xs
xsm
sm
md
lg

ครูซี8ยิงลูกพิการก่อนฆ่าตัวตายตาม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุดอนาถสอนดนตรีซี 8 และครูดีเด่นปี 55 เมืองอุดรธานี ใช้ปืนยิงลูกชายป่วยพิการทางสมองดับก่อนยิงตัวตายตาม พบจดหมายลาตายอยู่ข้างตัว "ขออโหสิกรรมให้ผมด้วย" ด้าน "น้องสาวและพ่อตา" เชื่อเหตุเครียดเกรงอนาคตไร้คนดูแลลูกชายที่ป่วยพิการทางสมอง

เมื่อเวลา 06.30 น.วานนี้ (10 พ.ย.) พ.ต.ท.สิงหราช แก้วเกิดมี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุพ่อใช้ปืนยิงลูกชายพิการทางสมองและยิงตัวเองตายตามเสียชีวิต 2 ราย ที่บ้านเลขที่ 347/2 ม.1 ชุมชนหนองบัว 3 เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ที่ห้องโถงชั้นล่างบริเวณหน้าประตูพบนางดารุณี คำมีคร อายุ 47 ปีภรรยาและแม่ผู้ตายกอดศพสามีและลูกร้องไห้สุดน่าเวทนา รวมทั้งญาติผู้ตายที่พากันกอดกันร้องไห้

ที่เกิดเหตุพบศพนายธีรเดช คำมีคร อายุ 50 ปี ครูชำนาญการพิเศษ (ซี 8) สอนดนตรี โรงเรียนบ้านโคกทุ่งยั้ง ต.โพนงาม อ.หนองหาน จ.อุดรธานี เจ้าของบ้านถูกยิงด้วยปืนบริเวณขมับซ้าย ทะลุขมับขวา นอนจมกองเลือด ข้างมือด้านซ้ายของนายธีรเดช พบปืนลูกโม่ขนาด .38 ตกอยู่ ในลูกโม่พบกระสุนปืน 3 นัด ยิงไปแล้ว 2 นัด ข้างกันพบศพนายพีระพัฒน์ หรือ "น้องปังปอนด์" คำมีคร อายุ 21 ปี บุตรชาย สภาพศพนอนหงาย ห่มผ้า ถูกยิงด้วยปืนขนาดเดียวกัน บริเวณขมับขวากระสุนทะลุขมับซ้าย แพทย์ระบุเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง

นอกจากนี้ ยังพบจดหมายลาตายเขียนด้วยลายมือของผู้ตายวางอยู่ข้างตัว สรุปใจความว่า "ถึงทุกคนอันเป็นที่รัก วันนี้เป็นทุกข์ยิ่งนัก คือทุกข์ที่เกิดขึ้นกับผมและลูกชาย เพราะสงสารลูก สงสารครอบครัว และสงสารตัวเอง แต่ก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขออโหสิกรรมให้ผมด้วย ชาติหน้าหากมีจริงขอเกิดมาเป็นครอบครัวกันใหม่อีกครั้ง พร้อมกับฝากญาติให้ดูแลภรรยาและลูกสาววัย 10 ปี ของผมด้วย?" ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนนางแก้วมณี นิวงษ์ษา อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 374 ซอยหนองบัว 3 หมู่ 1 น้องสาวของผู้ตาย ให้การว่า พี่ชายเป็นอาจารย์สอนดนตรีและเคยได้ประกาศนียบัตรครูดีเด่น เมื่อปี 2555 มีนิสัยร่าเริง ส่วนลูกชายเกิดมาก็พิการทางสมอง ทำให้พี่น้องต้องลำบากคอยดูแลมาตั้งแต่เล็ก เคยบ่นว่าทำไมถึงได้ลูกชายที่เกิดมาต้องพิการด้วย ถ้าหากไม่มีพ่อและแม่อยู่ด้วยแล้วใครจะมาดูแล มีเพียงแค่ลูกสาววัย 10 ขวบก็ต้องมาดูแลพี่ชายด้วยหรือ เป็นสาเหตุเกิดอาการเครียดดังกล่าว

"เมื่อวันที่ 9 พ.ย.พี่ชายเดินทางไปดูที่นากับภรรยาแล้วพูดขึ้นมาว่า เงินเก็บออมจะได้เท่าไรและจะได้ยังไง ส่วนคนอยู่ข้างหลังจะเป็นยังไง ถ้าตนเองไม่อยู่และจะอยู่ได้หรือไม่ จนเมื่อคืนเวลาประมาณ 01.00 น.ได้ยินเสียงเหมือนคนจุดประทัด คิดว่าเป็นเด็กวัยรุ่นที่นำมาประทัดมาจุดเล่น กระทั่งคนในบ้านตื่นขึ้นมาในตอนเช้าพบว่าพี่ชายได้ใช้อาวุธปืนยิงลูกชายและตนเองเสียชีวิตแล้ว"

นายบุญหลาย สุรีย์ อายุ 76 ปีพ่อตาผู้ตาย ให้การว่า ครอบครัวตนอยู่รวมกัน 7 คนรวมทั้งลูกเขยและหลานชายที่เสียชีวิต ซึ่งผู้ตายเป็นครู ส่วนลูกสาวของตนทำงานที่เทศบาลตำบลบ้านจั่น ทั้งคู่มีลูกชายหญิง 2 คน แต่ลูกชายคนโตกลับพิการทางสมอง ตัวโต แขนขาลีบ แต่ผู้ตายก็เลี้ยงลูกมาเป็นอย่างดี หลังเลิกงานก็จะกลับมาดูแลลูกพิการ ซึ่งมักจะร้องไห้ เอะอะโวยวาย ตามประสาคนพิการทางสมอง บางทีก็ได้ยินผู้ตายบ่นว่า ทำไมครอบครัวถึงมีกรรมหนัก ที่มีลูกชายพิการทางสมอง และผู้ตายไม่เคยมีปัญหาเรื่องด้านเงิน เพราะปกติเป็นคนมีฐานะดี ไม่เล่นการพนัน ไม่เที่ยวกลางคืน ดื่มเหล้าเล็กน้อย และชอบไปวัด

"ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา ผู้ตายไปดูที่นา 4 ไร่ ที่ปลูกข้าวไว้ที่บ้านหนองใส ต.หนองนาคำ อ.เมืองอุดรธานี กระทั่งเย็นกลับมาบ้าน รับประทานอาหารเย็นพร้อมครอบครัว ก่อนแยกย้ายกันไปนอน โดยผู้ตายและลูกนอนอยู่ชั้นล่าง 2 คน เพราะลูกชายจะโวยวาย ไม่ยอมนอนในเวลากลางคืน ผู้ตายจึงแยกมานอนชั้นล่างมาหลายปีแล้ว เมื่อคืนนี้ผมนอนอยู่ชั้นบน ก็ไม่ได้ยินเสียงผิดปกติแต่อย่างใด กระทั่งรุ่งเช้าได้เดินลงมาชั้นล่างคิดว่าผู้ตายกับลูกนอนหลับ แต่ได้กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งทั่วบริเวณบ้าน จึงเดินไปดูก็พบว่าลูกเขยยิงลูกและยิงตัวตาย แต่มีชาวบ้านใกล้เคียงได้ยินเสียงคล้ายปืนประมาณเวลา 02.00 น.โดยไม่เคยทราบมาก่อนว่าผู้ตายมีปืน หลังพบศพจึงแจ้งตำรวจมาทำการตรวจสอบ"

ด้าน พ.ต.ท.สิงหราช แก้วเกิดมี พงส.ชำนาญการพิเศษ สภ.เมืองอุดรธานี สันนิษฐานเบื้องต้นว่า ผู้ตายอาจจะเก็บกดและเครียดกับปัญหาครอบครัว เนื่องจากต้องเลี้ยงลูกพิการมานานหลายปี จึงตัดสินใจฆ่าตัวตายพร้อมลูกพิการเพื่อตัดปัญหา โดยมีจดหมายลาตาย และขอโหสิกรรม ของผู้ตายเป็นหลักฐาน จึงมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น