00 วันพุธที่ 12 พ.ย. ถึงคิวที่ สนช. ลงมติรับทราบวาระการพิจารณาถอดถอน ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในคดีที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดโครงการรับจำนำข้าว ที่บอกว่าแค่รับทราบเพราะว่า ประธานสนช. พรเพชร วิชิตชลชัย ใช้ดุลพินิจใช้อำนาจบรรจุเข้าวาระพิจารณาเรียบร้อยแล้ว และกำหนดให้รับทราบในวันดังกล่าว ดังนั้นจึงไม่ต้องลุ้นว่าจะรับพิจารณาหรือไม่เหมือนกับกรณีของ นิคม ไวยรัชพานิช และ สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ เพราะความผิดตามกม.ต่างกัน รายแรกเป็นความผิดพ่วงจากกฎหมายประกอบรธน. คือกฎหมายป.ป.ช. ที่คสช.ไม่ได้ยเลิก ส่วนรายหลังเป็นความผิดตาม รธน.50 ที่ยกเลิกไปแล้ว ทำให้เปิดช่องให้แถได้ แต่ในที่สุดก็ลงมติรับพิจารณาโดยยึดเอาหลักประเพณีปฏิบัติ ซึ่งหากพิจารณาจากสามัญสำนึก ถ้าเห็นว่ามีความผิดมันก็ต้องผิดวันยังค่ำ จะไปอ้างการยกเลิกกฎหมายเป็นเถรตรงมันก็ดูทุเรศเกินไป
00 อย่างไรก็ดี ในความเป็นไป เมื่อพิจารณากันในบั้นปลายก็เชื่อว่าเป็นเรื่องยากที่ สนช.จะลงมติถอดถอน และถึงขั้นตัดสิทธิ์ทางการเมืองได้ เพราะเชื่อว่าเสียงไม่ถึง 3 ใน 5 หรือ 132 เสียง เมื่อพิจารณาจากกรณีของ สมศักดิ์-นิคม มันก็ชัดอยู่แล้ว และที่ไม่น่าแปลกใจแต่เป็นคำถามก็คือ สนช.สายทหาร "ไม่เอาด้วย" แต่ถ้ามองจากความเป็นจริง เมื่อพิจารณาจาก"หัวไปหาง" นั่นคือระดับบนตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่แสดงท่าทีให้เห็นมาตลอดว่า ต้องการ"ปรองดอง" กับคนในครอบครัว"ชินวัตร" มาตลอดนับตั้งแต่เข้ามาควบคุมอำนาจ รวมไปถึงการเขียนคำปรารภในรัฐธรรมนูญชั่วคราว ก็ไม่ได้เอ่ยถึงความล้มเหลว การทุจริตของรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เลยแม้แต่น้อย มีแต่คำว่า เข้ามาเพื่อป้องกันความขัดแย้ง ป้องกันการเข่นฆ่าของประชาชนทั้งสองฝ่ายเท่านั้น อีกทั้งในคำพูดของบรรดา "ผู้นำอำนาจใหม่" หากสังเกตจะเน้นย้ำเรื่องการลดความขัดแย้ง ปรองดอง เพื่อให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้ ไม่ได้พยายามถึงความเลวร้ายของ ระบอบทักษิณ แต่อย่างใด !!
00 ล่าสุด ทำท่าว่าจะเป็นเกมยื้อออกไปให้นานที่สุด เมื่อ พีระศักดิ์ พอจิต รองประธาน สนช. ออกมาบอกว่า การพิจารณาในวันที่ 12 พ.ย.นี้ คงจะต้องเลื่อนออกไปก่อน เพราะทนายความของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มายื่นหนังสือถึงประธานสนช. ขอให้เลื่อนการพิจารณาถอดถอนออกไปก่อน โดยอ้างว่า ยิ่งลักษณ์ เพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ ยังไม่ได้เตรียมตัว เพราะยังไม่ได้รับเอกสารสำนวนที่ ป.ป.ช.กล่าวโทษมา และอ้างถึงข้อบังคับการประชุมสนช. ที่ว่า ต้องส่งสำนวนของป.ป.ช.ไปให้ผู้ถูกกล่าวหาไม่น้อยกว่า 15 วัน ก่อนวันประชุมพิจารณา ซึ่ง ประธาน สนช. ส่งไปตั้งแต่วันที่ 27 ต.ค.57 แต่ ยิ่งลักษณ์ ได้รับหรือยัง หรือรับเมื่อวันที่เท่าไร ก็ไม่รู้ ดังนั้นค่อนข้างแน่นอนว่า วันที่ 12 พ.ย. จะไม่มีการพิจารณาเรื่องถอดถอน จะนัดอีกครั้งเมื่อไร ก็ยังไม่รู้
00 นี่ก็ถือว่ารับจ้างโพสต์แบบโกหกบิดเบือนได้ใจจริงๆ สำหรับเพจในชื่อ โอ๊ค พานทองแท้ ชินวัตร ที่ตั้งคำถามแบบกวนโอ้ยว่า ทีเรื่อง ปรส.ที่เจ๊งยับเยินไม่ต่างจากจำนำข้าว ทำไมไม่ไปไล่บี้เอาบ้าง ทำไมมัวเอาแต่คาดคั้นกับเรื่องจำนำข้าวของ อาปู ยิ่งลักษณ์ ยันเต ทั้งที่เงินที่ขาดทุนก็อยู่ในมือชาวนา รัฐเจ๊งแต่ชาวนาได้เงิน มันก็ยังดี ฟังดูเผินๆ แบบไม่รู้เหนือรู้ใต้ แบบที่ฟังพวกแกนนำเสื้อแดงแบบ "เผาเลยพี่น้องผมรับผิดชอบเอง" มันก็อาจเคลิ้ม แต่ไม่รู้ว่าโอ๊ค นี่มันเมาค้างหรือเปล่าลืมนึกไปว่าต้นเหตุของปรส. มาจากยุครัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และมี พ่อเขา คือ ทักษิณ ชินวัตร เป็นรองนายกฯ ที่ว่ากันว่ามีบางคนรู้ข้อมูลภายใน ได้กำไรจากค่าเงินบาทรวยอู้ฟู้ บนน้ำตาคนไทยทั้งชาติ ขณะที่จำนำข้าวนั้นลองไปดูสิว่า เงินถึงมือชาวนาแค่จิ๊บจ๊อย ขณะที่ไหลไปอยู่ในมือของพวกนักการเมืองชั่วๆ ที่หน้ากลมๆ ฟาดกันไปกี่แสนล้าน ฉิบหายกันไปเท่าไหร่ ทุด !!
00 อย่างไรก็ดี ในความเป็นไป เมื่อพิจารณากันในบั้นปลายก็เชื่อว่าเป็นเรื่องยากที่ สนช.จะลงมติถอดถอน และถึงขั้นตัดสิทธิ์ทางการเมืองได้ เพราะเชื่อว่าเสียงไม่ถึง 3 ใน 5 หรือ 132 เสียง เมื่อพิจารณาจากกรณีของ สมศักดิ์-นิคม มันก็ชัดอยู่แล้ว และที่ไม่น่าแปลกใจแต่เป็นคำถามก็คือ สนช.สายทหาร "ไม่เอาด้วย" แต่ถ้ามองจากความเป็นจริง เมื่อพิจารณาจาก"หัวไปหาง" นั่นคือระดับบนตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่แสดงท่าทีให้เห็นมาตลอดว่า ต้องการ"ปรองดอง" กับคนในครอบครัว"ชินวัตร" มาตลอดนับตั้งแต่เข้ามาควบคุมอำนาจ รวมไปถึงการเขียนคำปรารภในรัฐธรรมนูญชั่วคราว ก็ไม่ได้เอ่ยถึงความล้มเหลว การทุจริตของรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เลยแม้แต่น้อย มีแต่คำว่า เข้ามาเพื่อป้องกันความขัดแย้ง ป้องกันการเข่นฆ่าของประชาชนทั้งสองฝ่ายเท่านั้น อีกทั้งในคำพูดของบรรดา "ผู้นำอำนาจใหม่" หากสังเกตจะเน้นย้ำเรื่องการลดความขัดแย้ง ปรองดอง เพื่อให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้ ไม่ได้พยายามถึงความเลวร้ายของ ระบอบทักษิณ แต่อย่างใด !!
00 ล่าสุด ทำท่าว่าจะเป็นเกมยื้อออกไปให้นานที่สุด เมื่อ พีระศักดิ์ พอจิต รองประธาน สนช. ออกมาบอกว่า การพิจารณาในวันที่ 12 พ.ย.นี้ คงจะต้องเลื่อนออกไปก่อน เพราะทนายความของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มายื่นหนังสือถึงประธานสนช. ขอให้เลื่อนการพิจารณาถอดถอนออกไปก่อน โดยอ้างว่า ยิ่งลักษณ์ เพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ ยังไม่ได้เตรียมตัว เพราะยังไม่ได้รับเอกสารสำนวนที่ ป.ป.ช.กล่าวโทษมา และอ้างถึงข้อบังคับการประชุมสนช. ที่ว่า ต้องส่งสำนวนของป.ป.ช.ไปให้ผู้ถูกกล่าวหาไม่น้อยกว่า 15 วัน ก่อนวันประชุมพิจารณา ซึ่ง ประธาน สนช. ส่งไปตั้งแต่วันที่ 27 ต.ค.57 แต่ ยิ่งลักษณ์ ได้รับหรือยัง หรือรับเมื่อวันที่เท่าไร ก็ไม่รู้ ดังนั้นค่อนข้างแน่นอนว่า วันที่ 12 พ.ย. จะไม่มีการพิจารณาเรื่องถอดถอน จะนัดอีกครั้งเมื่อไร ก็ยังไม่รู้
00 นี่ก็ถือว่ารับจ้างโพสต์แบบโกหกบิดเบือนได้ใจจริงๆ สำหรับเพจในชื่อ โอ๊ค พานทองแท้ ชินวัตร ที่ตั้งคำถามแบบกวนโอ้ยว่า ทีเรื่อง ปรส.ที่เจ๊งยับเยินไม่ต่างจากจำนำข้าว ทำไมไม่ไปไล่บี้เอาบ้าง ทำไมมัวเอาแต่คาดคั้นกับเรื่องจำนำข้าวของ อาปู ยิ่งลักษณ์ ยันเต ทั้งที่เงินที่ขาดทุนก็อยู่ในมือชาวนา รัฐเจ๊งแต่ชาวนาได้เงิน มันก็ยังดี ฟังดูเผินๆ แบบไม่รู้เหนือรู้ใต้ แบบที่ฟังพวกแกนนำเสื้อแดงแบบ "เผาเลยพี่น้องผมรับผิดชอบเอง" มันก็อาจเคลิ้ม แต่ไม่รู้ว่าโอ๊ค นี่มันเมาค้างหรือเปล่าลืมนึกไปว่าต้นเหตุของปรส. มาจากยุครัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และมี พ่อเขา คือ ทักษิณ ชินวัตร เป็นรองนายกฯ ที่ว่ากันว่ามีบางคนรู้ข้อมูลภายใน ได้กำไรจากค่าเงินบาทรวยอู้ฟู้ บนน้ำตาคนไทยทั้งชาติ ขณะที่จำนำข้าวนั้นลองไปดูสิว่า เงินถึงมือชาวนาแค่จิ๊บจ๊อย ขณะที่ไหลไปอยู่ในมือของพวกนักการเมืองชั่วๆ ที่หน้ากลมๆ ฟาดกันไปกี่แสนล้าน ฉิบหายกันไปเท่าไหร่ ทุด !!