xs
xsm
sm
md
lg

ผู้หญิงที่ผมรู้จัก (10)

เผยแพร่:   โดย: ชวินทร์ ลีนะบรรจง, สุวินัย ภรณวลัย

ผู้หญิงที่ผมรู้จักและอยากจะแนะนำในสัปดาห์นี้หลายคนอาจรู้จักจากภาพยนตร์หรือหนังชุดทางโทรทัศน์ เธอไม่เคยร้องเพลง ความเด่นของเธอน่าจะมาจากผลงานการแสดงล้วนๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบทของ ไดม่อน มิชิโกะ (大門 未知子) หมอผ่าตัดที่ไม่เคยพลาด ในหนังชุดทางโทรทัศน์ Doctor X ที่กำลังฉายภาคแรกอยู่ในเมืองไทยขณะนี้

โยเนะกุระ เรียวโกะ (米倉涼子) มิใช่สาวน้อยเฉกเช่นไอดอลทั่วไป หากแต่เป็นสาววัยกลางคน (39 ปี) จากเมืองโยโกฮะมะ ที่เกิดในเดือนที่ร้อนที่สุด (ส.ค.) พ่อแม่จึงตั้งชื่อให้ว่า เรียวโกะ (涼子) หรือ เด็กเย็น ผู้เริ่มต้นจากการฝึกบัลเลต์ตั้งแต่อายุ 5 ปีและน่าจะเข้าสู่วงการบัลเลต์ แต่กลับเข้าสู่วงการบันเทิงในฐานะนางแบบในหนังสือนิตยสารแฟชั่นสตรี สาวโฆษณาเบียร์ นางแบบชุดว่ายน้ำ ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1990

เธอใช้เวลาประมาณ 10 ปีไต่ขึ้นมาสู่บทนางเอก บทที่ทำให้เธอโด่งดังเป็นพลุแตกก็คือบทตำรวจในหนังชุดเรื่อง โคโชนิน (交渉人) นักสืบภาษีใน นะซะเกะ โนะ โอนนะ (ナサケの女 〜国税局査察官) แต่ที่แหวกแนวมากที่สุดก็คือบทหมอผ่าตัดที่ไม่เคยพลาดใน Doctor X และบทนักเรียนม.ปลายอายุ 35 ใน ซังจูโกะไซ โนะ โคโคเซ (35歳の高校生)

ถ้าเธอยังขายความสวยจากเรือนร่างในฐานะนางแบบก็คงจะไปได้ไม่นานและมาไม่ถึงจุดนี้เพราะจะมีที่อึ๋มกว่า สาวและสวยกว่า เข้ามาเป็นคู่แข่งอยู่ตลอดเวลา ความสามารถ+ความสวยต่างหากที่ทำให้เธอสามารถก้าวมาถึงจุดนี้ได้ หากเป็นหนังชุดฯ ไทยก็คงจะขายเธอเป็นนางร้ายดาวยั่วที่เนื้อเรื่องจะวนเวียนไม่พ้นหว่างขาไปสักเท่าใด

บทตำรวจนักเจรจา นักสืบคนหนีภาษีของกรมสรรพากร (国税局査察官) จึงเป็นเนื้อเรื่องที่แตกต่างโดยสิ้นเชิงจากหนังชุดฯ ไทยก็จริง แต่ก็ยังไม่แหวกแนวโดดเด่นเท่ากับบทนักเรียน ม.ปลายอายุ 35 หรือหมอผ่าตัดที่กล้าประกาศกับคนไข้หรือผู้อื่นว่า (เพราะ) ตนเองไม่เคยพลาด วลี “วาตะชิ ชิดไป ชิไนโนะเดะ” (私、失敗しないので) หรือ ไม่ทำ “อิตะ ชิมะเซ็ง” (いたしません) จึงเป็นเครื่องหมายการค้าของเธอ-ไดม่อน มิชิโกะ และกลายเป็นคำพูดที่ฮิตติดปากในเวลาต่อมา

Doctor X ภาคแรกสร้างขึ้นในปี 2012 ที่ผ่านมาเพียง 8 ตอนโดยมีเนื้อเรื่องอยู่ที่หมอสาว ไดม่อน มิชิโกะ ที่แปลกแยกกับสังคม ไม่ชอบอยู่ในกฎระเบียบ ไม่แคร์สายตาของผู้อื่น อาศัยความสามารถ+ความเป็นมืออาชีพเป็นอาวุธสำคัญเพื่อทำมาหากินเป็นหมออิสระที่ไม่ใช่หมอประจำโรงพยาบาล รับงานเป็นจ๊อบ เงื่อนไขการจ้างงานของเธอก็คือ อะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกับการใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหมอเธอจะ “ไม่ทำ” (いたしません) ขณะที่แม้จะเป็นอัฉริยะด้านการผ่าตัดแต่ก็ยังมีความเป็น “คน” นิยมเสพสุขเที่ยวกลางคืน อ่อนหัดเมื่อเวลาเล่นการพนัน และชอบของสวยงามเหมือนสาวทั่วไป เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ในแต่ละฉากจึงถูกออกแบบอย่างสุดเริด

แก่นของเรื่อง Doctor X จึงน่าจะอยู่ที่ความเป็นมืออาชีพกับผลประโยชน์ของคนไข้ ที่ไดม่อน มิชิโกะ ในฐานะหมออิสระที่ดูไปแล้วเหมือนมือปืนรับจ้างที่น่าจะยึดเอาประโยชน์ส่วนตนมากกว่าเพราะไม่มีเงินเดือนประจำนั้น แต่กลับสามารถสร้างสมดุลได้ดีกว่าหมอตำแหน่งใหญ่ๆประจำโรงพยาบาลที่ถูกยกย่องนักว่าเป็นนักบุญในเสื้อกาวน์ แต่ไม่มีความเป็นมืออาชีพและมิได้ยึดเอาประโยชน์ของคนไข้เป็นที่ตั้ง ไดม่อน มิชิโกะ จึงไม่กลัวเกรงที่จะต้องตกงานหรือลังเลที่จะต้องโต้แย้งกับหมอหน้าไหน รังเกียจระบบที่กดหัวคนที่มีความคิดริเริ่มที่มิได้คำนึงถึงประโยชน์ของคนไข้เป็นที่ตั้ง

ไดม่อน มิชิโกะ จึงกลายเป็นประหนึ่ง หมาป่าผู้เดียวดายในฝูงแกะที่ไม่กล้าทำอะไรแปลกแยก ทำให้ขาดความริเริ่ม ขาดความรับผิดชอบ ด้วยคุณลักษณะของหมอเช่นเธอจึงไม่แตกต่างอะไรกับตัวละครในบทประพันธ์ของโกวเล้ง ไม่ว่าจะเป็น จับอิ้ดนึ้ง ที่เป็นยอดขุนโจรผู้เดียวดายเฉกเช่นหมาป่านักล่าในสายตาของสังคม หรือลี้คิมฮวง มีดบินที่ไม่เคยพลาดเป้า ที่มีผู้อยากลองของอยู่เสมอ หรือเฉกเช่นเล็กเซี่ยวหงส์ เสเพลผู้ยึดถือความถูกต้องที่มีดัชนีสัมพันธ์จิตใจเป็นอาวุธสร้างชื่อ แต่ทั้งหมดก็ล้วนเป็นมืออาชีพ อยู่อย่างเดียวดาย แต่เป็นผู้กระทำในสิ่งที่ผู้กล้าเท่านั้นที่พึงกระทำนั่นคือกล้าที่ทำในสิ่งที่ตนเองเชื่อว่าถูกต้องแม้จะต้องแตกต่างหรือต้องแตกแยกจากสังคมก็ตาม

ความสามารถเป็นมือผ่าตัดอัจฉริยะที่ไม่เคยผิดพลาดของ ไดม่อน มิชิโกะ นั้นไม่ปรากฏอย่างชัดแจ้งว่าได้มาได้อย่างไรและเกี่ยวพันกับ Doctor X อย่างไรทั้งสองภาคที่ผ่านมาก็ยังไม่ได้มีการเฉลยเอาไว้แต่อย่างใด เฉกเช่นเดียวกับลี้คิมฮวง มีดบินที่ไม่เคยพลาดเป้า ตัวละครของโกวเล้งที่ล้วนมิได้มีที่มาอย่างชัดแจ้งว่าได้ฝึกปรือฝีมือมาได้อย่างไร แต่ก็เป็นจุดที่ทำให้ถูกลองของอยู่ตลอดเวลาเพราะจะมีผู้ไม่เชื่อว่าจะมีหมอที่ไม่เคยพลาดหรือมีดบินที่ไม่เคยพลาดเป้าอยู่ในโลกนี้

ความโดดเด่นของ Doctor X ในภาคแรกจึงทำให้เกิดภาคสองติดตามมาในปี 2013 อีก 9 ตอนและน่าแปลกที่สามารถทำยอดผู้ชมได้สูงกว่าภาคแรก (ร้อยละ 19 และ 23 ในภาคแรกและสองตามลำดับ) ด้วยความนิยมแบบพุ่งกระฉูดนี้เองจึงทำให้มีภาคสามเกิดขึ้นที่จะนำออกฉาย (ที่ญี่ปุ่น) ในเดือนนี้วันที่ 9 เริ่มเป็นตอนแรก

ผู้ที่อยู่เบื้องหลังที่สำคัญน่าจะเป็นผู้เขียนบทที่เป็นทีมเดียวกันที่ไม่มีใครร่ำเรียนมาทางแพทย์สักคนในทั้ง 3 ภาคประกอบด้วย นะกะโซโนะ มิโฮะ (中園 ミホ) เทระดะ โทชิโอะ (寺田 敏雄) ฮะยะชิ มะโคะโตะ (林 誠人) และ ทะเคอิ อะยะ (武井彩)

Doctor X จึงเป็นหนังชุดฯ ที่มิใช่สำหรับหมอหรือวงการแพทย์แต่เพียงลำพัง หากแต่เหมาะสำหรับผู้ที่หวังจะเป็น “มืออาชีพ” ในด้านต่างๆ ได้ใช้เป็นข้อคิดเพื่อค้นหาอุดมการณ์ของตนเอง

ชีวิตคนนั้น “แก่” หรือไม่นั้นไม่ได้วัดที่ตัวเลขอายุ หากแต่อยู่ที่ว่าได้ละทิ้งอุดมการณ์ที่มีอยู่ไปแล้วหรือไม่ต่างหาก

ขอต้อนรับการกลับมาใหม่ ไดม่อนกุง โยโคโซะ
มาดหมอไดม่อน มิชิโกะ ชุดสุดเริดกับกระเป๋า Prada (ซ้าย) และภาพโฆษณาถ่ายแบบที่สุดเปรี้ยว (ขวา)
ที่มา : กูเกิ้ล
เมื่อต้องไปสัมภาษณ์งานกับหัวหน้าแผนกศัลยกรรมจนถูกเข้าใจผิดว่าเป็น “เด็ก” ของมาม่าซังคนใดมาพบ
ที่มา : กูเกิ้ล
โฆษณาภาคสองที่ห้างย่านกิงซะในกรุงโตเกียว
ที่มา : ทีวีอาซาฮี

http://www.tv-asahi.co.jp/doctor-x/story/0001/ ลิงก์หนังตัวอย่างภาค 3

อ่านย้อนหลัง

ผู้หญิงที่ผมรู้จัก (9)

ผู้หญิงที่ผมรู้จัก (8)

ผู้หญิงที่ผมรู้จัก (7)

ผู้หญิงที่ผมรู้จัก (6)

ผู้หญิงที่ผมรู้จัก (5)

ผู้หญิงที่ผมรู้จัก (4)

ผู้หญิงที่ผมรู้จัก (3)

ผู้หญิงที่ผมรู้จัก (2)

ผู้หญิงที่ผมรู้จัก (1)

กำลังโหลดความคิดเห็น