ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คนร้ายเปิดฉากป่วนใต้รับวันเปิดเทอมขับกระบะตามประกบยิงถล่มคณะกำนันเมืองปัตตานีดับ 2 สาหัส 3 รายบนถนนถนนสายปัตตานี-หาดใหญ่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ 3 จชต.ระดมกำลังรักษาความปลอดภัยเข้มรับเปิดเทอมวันแรกตึกคัก "ผบ.ทบ." สั่งเจ้าหน้าที่ปรับแผนเชิงรุกรับมือผู้ก่อเหตุรุนแรง
เมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้ (3 พ.ย.) พ.ต.อ.ต่วนเดร์ จุฑานันท์ ผกก.สภ.เมืองปัตตนี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายรายที่บนถนนสายปัตตานี-หาดใหญ่ ม.3 ต.ตะลุโบะ อ.เมืองปัตตานี จึงนำกำลังไปที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สี่ประตู สีเทา ทะเบียน กร 2904 สงขลา ตกลงไปในเกาะกลางถนนสภาพถูกยิงจนพรุนทั้งคัน
ภายในรถบนเบาะนั่งด้านหลังคนขับมีผู้เสียชีวิต 2 รายถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าลำตัวหลายนัดจนสมองเปิด ทราบชื่อนายไซนูดิง เจะมิง และนายอับดุลรอแม มะลี ทั้งสองเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 3 รายถูกนำส่ง รพ.ปัตตานี ทราบชื่อนายแวดาโอะ เจะเตะ อายุ 32 ปี เป็นกำนันตำบลคลองมานิง อ.เมืองปัตตานี อยู่บ้านเลขที่ 130 ม.3 ต.คลองมานิง อ.เมืองปัตตานี นายอับดุลรอมัน เจะเลาะ อายุ 36 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และนายนิเฮง หะยีสามะ อายุ 33 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทั้ง 3 ถูกยิงด้วยอาวุธสงครามเข้าลำตัวอาการสาหัส
จากการตรวจสอบภายในรถพบอาวุธปืนขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก เงินสดในถุงกระดาษกว่า 1 แสนบาทในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนอาก้ากว่า 50 ปลอกจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ก่อนเกิดเหตุขณะที่นายแวดาโอะ เดินทางด้วยรถคันเกิดเหตุเสร็จจากการประชุมประจำเดือนและการฝึกผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่ว่าการอำเภอเมืองปัตตานี จากนั้นจึงทำการเบิกค่าใช้จ่ายประจำเดือนก่อนที่ทั้ง 5 คนจะเดินทางกลับบ้านพัก โดยที่นายแวดาโอะ นั่งด้านหน้าข้างคนขับ
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้รถกระบะเป็นพาหนะขับตามหลังมาก่อนที่คนร้ายที่นั่งท้ายกระบะใช้อาวุธสงครามถล่มยิงไล่หลังจนเกิดเสียงดังสนั่น ชาวบ้านระแวกใกล้เคียงต้องหนีหลบกระสุนกันวุ่นวาย ก่อนที่รถของนายแวดาโอะ ตกข้างทาง ส่วนคนร้ายหลังก่อเหตุเร่งเครื่องหลบหนีไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ เรื่องการเมืองปมขัดแย้งในพื้นที่ และการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
เปิดเรียนวันแรกคึกคัก จนท.คุมเข้ม
ด้านบรรยากาศการเปิดเรียนภาคเรียนที่ 2 ประจำปีการศึกษา 2557 วันแรกในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้วานนี้ เป็นไปอย่างคึกคัก ทุกโรงเรียนสามารถเปิดเรียนได้ตามปกติท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยจากกำลังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วย
ขณะที่นายวีรพงศ์ แก้วสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เดินทางมาตรวจเยี่ยมที่บริเวณฐานของชุดอาสาสมัครรักษาดินแดน สามแยกบ้านน้ำดำ ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ซึ่งมีการรวมพลของกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และภาคประชาชน ที่เป็นชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน และชุด อรบ.ใน อ.ทุ่งยางแดง เพื่อร่วมกันในการสนธิกำลังระหว่างภาครัฐกับภาคประชาชน (กำลังท้องถิ่น) ตามโมเดลทุ่งยางแดงในการที่จะเข้าไปดูแลเส้นทาง โรงเรียน ครูและนักเรียน เพื่อให้การเกิดความปลอดภัย ในโอกาสที่เปิดเรียนวันแรก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ มีคนร้ายเผาโรงเรียนเสียหาย 5 โรง และโรงเรียนมายอ 1 โรง
มทภ.4 คุยสถานการณ์โดยรวมดีขึ้น
พล.ต.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) ว่า สถานการณ์โดยรวมถือว่าดีขึ้น ประชาชนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี โดยวานนี้ (3 พ.ย.) เป็นวันแรกที่มีการเปิดภาคเรียนใหม่ มีประชาชนจำนวนมากจากทุกหมู่บ้านมาร่วมดูแลคุ้มครองครู ส่วนกรณีที่มีคนร้ายกราดยิงราษฎร บริเวณหน้าร้านขายของชำใน ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมานั้นขอให้รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ ก่อน
ด้านนายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า ครูไม่ใช่เป้าหมายหลักแต่เป็นเป้าหมายรองที่แฝงไปด้วยข้อแลกเปลี่ยนต่างๆ ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ จะเป็นเป้าหมายหลักของผู้ก่อเหตุรุนแรง
"ค่อนข้างมั่นใจกับนโยบายการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ส่วนการพูดคุยสันติสุข ควรมีบุคคลที่มาจากทุกสาขาอาชีพเข้าร่วมพูดคุยด้วย" นายบุญสม กล่าว
เร่งล่า3แกนนำป่วนใต้ถล่มชาวเทพา
ทางด้านความคืบหน้าการการสืบสวนเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงชาวบ้านเสียชีวิต 4 คน และบาดเจ็บ 7 คน หน้าร้านขายของชำเลขที่ 57/1 ม.8 บ้านหนองสาหร่าย ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อค่ำวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา วานนี้เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งหาเบาะแสกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นกลุ่มของนายรุสลัน ใบมะ นายจำเริญ อุมาสะ และนายเสรี แวมามุ ผู้ต้องหาที่มีหมายจับติดตัวในคดีความมั่นคงที่รับผิดชอบเคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี และ อ.เทพา จ.สงขลา และทั้ง 3 คน เป็นผู้ต้องหาในจำนวน 100 คน ตามปฏิทินหมายจับปี 2558 ของศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้
"ผบ.ทบ." สั่งปรับแผนเชิงรุกรับมือ
ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) เพื่อสรุปสถานการณ์ประจำวัน โดยมี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ.เป็นประธานว่า ที่ประชุมได้หารือในประเด็นเหตุการณ์ลอบยิงชาวบ้านที่ อ.เทพา จ.สงขลา และอีกหลายๆ กรณีที่ผ่านมา โดย ผบ.ทบ.ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (รอง ผอ.รมน.) สั่งกำชับเพิ่มเติม มีรายละเอียดคือ
1.ให้เร่งดูแลผู้ได้รับผลกระทบและติดตามสืบสวนหาคนผิดโดยอาศัยเครื่องมือตามช่องทางที่มีอยู่ 2.ให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเพิ่มความเข้มข้นในการป้องกันเหตุให้มากขึ้น โดยเน้นให้ทุกหน่วยงาน ปรับใช้มาตรการเชิงรุกให้มากขึ้นในช่วงเวลากลางคืน ด้วยระบบจุดตรวจ ทั้งเขตในเมือง และพื้นที่นอกเขตเมือง
3.ปรับเพิ่มประสิทธิภาพงานข่าวให้มีประสิทธิภาพอาจโดยใช้การมีส่วนร่วมของภาคประชาชนให้มากยิ่งขึ้น
4.ให้เจ้าหน้าที่ปรับลักษณะการทำงานให้สอดคล้องกับ ช่วงเวลาที่มักจะเกิดเหตุ โดยเน้นการปฏิบัติในช่วงกลางคืนให้มากขึ้น
5.การปฏิบัติงานของจุดตรวจเฉพาะกิจ หรือ หน่วยย่อยขนาดเล็กต่างๆ ให้มีเครื่องมืออุปกรณ์ที่เพียงพอ มีรูปแบบในการแสดงตนชัดเจน เป็นไปตามหลักปฏิบัติในทางยุทธวิธี
6.งานมวลชน ให้ดำรงความต่อเนื่องในการสร้างความเข้าใจ และความรู้สึกที่ดีๆ ต่อกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชนยังคงเน้นให้ผู้เกี่ยงข้องให้ความสำคัญการพูดคุยสันติสุขในระดับพื้นที่ด้วย แนวทางผู้ก่อเหตุรุนแรงพยายามเชื่อมโยงแบบบิดเบือนและกล่าวอ้างเพื่อที่จะใช้ความรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์ ในลักษณะเดิมๆ คือ ต้องการสร้างความแตกแยกระหว่างคนต่างศาสนา หรือสร้างความหวาดระแวงระหว่างเจ้าหน้าที่กับ ประชาชนซึ่งเป็นพฤติกรรมของพวกหัวรุนแรง สุดโต่ง ไม่มีอุดมการณ์ใด ๆ และมิใช่ลักษณะนิสัยของผู้ที่ยึดถือหรือเลื่อมใสในหลักศาสนามั่นใจว่าสังคมโดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่จะปฏิเสธและไม่ยอมรับในพฤติกรรมดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องสืบหาและติดตามนำตัวผู้กระทำผิดมาเข้าสู่กระบวนการให้ได้ต่อไป
เมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้ (3 พ.ย.) พ.ต.อ.ต่วนเดร์ จุฑานันท์ ผกก.สภ.เมืองปัตตนี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายรายที่บนถนนสายปัตตานี-หาดใหญ่ ม.3 ต.ตะลุโบะ อ.เมืองปัตตานี จึงนำกำลังไปที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สี่ประตู สีเทา ทะเบียน กร 2904 สงขลา ตกลงไปในเกาะกลางถนนสภาพถูกยิงจนพรุนทั้งคัน
ภายในรถบนเบาะนั่งด้านหลังคนขับมีผู้เสียชีวิต 2 รายถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าลำตัวหลายนัดจนสมองเปิด ทราบชื่อนายไซนูดิง เจะมิง และนายอับดุลรอแม มะลี ทั้งสองเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 3 รายถูกนำส่ง รพ.ปัตตานี ทราบชื่อนายแวดาโอะ เจะเตะ อายุ 32 ปี เป็นกำนันตำบลคลองมานิง อ.เมืองปัตตานี อยู่บ้านเลขที่ 130 ม.3 ต.คลองมานิง อ.เมืองปัตตานี นายอับดุลรอมัน เจะเลาะ อายุ 36 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และนายนิเฮง หะยีสามะ อายุ 33 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทั้ง 3 ถูกยิงด้วยอาวุธสงครามเข้าลำตัวอาการสาหัส
จากการตรวจสอบภายในรถพบอาวุธปืนขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก เงินสดในถุงกระดาษกว่า 1 แสนบาทในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนอาก้ากว่า 50 ปลอกจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ก่อนเกิดเหตุขณะที่นายแวดาโอะ เดินทางด้วยรถคันเกิดเหตุเสร็จจากการประชุมประจำเดือนและการฝึกผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่ว่าการอำเภอเมืองปัตตานี จากนั้นจึงทำการเบิกค่าใช้จ่ายประจำเดือนก่อนที่ทั้ง 5 คนจะเดินทางกลับบ้านพัก โดยที่นายแวดาโอะ นั่งด้านหน้าข้างคนขับ
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้รถกระบะเป็นพาหนะขับตามหลังมาก่อนที่คนร้ายที่นั่งท้ายกระบะใช้อาวุธสงครามถล่มยิงไล่หลังจนเกิดเสียงดังสนั่น ชาวบ้านระแวกใกล้เคียงต้องหนีหลบกระสุนกันวุ่นวาย ก่อนที่รถของนายแวดาโอะ ตกข้างทาง ส่วนคนร้ายหลังก่อเหตุเร่งเครื่องหลบหนีไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ เรื่องการเมืองปมขัดแย้งในพื้นที่ และการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
เปิดเรียนวันแรกคึกคัก จนท.คุมเข้ม
ด้านบรรยากาศการเปิดเรียนภาคเรียนที่ 2 ประจำปีการศึกษา 2557 วันแรกในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้วานนี้ เป็นไปอย่างคึกคัก ทุกโรงเรียนสามารถเปิดเรียนได้ตามปกติท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยจากกำลังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วย
ขณะที่นายวีรพงศ์ แก้วสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เดินทางมาตรวจเยี่ยมที่บริเวณฐานของชุดอาสาสมัครรักษาดินแดน สามแยกบ้านน้ำดำ ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ซึ่งมีการรวมพลของกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และภาคประชาชน ที่เป็นชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน และชุด อรบ.ใน อ.ทุ่งยางแดง เพื่อร่วมกันในการสนธิกำลังระหว่างภาครัฐกับภาคประชาชน (กำลังท้องถิ่น) ตามโมเดลทุ่งยางแดงในการที่จะเข้าไปดูแลเส้นทาง โรงเรียน ครูและนักเรียน เพื่อให้การเกิดความปลอดภัย ในโอกาสที่เปิดเรียนวันแรก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ มีคนร้ายเผาโรงเรียนเสียหาย 5 โรง และโรงเรียนมายอ 1 โรง
มทภ.4 คุยสถานการณ์โดยรวมดีขึ้น
พล.ต.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) ว่า สถานการณ์โดยรวมถือว่าดีขึ้น ประชาชนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี โดยวานนี้ (3 พ.ย.) เป็นวันแรกที่มีการเปิดภาคเรียนใหม่ มีประชาชนจำนวนมากจากทุกหมู่บ้านมาร่วมดูแลคุ้มครองครู ส่วนกรณีที่มีคนร้ายกราดยิงราษฎร บริเวณหน้าร้านขายของชำใน ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมานั้นขอให้รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ ก่อน
ด้านนายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า ครูไม่ใช่เป้าหมายหลักแต่เป็นเป้าหมายรองที่แฝงไปด้วยข้อแลกเปลี่ยนต่างๆ ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ จะเป็นเป้าหมายหลักของผู้ก่อเหตุรุนแรง
"ค่อนข้างมั่นใจกับนโยบายการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ส่วนการพูดคุยสันติสุข ควรมีบุคคลที่มาจากทุกสาขาอาชีพเข้าร่วมพูดคุยด้วย" นายบุญสม กล่าว
เร่งล่า3แกนนำป่วนใต้ถล่มชาวเทพา
ทางด้านความคืบหน้าการการสืบสวนเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงชาวบ้านเสียชีวิต 4 คน และบาดเจ็บ 7 คน หน้าร้านขายของชำเลขที่ 57/1 ม.8 บ้านหนองสาหร่าย ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อค่ำวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา วานนี้เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งหาเบาะแสกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นกลุ่มของนายรุสลัน ใบมะ นายจำเริญ อุมาสะ และนายเสรี แวมามุ ผู้ต้องหาที่มีหมายจับติดตัวในคดีความมั่นคงที่รับผิดชอบเคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี และ อ.เทพา จ.สงขลา และทั้ง 3 คน เป็นผู้ต้องหาในจำนวน 100 คน ตามปฏิทินหมายจับปี 2558 ของศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้
"ผบ.ทบ." สั่งปรับแผนเชิงรุกรับมือ
ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) เพื่อสรุปสถานการณ์ประจำวัน โดยมี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ.เป็นประธานว่า ที่ประชุมได้หารือในประเด็นเหตุการณ์ลอบยิงชาวบ้านที่ อ.เทพา จ.สงขลา และอีกหลายๆ กรณีที่ผ่านมา โดย ผบ.ทบ.ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (รอง ผอ.รมน.) สั่งกำชับเพิ่มเติม มีรายละเอียดคือ
1.ให้เร่งดูแลผู้ได้รับผลกระทบและติดตามสืบสวนหาคนผิดโดยอาศัยเครื่องมือตามช่องทางที่มีอยู่ 2.ให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเพิ่มความเข้มข้นในการป้องกันเหตุให้มากขึ้น โดยเน้นให้ทุกหน่วยงาน ปรับใช้มาตรการเชิงรุกให้มากขึ้นในช่วงเวลากลางคืน ด้วยระบบจุดตรวจ ทั้งเขตในเมือง และพื้นที่นอกเขตเมือง
3.ปรับเพิ่มประสิทธิภาพงานข่าวให้มีประสิทธิภาพอาจโดยใช้การมีส่วนร่วมของภาคประชาชนให้มากยิ่งขึ้น
4.ให้เจ้าหน้าที่ปรับลักษณะการทำงานให้สอดคล้องกับ ช่วงเวลาที่มักจะเกิดเหตุ โดยเน้นการปฏิบัติในช่วงกลางคืนให้มากขึ้น
5.การปฏิบัติงานของจุดตรวจเฉพาะกิจ หรือ หน่วยย่อยขนาดเล็กต่างๆ ให้มีเครื่องมืออุปกรณ์ที่เพียงพอ มีรูปแบบในการแสดงตนชัดเจน เป็นไปตามหลักปฏิบัติในทางยุทธวิธี
6.งานมวลชน ให้ดำรงความต่อเนื่องในการสร้างความเข้าใจ และความรู้สึกที่ดีๆ ต่อกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชนยังคงเน้นให้ผู้เกี่ยงข้องให้ความสำคัญการพูดคุยสันติสุขในระดับพื้นที่ด้วย แนวทางผู้ก่อเหตุรุนแรงพยายามเชื่อมโยงแบบบิดเบือนและกล่าวอ้างเพื่อที่จะใช้ความรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์ ในลักษณะเดิมๆ คือ ต้องการสร้างความแตกแยกระหว่างคนต่างศาสนา หรือสร้างความหวาดระแวงระหว่างเจ้าหน้าที่กับ ประชาชนซึ่งเป็นพฤติกรรมของพวกหัวรุนแรง สุดโต่ง ไม่มีอุดมการณ์ใด ๆ และมิใช่ลักษณะนิสัยของผู้ที่ยึดถือหรือเลื่อมใสในหลักศาสนามั่นใจว่าสังคมโดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่จะปฏิเสธและไม่ยอมรับในพฤติกรรมดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องสืบหาและติดตามนำตัวผู้กระทำผิดมาเข้าสู่กระบวนการให้ได้ต่อไป
