ASTVผู้จัดการรายวัน-"อลงกรณ์"ลาออกจากสมาชิพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อไปทำงานสภาปฏิรูปแห่งชาติ เผยต้องมีภาพลักษณ์ความเป็นกลาง ยันไม่มีนัยทางการเมือง ส่วนจะกลับมาเล่นการเมืองหรือไม่ เป็นเรื่องอนาคต
นายอลงกรณ์ พลบุตร เลขานุการกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วิป สปช.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับหน้าที่เป็นเลขาฯ วิป สปช. และได้รับมอบหมายให้ทำงานในหลายๆ ส่วน รวมทั้งเป็นประธาน กมธ.ปฏิรูปพรรคการเมือง จึงได้ตัดสินลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โดยจะทำหนังสือยื่นลาออกต่อพรรค ในวันที่ 27 พ.ย.2557
"การลาออกครั้งนี้ ไม่มีนัยยะทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น และไม่มีปัญหากับพรรค เพราะน้องชายของตน และทีมเพชรบุรี ยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ และการตัดสินใจครั้งนี้ ก็ไม่ได้ปรึกษาทีมเพชรบุรีแต่อย่างใด และไม่มีผู้ใหญ่ในพรรค หรือผู้ใหญ่ใน สปช. กดดัน แต่เป็นเพราะด้วยหน้าที่และความรับผิดชอบในฐานะ สปช. เพื่อภาพลักษณ์ สปช. ที่มีความเป็นกลาง อิสระ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด"
นายอลงกรณ์กล่าวว่า ตนต้องการสลัดคราบความเป็นนักการเมือง เพราะมีส่วนในการร่างรัฐธรรมนูญด้วย อีกทั้งตนในฐานะวิป สปช. ต้องเข้าฟังการพิจารณาเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ รวมถึงให้ข้อเสนอแนะทุกครั้ง และในวันนี้ (27 พ.ย.) ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาให้ข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมาธิการ ตนก็จะเข้าฟังด้วย และให้การต้อนรับนายอภิสิทธิ์ ในฐานะ สปช. ไม่ใช่สมาชิพรรค
"อนาคตอีกไกล ไม่สามารถตอบได้ว่าจะหวนกลับมาเล่นการเมืองต่อหรือไม่ เพราะหากพิจารณาแล้วว่าภายใต้กฎกติกาใหม่ที่ออกมานั้น เปิดโอกาสให้คลื่นลูกใหม่เข้ามาเล่นการเมือง ผมก็จะหยุดเล่นการเมืองเท่านั้น และยืนยันว่า การยืนหนังสือลาออกครั้งนี้ ไม่มีนัยทางการเมือง พรรคที่ผมรักเหมือนเดิม เพราะอยู่มานานกว่า 20 ปี และผมไม่เคยย้ายไปอยู่พรรคไหน" นายอลงกรณ์ กล่าว
นายอลงกรณ์ พลบุตร เลขานุการกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วิป สปช.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับหน้าที่เป็นเลขาฯ วิป สปช. และได้รับมอบหมายให้ทำงานในหลายๆ ส่วน รวมทั้งเป็นประธาน กมธ.ปฏิรูปพรรคการเมือง จึงได้ตัดสินลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โดยจะทำหนังสือยื่นลาออกต่อพรรค ในวันที่ 27 พ.ย.2557
"การลาออกครั้งนี้ ไม่มีนัยยะทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น และไม่มีปัญหากับพรรค เพราะน้องชายของตน และทีมเพชรบุรี ยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ และการตัดสินใจครั้งนี้ ก็ไม่ได้ปรึกษาทีมเพชรบุรีแต่อย่างใด และไม่มีผู้ใหญ่ในพรรค หรือผู้ใหญ่ใน สปช. กดดัน แต่เป็นเพราะด้วยหน้าที่และความรับผิดชอบในฐานะ สปช. เพื่อภาพลักษณ์ สปช. ที่มีความเป็นกลาง อิสระ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด"
นายอลงกรณ์กล่าวว่า ตนต้องการสลัดคราบความเป็นนักการเมือง เพราะมีส่วนในการร่างรัฐธรรมนูญด้วย อีกทั้งตนในฐานะวิป สปช. ต้องเข้าฟังการพิจารณาเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ รวมถึงให้ข้อเสนอแนะทุกครั้ง และในวันนี้ (27 พ.ย.) ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาให้ข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมาธิการ ตนก็จะเข้าฟังด้วย และให้การต้อนรับนายอภิสิทธิ์ ในฐานะ สปช. ไม่ใช่สมาชิพรรค
"อนาคตอีกไกล ไม่สามารถตอบได้ว่าจะหวนกลับมาเล่นการเมืองต่อหรือไม่ เพราะหากพิจารณาแล้วว่าภายใต้กฎกติกาใหม่ที่ออกมานั้น เปิดโอกาสให้คลื่นลูกใหม่เข้ามาเล่นการเมือง ผมก็จะหยุดเล่นการเมืองเท่านั้น และยืนยันว่า การยืนหนังสือลาออกครั้งนี้ ไม่มีนัยทางการเมือง พรรคที่ผมรักเหมือนเดิม เพราะอยู่มานานกว่า 20 ปี และผมไม่เคยย้ายไปอยู่พรรคไหน" นายอลงกรณ์ กล่าว