นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ตนสนับสนุนข้อเรียกร้องของ นายแก้วสรร อติโพธิ และคณะ ที่ออกมาผลักดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ทำให้โครงการรับจำนำข้าว ขาดทุนมากถึง 5.19 แสนล้านบาท เนื่องจากเป็นความเสียหายส่วนรวมที่รัฐบาลดูแลแทนประชาชน ดังนั้นหากมีความเสียหายจริง มีการทำผิด ต้องเรียกค่าเสียหาย ไม่เช่นนั้นผลการขาดทุนจะตกเป็นภาระของประชาชนที่เสียภาษี ซึ่งรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ควรมีหน้าที่ดำเนินการฟ้อง ไม่ควรละเลย ต้องไปดูข้อกฎหมายเพื่อดำเนินการต่อไป เพราะโดยหลักการแล้ว คนที่สร้างความเสียหายต้องรับผิดชอบ มิฉะนั้นจะกลายเป็นว่า คนที่ใช้อำนาจแทนประชาชนทำความเสียหาย แต่ภาระกลับตกอยู่กับประชาชน ยิ่งรัฐบาลมีแนวคิดไปกู้เงินมาใช้หนี้จำนวนนี้ ภาระความเสียหายก็จะผูกพันไปยาว โดยในขณะที่กระทรวงการคลัง มีการออกพันธบัตร 5 หมื่นล้านบาท เพื่อชำระหนี้จำนำข้าว ตนคิดว่าไม่ควรใช้วิธีการแบบนี้ทั้งหมด รัฐบาลต้องดูความเหมาะสม ไม่เช่นนั้นก็เท่ากับเป็นการผลักภาระให้อนาคต
" สิ่งที่รัฐบาลควรทำคือ 1. เรียกความเสียหายจากผู้ที่สร้างความเสียหาย 2. บริหารการเงินการคลังให้เหมาะสม ความจริงตอนนี้เป็นโอกาสดีของรัฐบาลในแง่เศรษฐกิจ ผมไม่เข้าใจว่า ทำไมรัฐบาลไม่พยายามใช้ประโยชน์ เช่น ราคาน้ำมันดิบที่ถูกมากในขณะนี้ เพราะลดลง 30-40 เหรียญสหรัฐ แต่ไม่คืนกำลังซื้อให้กับประชาชน ไม่ดูโอกาสในการที่จะลดเรื่องภาระทางงบประมาณที่จะช่วยให้มีเงินไปทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์แทนการไปกู้เงินเพิ่มเติม ที่รัฐบาลบอกว่าเศรษฐกิจไม่ดี เพราะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก ในความเป็นจริงขณะนี้ตัวเลขที่เริ่มดีขึ้น กลับกลายเป็นการส่งออกที่กระเตื้องขึ้นมา จึงอยากให้รัฐบาลยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า ปัญหาเกิดจากเศรษฐกิจภายในประเทศ ที่มาจากการขาดกำลังซื้อของประชาชน ผมจึงไม่เข้าใจนโยบายพลังงานที่เป็นอยู่ เพราะไม่ได้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง แต่เป็นการใช้โอกาสที่ราคาน้ำมันดิบถูก มาเก็บส่วนต่างเข้ารัฐบาล หรือให้ผู้ประกอบการ แทนที่จะคืนกลับมาให้ประชาชน" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
" สิ่งที่รัฐบาลควรทำคือ 1. เรียกความเสียหายจากผู้ที่สร้างความเสียหาย 2. บริหารการเงินการคลังให้เหมาะสม ความจริงตอนนี้เป็นโอกาสดีของรัฐบาลในแง่เศรษฐกิจ ผมไม่เข้าใจว่า ทำไมรัฐบาลไม่พยายามใช้ประโยชน์ เช่น ราคาน้ำมันดิบที่ถูกมากในขณะนี้ เพราะลดลง 30-40 เหรียญสหรัฐ แต่ไม่คืนกำลังซื้อให้กับประชาชน ไม่ดูโอกาสในการที่จะลดเรื่องภาระทางงบประมาณที่จะช่วยให้มีเงินไปทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์แทนการไปกู้เงินเพิ่มเติม ที่รัฐบาลบอกว่าเศรษฐกิจไม่ดี เพราะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก ในความเป็นจริงขณะนี้ตัวเลขที่เริ่มดีขึ้น กลับกลายเป็นการส่งออกที่กระเตื้องขึ้นมา จึงอยากให้รัฐบาลยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า ปัญหาเกิดจากเศรษฐกิจภายในประเทศ ที่มาจากการขาดกำลังซื้อของประชาชน ผมจึงไม่เข้าใจนโยบายพลังงานที่เป็นอยู่ เพราะไม่ได้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง แต่เป็นการใช้โอกาสที่ราคาน้ำมันดิบถูก มาเก็บส่วนต่างเข้ารัฐบาล หรือให้ผู้ประกอบการ แทนที่จะคืนกลับมาให้ประชาชน" นายอภิสิทธิ์ กล่าว