมั่นใจ เพราะทางทหารไม่ได้ปฏิบัติเพียงฝ่ายเดียว แต่มีหลายหน่วยทางด้านการข่าว ช่วยกันทำงานและติดตามสิ่งต่างๆ เหล่านี้ และได้มีการประสานงานอยู่ตลอดเวลา และติดตามอย่างใกล้ชิด ขอให้ประชาชนมีความมั่นใจ รวมถึงด้านการท่องเที่ยว ขอให้มีความปกติ โดยเฉพาะช่วงนี้ใกล้เทศกาลสำคัญ และปีใหม่ และมีนักท่องเที่ยวต่างๆมากมายเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย ทางราชการก็ต้องกวดขันมากยิ่งขึ้น แต่ทุกอย่างยังมีความเป็นไปตามปกติ ตนก็ขอฝากให้ใช้ชีวิตปกติ ทางราชการจะพยายามดูแลเรื่องนี้ให้ดีที่สุด ขอให้ทุกคนผ่านพ้นช่วงปีใหม่ ด้วยความสุขและขอให้ดำเนินชีวิตไปตามปกติ