ASTVผู้จัดการรายวัน-กสทช.เรียกผู้จำหน่ายกล่องทีวีดิจิตอลชี้แจง หลังพบร่วมมือ 2 พรรคการเมืองใหญ่ ใช้สาขาพรรคทำการแลกคูปอง หวั่นเป็นเครื่องมือทางการเมือง ก่อนสั่งให้ระดับการดำเนินการดังกล่าว
จากกรณีที่มีผู้จำหน่ายกล่องทีวีดิจิตอลที่ได้รับอนุญาติจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ร่วมกับ 2 พรรคการเมืองใหญ่ เพื่อกระจายกล่องทีวีดิจิตอลในโครงการแลกคูปอง 690 บาทของ กสทช. ไปยังสาขาของพรรคการเมืองในพื้นที่ต่างๆ
ล่าสุด วานนี้ (5 พ.ย.) นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. ได้เรียกตัวแทนของ บมจ.คราวน์ เทค แอดวานซ์ หรือ AJD หนึ่งในบริษัทที่เข้าร่วมโครงการสนับสนุนประชาชนในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การรับชมโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลเข้าพบ กรณีไปทำข้อตกลงความร่วมมือ หรือ MOU กับ 2 พรรคการเมืองใหญ่ เพื่อใช้ที่ทำการสาขาของพรรคในหลายจังหวัดเป็นจุดรับแลกคูปองเพื่อซื้อกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล โดย กสทช. สั่งให้ระงับการดำเนินการดังกล่าวแล้ว
พร้อมกันนี้ ได้สั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง โดยมีนายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการ กสทช. สายงานโทรคมนาคมเป็นประธาน และกำหนดระยะเวลาให้คณะทำงานดังกล่าวจะต้องรายงานผลการตรวจสอบว่าการดำเนินการของบมจ.คราวน์ เทค แอดวานซ์ ครั้งนี้ ผิดต่อข้อตกลงที่ทำกับสำนักงาน กสทช. หรือมีความผิดตามกฎหมายใดหรือไม่ มาที่เลขาธิการ กสทช. ภายใน 2 วัน
นายฐากร กล่าวว่า กสทช.จะเร่งทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ประกอบการทั้ง 56 บริษัทว่าหากต้องการเพิ่มจุดจำหน่ายจากที่แจ้งไว้ตอนแรก ต้องขอความเห็นชอบจาก กสทช. ก่อน ซึ่งขั้นตอนการเพิ่มจุดจำหน่ายนั้น หากเกี่ยวข้องกับหน่วยงานต่างๆ ต้อง พิจารณาอีกครั้ง ส่วนในกรณีของแบรนด์เอเจ ขณะนี้ได้หยุดแนวทางปฏิบัติไปแล้ว และอีก 2รายจะมีการเรียกเข้ามาชี้แจงต่อไป
นายพิภัทร ปฏิเวทภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บมจ.คราวน์ เทค แอดวานซ์ ชี้แจงว่า AJD มีแนวคิดในการจะทำประชาสัมพันธ์ลักษณะนี้จริง แต่ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการใดๆ เป็นเพียงการปรึกษากับทีมบริษัทประชาสัมพันธ์เท่านั้น ซึ่งจากการตรวจสอบของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง พบว่านักการเมืองได้นำเอาแนวคิดดังกล่าวไปดำเนินการเอง โดยวิธีการจัดทำป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่มีรูปนักการเมือง และชื่อยี่ห้อของกล่องดิจิตอลพร้อมระบุข้อความว่าเปิดให้บริการแก่ประชาชนทั่วประเทศแล้ว
"บริษัทยังไม่ได้เปิดจำหน่ายหรือเปิดให้แลกกล่องดิจิตอลแต่อย่างใด เป็นเพียงแนวคิดที่พูดคุยกับบริษัทที่ปรึกษาด้านการประชาสัมพันธ์เท่านั้น ซึ่งบริษัทพร้อมที่จะทำหนังสือชี้แจงมายัง กสทช. ภายใน 1 - 2 วันนี้อย่างแน่นอน"นายพิภัทรกล่าว
นายอมร มีมะโน กรรมการผู้จัดการ บริษัท คราวน์ เทค แอดวานซ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนทั่วไปในการมาใช้สิทธิ์แลกคูปองทีวีดิจิตอล ซึ่งไม่ได้เป็นการทำผิดกฎของ กสทช. แต่อย่างใด โดยหาก กสทช. ติดต่อเข้ามา ก็มีความยินดีเข้าชี้แจงถึงเหตุการณ์ดังกล่าว และจะยังดำเนินการตามแนวทางที่ได้ทำความร่วมมือกับทั้ง 2 พรรคการเมืองไว้ และขายกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลในตลาดต่อไปตามปกติ จนกว่าจะมีคำสั่งระงับการดำเนินการดังกล่าว
น.ส.บุญยืน ศิริธรรม ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค และคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง กล่าวว่า จากการตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น พบว่ามีผู้ประกอบการกล่องดิจิตอลจำนวนถึง3ราย ได้ร่วมมือกับทาง 2 พรรคการเมืองใหญ่ ทำการรับแลกคูปองดิจิตอลทีวี โดยวานนี้ (5 พ.ย.) ได้เชิญตัวแทนผู้ประกอบการรายหนึ่งที่เกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าวเข้ามาชี้แจงแล้ว ซึ่งทางตัวแทนรายนั้นได้ชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวยังคงเป็นเพียงแค่แนวคิดเท่านั้น และยังไม่ได้มีการดำเนินการอะไรทั้งนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรื่องดังกล่าวในความเป็นจริงพบว่า มีการดำเนินการไปแล้ว ด้วยการติดตั้งป้ายคัตเอาท์ ของนักการเมืองบางราย ที่มีการประชาสัมพันธ์ในการนำคูปองมาแลกกล่องดิจิตอล 3 แบรนด์ เพื่อสื่อสารให้ประชาชนได้รับรู้เพื่อที่จะนำคูปองนั้นมาใช้กับแบรนด์ของตัวเอง
สำหรับผู้ประกอบการกล่องดิจิตอลทีวีทั้ง 3 แบรนด์ที่ปรากฏอยู่ที่ป้ายคัตเอาท์ ได้แก่ แบรนด์เอเจ แบรนด์อะโคเนติก และแบรนด์สามารถ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความคืบหน้าจากการติดตามสถานการณ์และตรวจสอบการแลกคูปองดิจิตอลทีวี และเรื่องร้องเรียน พบว่า มีผู้มาใช้สิทธิ์คูปองแล้วกว่า 700,000 ราย และมีหลายบริษัทรับแลกคูปองโดยไม่ได้มีการขอเอกสารจากเจ้าบ้านประกอบการแลก ไม่มีการตรวจสอบสถานะคูปองตามขั้นตอน ซึ่งพบกว่า 100,000 ราย ซึ่งกรณีเช่นนี้ กสทช. ขอเตือนไปยังบริษัทที่เข้าร่วมโครงการว่าเมื่อมีประชาชนนำคูปองมาแลก บริษัทต้องตรวจสอบหลักฐาน และขอหลักฐานจากประชาชนตามขั้นตอน เพื่อนำมาประกอบในการขึ้นเงินกับธนาคาร หากไม่มีเอกสารประกอบ และไม่ดำเนินการตามกระบวนการ กสทช.ก็จะไม่จ่ายเงินให้
จากกรณีที่มีผู้จำหน่ายกล่องทีวีดิจิตอลที่ได้รับอนุญาติจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ร่วมกับ 2 พรรคการเมืองใหญ่ เพื่อกระจายกล่องทีวีดิจิตอลในโครงการแลกคูปอง 690 บาทของ กสทช. ไปยังสาขาของพรรคการเมืองในพื้นที่ต่างๆ
ล่าสุด วานนี้ (5 พ.ย.) นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. ได้เรียกตัวแทนของ บมจ.คราวน์ เทค แอดวานซ์ หรือ AJD หนึ่งในบริษัทที่เข้าร่วมโครงการสนับสนุนประชาชนในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การรับชมโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลเข้าพบ กรณีไปทำข้อตกลงความร่วมมือ หรือ MOU กับ 2 พรรคการเมืองใหญ่ เพื่อใช้ที่ทำการสาขาของพรรคในหลายจังหวัดเป็นจุดรับแลกคูปองเพื่อซื้อกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล โดย กสทช. สั่งให้ระงับการดำเนินการดังกล่าวแล้ว
พร้อมกันนี้ ได้สั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง โดยมีนายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการ กสทช. สายงานโทรคมนาคมเป็นประธาน และกำหนดระยะเวลาให้คณะทำงานดังกล่าวจะต้องรายงานผลการตรวจสอบว่าการดำเนินการของบมจ.คราวน์ เทค แอดวานซ์ ครั้งนี้ ผิดต่อข้อตกลงที่ทำกับสำนักงาน กสทช. หรือมีความผิดตามกฎหมายใดหรือไม่ มาที่เลขาธิการ กสทช. ภายใน 2 วัน
นายฐากร กล่าวว่า กสทช.จะเร่งทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ประกอบการทั้ง 56 บริษัทว่าหากต้องการเพิ่มจุดจำหน่ายจากที่แจ้งไว้ตอนแรก ต้องขอความเห็นชอบจาก กสทช. ก่อน ซึ่งขั้นตอนการเพิ่มจุดจำหน่ายนั้น หากเกี่ยวข้องกับหน่วยงานต่างๆ ต้อง พิจารณาอีกครั้ง ส่วนในกรณีของแบรนด์เอเจ ขณะนี้ได้หยุดแนวทางปฏิบัติไปแล้ว และอีก 2รายจะมีการเรียกเข้ามาชี้แจงต่อไป
นายพิภัทร ปฏิเวทภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บมจ.คราวน์ เทค แอดวานซ์ ชี้แจงว่า AJD มีแนวคิดในการจะทำประชาสัมพันธ์ลักษณะนี้จริง แต่ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการใดๆ เป็นเพียงการปรึกษากับทีมบริษัทประชาสัมพันธ์เท่านั้น ซึ่งจากการตรวจสอบของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง พบว่านักการเมืองได้นำเอาแนวคิดดังกล่าวไปดำเนินการเอง โดยวิธีการจัดทำป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่มีรูปนักการเมือง และชื่อยี่ห้อของกล่องดิจิตอลพร้อมระบุข้อความว่าเปิดให้บริการแก่ประชาชนทั่วประเทศแล้ว
"บริษัทยังไม่ได้เปิดจำหน่ายหรือเปิดให้แลกกล่องดิจิตอลแต่อย่างใด เป็นเพียงแนวคิดที่พูดคุยกับบริษัทที่ปรึกษาด้านการประชาสัมพันธ์เท่านั้น ซึ่งบริษัทพร้อมที่จะทำหนังสือชี้แจงมายัง กสทช. ภายใน 1 - 2 วันนี้อย่างแน่นอน"นายพิภัทรกล่าว
นายอมร มีมะโน กรรมการผู้จัดการ บริษัท คราวน์ เทค แอดวานซ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนทั่วไปในการมาใช้สิทธิ์แลกคูปองทีวีดิจิตอล ซึ่งไม่ได้เป็นการทำผิดกฎของ กสทช. แต่อย่างใด โดยหาก กสทช. ติดต่อเข้ามา ก็มีความยินดีเข้าชี้แจงถึงเหตุการณ์ดังกล่าว และจะยังดำเนินการตามแนวทางที่ได้ทำความร่วมมือกับทั้ง 2 พรรคการเมืองไว้ และขายกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลในตลาดต่อไปตามปกติ จนกว่าจะมีคำสั่งระงับการดำเนินการดังกล่าว
น.ส.บุญยืน ศิริธรรม ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค และคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง กล่าวว่า จากการตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น พบว่ามีผู้ประกอบการกล่องดิจิตอลจำนวนถึง3ราย ได้ร่วมมือกับทาง 2 พรรคการเมืองใหญ่ ทำการรับแลกคูปองดิจิตอลทีวี โดยวานนี้ (5 พ.ย.) ได้เชิญตัวแทนผู้ประกอบการรายหนึ่งที่เกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าวเข้ามาชี้แจงแล้ว ซึ่งทางตัวแทนรายนั้นได้ชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวยังคงเป็นเพียงแค่แนวคิดเท่านั้น และยังไม่ได้มีการดำเนินการอะไรทั้งนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรื่องดังกล่าวในความเป็นจริงพบว่า มีการดำเนินการไปแล้ว ด้วยการติดตั้งป้ายคัตเอาท์ ของนักการเมืองบางราย ที่มีการประชาสัมพันธ์ในการนำคูปองมาแลกกล่องดิจิตอล 3 แบรนด์ เพื่อสื่อสารให้ประชาชนได้รับรู้เพื่อที่จะนำคูปองนั้นมาใช้กับแบรนด์ของตัวเอง
สำหรับผู้ประกอบการกล่องดิจิตอลทีวีทั้ง 3 แบรนด์ที่ปรากฏอยู่ที่ป้ายคัตเอาท์ ได้แก่ แบรนด์เอเจ แบรนด์อะโคเนติก และแบรนด์สามารถ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความคืบหน้าจากการติดตามสถานการณ์และตรวจสอบการแลกคูปองดิจิตอลทีวี และเรื่องร้องเรียน พบว่า มีผู้มาใช้สิทธิ์คูปองแล้วกว่า 700,000 ราย และมีหลายบริษัทรับแลกคูปองโดยไม่ได้มีการขอเอกสารจากเจ้าบ้านประกอบการแลก ไม่มีการตรวจสอบสถานะคูปองตามขั้นตอน ซึ่งพบกว่า 100,000 ราย ซึ่งกรณีเช่นนี้ กสทช. ขอเตือนไปยังบริษัทที่เข้าร่วมโครงการว่าเมื่อมีประชาชนนำคูปองมาแลก บริษัทต้องตรวจสอบหลักฐาน และขอหลักฐานจากประชาชนตามขั้นตอน เพื่อนำมาประกอบในการขึ้นเงินกับธนาคาร หากไม่มีเอกสารประกอบ และไม่ดำเนินการตามกระบวนการ กสทช.ก็จะไม่จ่ายเงินให้