ผู้หญิงที่ผมรู้จักและอยากจะแนะนำในสัปดาห์นี้หลายคนอาจรู้จักจากภาพยนตร์หรือหนังชุดทางโทรทัศน์ เธอไม่เคยร้องเพลง ความเด่นของเธอน่าจะมาจากผลงานการแสดงล้วนๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบทของ ไดม่อน มิชิโกะ (大門 未知子) หมอผ่าตัดที่ไม่เคยพลาด ในหนังชุดทางโทรทัศน์ Doctor X ที่กำลังฉายภาคแรกอยู่ในเมืองไทยขณะนี้
โยเนะกุระ เรียวโกะ (米倉涼子) มิใช่สาวน้อยเฉกเช่นไอดอลทั่วไป หากแต่เป็นสาววัยกลางคน (39 ปี) จากเมืองโยโกฮะมะ ที่เกิดในเดือนที่ร้อนที่สุด (ส.ค.) พ่อแม่จึงตั้งชื่อให้ว่า เรียวโกะ (涼子) หรือ เด็กเย็น ผู้เริ่มต้นจากการฝึกบัลเลต์ตั้งแต่อายุ 5 ปีและน่าจะเข้าสู่วงการบัลเลต์ แต่กลับเข้าสู่วงการบันเทิงในฐานะนางแบบในหนังสือนิตยสารแฟชั่นสตรี สาวโฆษณาเบียร์ นางแบบชุดว่ายน้ำ ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1990
เธอใช้เวลาประมาณ 10 ปีไต่ขึ้นมาสู่บทนางเอก บทที่ทำให้เธอโด่งดังเป็นพลุแตกก็คือบทตำรวจในหนังชุดเรื่อง โคโชนิน (交渉人) นักสืบภาษีใน นะซะเกะ โนะ โอนนะ (ナサケの女 〜国税局査察官) แต่ที่แหวกแนวมากที่สุดก็คือบทหมอผ่าตัดที่ไม่เคยพลาดใน Doctor X และบทนักเรียนม.ปลายอายุ 35 ใน ซังจูโกะไซ โนะ โคโคเซ (35歳の高校生)
ถ้าเธอยังขายความสวยจากเรือนร่างในฐานะนางแบบก็คงจะไปได้ไม่นานและมาไม่ถึงจุดนี้เพราะจะมีที่อึ๋มกว่า สาวและสวยกว่า เข้ามาเป็นคู่แข่งอยู่ตลอดเวลา ความสามารถ+ความสวยต่างหากที่ทำให้เธอสามารถก้าวมาถึงจุดนี้ได้ หากเป็นหนังชุดฯ ไทยก็คงจะขายเธอเป็นนางร้ายดาวยั่วที่เนื้อเรื่องจะวนเวียนไม่พ้นหว่างขาไปสักเท่าใด
บทตำรวจนักเจรจา นักสืบคนหนีภาษีของกรมสรรพากร (国税局査察官) จึงเป็นเนื้อเรื่องที่แตกต่างโดยสิ้นเชิงจากหนังชุดฯ ไทยก็จริง แต่ก็ยังไม่แหวกแนวโดดเด่นเท่ากับบทนักเรียน ม.ปลายอายุ 35 หรือหมอผ่าตัดที่กล้าประกาศกับคนไข้หรือผู้อื่นว่า (เพราะ) ตนเองไม่เคยพลาด วลี “วาตะชิ ชิดไป ชิไนโนะเดะ” (私、失敗しないので) หรือ ไม่ทำ “อิตะ ชิมะเซ็ง” (いたしません) จึงเป็นเครื่องหมายการค้าของเธอ-ไดม่อน มิชิโกะ และกลายเป็นคำพูดที่ฮิตติดปากในเวลาต่อมา
Doctor X ภาคแรกสร้างขึ้นในปี 2012 ที่ผ่านมาเพียง 8 ตอนโดยมีเนื้อเรื่องอยู่ที่หมอสาว ไดม่อน มิชิโกะ ที่แปลกแยกกับสังคม ไม่ชอบอยู่ในกฎระเบียบ ไม่แคร์สายตาของผู้อื่น อาศัยความสามารถ+ความเป็นมืออาชีพเป็นอาวุธสำคัญเพื่อทำมาหากินเป็นหมออิสระที่ไม่ใช่หมอประจำโรงพยาบาล รับงานเป็นจ๊อบ เงื่อนไขการจ้างงานของเธอก็คือ อะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกับการใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหมอเธอจะ “ไม่ทำ” (いたしません) ขณะที่แม้จะเป็นอัฉริยะด้านการผ่าตัดแต่ก็ยังมีความเป็น “คน” นิยมเสพสุขเที่ยวกลางคืน อ่อนหัดเมื่อเวลาเล่นการพนัน และชอบของสวยงามเหมือนสาวทั่วไป เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ในแต่ละฉากจึงถูกออกแบบอย่างสุดเริด
แก่นของเรื่อง Doctor X จึงน่าจะอยู่ที่ความเป็นมืออาชีพกับผลประโยชน์ของคนไข้ ที่ไดม่อน มิชิโกะ ในฐานะหมออิสระที่ดูไปแล้วเหมือนมือปืนรับจ้างที่น่าจะยึดเอาประโยชน์ส่วนตนมากกว่าเพราะไม่มีเงินเดือนประจำนั้น แต่กลับสามารถสร้างสมดุลได้ดีกว่าหมอตำแหน่งใหญ่ๆประจำโรงพยาบาลที่ถูกยกย่องนักว่าเป็นนักบุญในเสื้อกาวน์ แต่ไม่มีความเป็นมืออาชีพและมิได้ยึดเอาประโยชน์ของคนไข้เป็นที่ตั้ง ไดม่อน มิชิโกะ จึงไม่กลัวเกรงที่จะต้องตกงานหรือลังเลที่จะต้องโต้แย้งกับหมอหน้าไหน รังเกียจระบบที่กดหัวคนที่มีความคิดริเริ่มที่มิได้คำนึงถึงประโยชน์ของคนไข้เป็นที่ตั้ง
ไดม่อน มิชิโกะ จึงกลายเป็นประหนึ่ง หมาป่าผู้เดียวดายในฝูงแกะที่ไม่กล้าทำอะไรแปลกแยก ทำให้ขาดความริเริ่ม ขาดความรับผิดชอบ ด้วยคุณลักษณะของหมอเช่นเธอจึงไม่แตกต่างอะไรกับตัวละครในบทประพันธ์ของโกวเล้ง ไม่ว่าจะเป็น จับอิ้ดนึ้ง ที่เป็นยอดขุนโจรผู้เดียวดายเฉกเช่นหมาป่านักล่าในสายตาของสังคม หรือลี้คิมฮวง มีดบินที่ไม่เคยพลาดเป้า ที่มีผู้อยากลองของอยู่เสมอ หรือเฉกเช่นเล็กเซี่ยวหงส์ เสเพลผู้ยึดถือความถูกต้องที่มีดัชนีสัมพันธ์จิตใจเป็นอาวุธสร้างชื่อ แต่ทั้งหมดก็ล้วนเป็นมืออาชีพ อยู่อย่างเดียวดาย แต่เป็นผู้กระทำในสิ่งที่ผู้กล้าเท่านั้นที่พึงกระทำนั่นคือกล้าที่ทำในสิ่งที่ตนเองเชื่อว่าถูกต้องแม้จะต้องแตกต่างหรือต้องแตกแยกจากสังคมก็ตาม
ความสามารถเป็นมือผ่าตัดอัจฉริยะที่ไม่เคยผิดพลาดของ ไดม่อน มิชิโกะ นั้นไม่ปรากฏอย่างชัดแจ้งว่าได้มาได้อย่างไรและเกี่ยวพันกับ Doctor X อย่างไรทั้งสองภาคที่ผ่านมาก็ยังไม่ได้มีการเฉลยเอาไว้แต่อย่างใด เฉกเช่นเดียวกับลี้คิมฮวง มีดบินที่ไม่เคยพลาดเป้า ตัวละครของโกวเล้งที่ล้วนมิได้มีที่มาอย่างชัดแจ้งว่าได้ฝึกปรือฝีมือมาได้อย่างไร แต่ก็เป็นจุดที่ทำให้ถูกลองของอยู่ตลอดเวลาเพราะจะมีผู้ไม่เชื่อว่าจะมีหมอที่ไม่เคยพลาดหรือมีดบินที่ไม่เคยพลาดเป้าอยู่ในโลกนี้
ความโดดเด่นของ Doctor X ในภาคแรกจึงทำให้เกิดภาคสองติดตามมาในปี 2013 อีก 9 ตอนและน่าแปลกที่สามารถทำยอดผู้ชมได้สูงกว่าภาคแรก (ร้อยละ 19 และ 23 ในภาคแรกและสองตามลำดับ) ด้วยความนิยมแบบพุ่งกระฉูดนี้เองจึงทำให้มีภาคสามเกิดขึ้นที่จะนำออกฉาย (ที่ญี่ปุ่น) ในเดือนนี้วันที่ 9 เริ่มเป็นตอนแรก
ผู้ที่อยู่เบื้องหลังที่สำคัญน่าจะเป็นผู้เขียนบทที่เป็นทีมเดียวกันที่ไม่มีใครร่ำเรียนมาทางแพทย์สักคนในทั้ง 3 ภาคประกอบด้วย นะกะโซโนะ มิโฮะ (中園 ミホ) เทระดะ โทชิโอะ (寺田 敏雄) ฮะยะชิ มะโคะโตะ (林 誠人) และ ทะเคอิ อะยะ (武井彩)
Doctor X จึงเป็นหนังชุดฯ ที่มิใช่สำหรับหมอหรือวงการแพทย์แต่เพียงลำพัง หากแต่เหมาะสำหรับผู้ที่หวังจะเป็น “มืออาชีพ” ในด้านต่างๆ ได้ใช้เป็นข้อคิดเพื่อค้นหาอุดมการณ์ของตนเอง
ชีวิตคนนั้น “แก่” หรือไม่นั้นไม่ได้วัดที่ตัวเลขอายุ หากแต่อยู่ที่ว่าได้ละทิ้งอุดมการณ์ที่มีอยู่ไปแล้วหรือไม่ต่างหาก
ขอต้อนรับการกลับมาใหม่ ไดม่อนกุง โยโคโซะ
ที่มา : กูเกิ้ล
ที่มา : กูเกิ้ล
ที่มา : ทีวีอาซาฮี
http://www.tv-asahi.co.jp/doctor-x/story/0001/ ลิงก์หนังตัวอย่างภาค 3
อ่านย้อนหลัง
ผู้หญิงที่ผมรู้จัก (9)
ผู้หญิงที่ผมรู้จัก (8)
ผู้หญิงที่ผมรู้จัก (7)
ผู้หญิงที่ผมรู้จัก (6)
ผู้หญิงที่ผมรู้จัก (5)
ผู้หญิงที่ผมรู้จัก (4)
ผู้หญิงที่ผมรู้จัก (3)
ผู้หญิงที่ผมรู้จัก (2)
ผู้หญิงที่ผมรู้จัก (1)
โยเนะกุระ เรียวโกะ (米倉涼子) มิใช่สาวน้อยเฉกเช่นไอดอลทั่วไป หากแต่เป็นสาววัยกลางคน (39 ปี) จากเมืองโยโกฮะมะ ที่เกิดในเดือนที่ร้อนที่สุด (ส.ค.) พ่อแม่จึงตั้งชื่อให้ว่า เรียวโกะ (涼子) หรือ เด็กเย็น ผู้เริ่มต้นจากการฝึกบัลเลต์ตั้งแต่อายุ 5 ปีและน่าจะเข้าสู่วงการบัลเลต์ แต่กลับเข้าสู่วงการบันเทิงในฐานะนางแบบในหนังสือนิตยสารแฟชั่นสตรี สาวโฆษณาเบียร์ นางแบบชุดว่ายน้ำ ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1990
เธอใช้เวลาประมาณ 10 ปีไต่ขึ้นมาสู่บทนางเอก บทที่ทำให้เธอโด่งดังเป็นพลุแตกก็คือบทตำรวจในหนังชุดเรื่อง โคโชนิน (交渉人) นักสืบภาษีใน นะซะเกะ โนะ โอนนะ (ナサケの女 〜国税局査察官) แต่ที่แหวกแนวมากที่สุดก็คือบทหมอผ่าตัดที่ไม่เคยพลาดใน Doctor X และบทนักเรียนม.ปลายอายุ 35 ใน ซังจูโกะไซ โนะ โคโคเซ (35歳の高校生)
ถ้าเธอยังขายความสวยจากเรือนร่างในฐานะนางแบบก็คงจะไปได้ไม่นานและมาไม่ถึงจุดนี้เพราะจะมีที่อึ๋มกว่า สาวและสวยกว่า เข้ามาเป็นคู่แข่งอยู่ตลอดเวลา ความสามารถ+ความสวยต่างหากที่ทำให้เธอสามารถก้าวมาถึงจุดนี้ได้ หากเป็นหนังชุดฯ ไทยก็คงจะขายเธอเป็นนางร้ายดาวยั่วที่เนื้อเรื่องจะวนเวียนไม่พ้นหว่างขาไปสักเท่าใด
บทตำรวจนักเจรจา นักสืบคนหนีภาษีของกรมสรรพากร (国税局査察官) จึงเป็นเนื้อเรื่องที่แตกต่างโดยสิ้นเชิงจากหนังชุดฯ ไทยก็จริง แต่ก็ยังไม่แหวกแนวโดดเด่นเท่ากับบทนักเรียน ม.ปลายอายุ 35 หรือหมอผ่าตัดที่กล้าประกาศกับคนไข้หรือผู้อื่นว่า (เพราะ) ตนเองไม่เคยพลาด วลี “วาตะชิ ชิดไป ชิไนโนะเดะ” (私、失敗しないので) หรือ ไม่ทำ “อิตะ ชิมะเซ็ง” (いたしません) จึงเป็นเครื่องหมายการค้าของเธอ-ไดม่อน มิชิโกะ และกลายเป็นคำพูดที่ฮิตติดปากในเวลาต่อมา
Doctor X ภาคแรกสร้างขึ้นในปี 2012 ที่ผ่านมาเพียง 8 ตอนโดยมีเนื้อเรื่องอยู่ที่หมอสาว ไดม่อน มิชิโกะ ที่แปลกแยกกับสังคม ไม่ชอบอยู่ในกฎระเบียบ ไม่แคร์สายตาของผู้อื่น อาศัยความสามารถ+ความเป็นมืออาชีพเป็นอาวุธสำคัญเพื่อทำมาหากินเป็นหมออิสระที่ไม่ใช่หมอประจำโรงพยาบาล รับงานเป็นจ๊อบ เงื่อนไขการจ้างงานของเธอก็คือ อะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกับการใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหมอเธอจะ “ไม่ทำ” (いたしません) ขณะที่แม้จะเป็นอัฉริยะด้านการผ่าตัดแต่ก็ยังมีความเป็น “คน” นิยมเสพสุขเที่ยวกลางคืน อ่อนหัดเมื่อเวลาเล่นการพนัน และชอบของสวยงามเหมือนสาวทั่วไป เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ในแต่ละฉากจึงถูกออกแบบอย่างสุดเริด
แก่นของเรื่อง Doctor X จึงน่าจะอยู่ที่ความเป็นมืออาชีพกับผลประโยชน์ของคนไข้ ที่ไดม่อน มิชิโกะ ในฐานะหมออิสระที่ดูไปแล้วเหมือนมือปืนรับจ้างที่น่าจะยึดเอาประโยชน์ส่วนตนมากกว่าเพราะไม่มีเงินเดือนประจำนั้น แต่กลับสามารถสร้างสมดุลได้ดีกว่าหมอตำแหน่งใหญ่ๆประจำโรงพยาบาลที่ถูกยกย่องนักว่าเป็นนักบุญในเสื้อกาวน์ แต่ไม่มีความเป็นมืออาชีพและมิได้ยึดเอาประโยชน์ของคนไข้เป็นที่ตั้ง ไดม่อน มิชิโกะ จึงไม่กลัวเกรงที่จะต้องตกงานหรือลังเลที่จะต้องโต้แย้งกับหมอหน้าไหน รังเกียจระบบที่กดหัวคนที่มีความคิดริเริ่มที่มิได้คำนึงถึงประโยชน์ของคนไข้เป็นที่ตั้ง
ไดม่อน มิชิโกะ จึงกลายเป็นประหนึ่ง หมาป่าผู้เดียวดายในฝูงแกะที่ไม่กล้าทำอะไรแปลกแยก ทำให้ขาดความริเริ่ม ขาดความรับผิดชอบ ด้วยคุณลักษณะของหมอเช่นเธอจึงไม่แตกต่างอะไรกับตัวละครในบทประพันธ์ของโกวเล้ง ไม่ว่าจะเป็น จับอิ้ดนึ้ง ที่เป็นยอดขุนโจรผู้เดียวดายเฉกเช่นหมาป่านักล่าในสายตาของสังคม หรือลี้คิมฮวง มีดบินที่ไม่เคยพลาดเป้า ที่มีผู้อยากลองของอยู่เสมอ หรือเฉกเช่นเล็กเซี่ยวหงส์ เสเพลผู้ยึดถือความถูกต้องที่มีดัชนีสัมพันธ์จิตใจเป็นอาวุธสร้างชื่อ แต่ทั้งหมดก็ล้วนเป็นมืออาชีพ อยู่อย่างเดียวดาย แต่เป็นผู้กระทำในสิ่งที่ผู้กล้าเท่านั้นที่พึงกระทำนั่นคือกล้าที่ทำในสิ่งที่ตนเองเชื่อว่าถูกต้องแม้จะต้องแตกต่างหรือต้องแตกแยกจากสังคมก็ตาม
ความสามารถเป็นมือผ่าตัดอัจฉริยะที่ไม่เคยผิดพลาดของ ไดม่อน มิชิโกะ นั้นไม่ปรากฏอย่างชัดแจ้งว่าได้มาได้อย่างไรและเกี่ยวพันกับ Doctor X อย่างไรทั้งสองภาคที่ผ่านมาก็ยังไม่ได้มีการเฉลยเอาไว้แต่อย่างใด เฉกเช่นเดียวกับลี้คิมฮวง มีดบินที่ไม่เคยพลาดเป้า ตัวละครของโกวเล้งที่ล้วนมิได้มีที่มาอย่างชัดแจ้งว่าได้ฝึกปรือฝีมือมาได้อย่างไร แต่ก็เป็นจุดที่ทำให้ถูกลองของอยู่ตลอดเวลาเพราะจะมีผู้ไม่เชื่อว่าจะมีหมอที่ไม่เคยพลาดหรือมีดบินที่ไม่เคยพลาดเป้าอยู่ในโลกนี้
ความโดดเด่นของ Doctor X ในภาคแรกจึงทำให้เกิดภาคสองติดตามมาในปี 2013 อีก 9 ตอนและน่าแปลกที่สามารถทำยอดผู้ชมได้สูงกว่าภาคแรก (ร้อยละ 19 และ 23 ในภาคแรกและสองตามลำดับ) ด้วยความนิยมแบบพุ่งกระฉูดนี้เองจึงทำให้มีภาคสามเกิดขึ้นที่จะนำออกฉาย (ที่ญี่ปุ่น) ในเดือนนี้วันที่ 9 เริ่มเป็นตอนแรก
ผู้ที่อยู่เบื้องหลังที่สำคัญน่าจะเป็นผู้เขียนบทที่เป็นทีมเดียวกันที่ไม่มีใครร่ำเรียนมาทางแพทย์สักคนในทั้ง 3 ภาคประกอบด้วย นะกะโซโนะ มิโฮะ (中園 ミホ) เทระดะ โทชิโอะ (寺田 敏雄) ฮะยะชิ มะโคะโตะ (林 誠人) และ ทะเคอิ อะยะ (武井彩)
Doctor X จึงเป็นหนังชุดฯ ที่มิใช่สำหรับหมอหรือวงการแพทย์แต่เพียงลำพัง หากแต่เหมาะสำหรับผู้ที่หวังจะเป็น “มืออาชีพ” ในด้านต่างๆ ได้ใช้เป็นข้อคิดเพื่อค้นหาอุดมการณ์ของตนเอง
ชีวิตคนนั้น “แก่” หรือไม่นั้นไม่ได้วัดที่ตัวเลขอายุ หากแต่อยู่ที่ว่าได้ละทิ้งอุดมการณ์ที่มีอยู่ไปแล้วหรือไม่ต่างหาก
ขอต้อนรับการกลับมาใหม่ ไดม่อนกุง โยโคโซะ
ที่มา : กูเกิ้ล
ที่มา : กูเกิ้ล
ที่มา : ทีวีอาซาฮี
http://www.tv-asahi.co.jp/doctor-x/story/0001/ ลิงก์หนังตัวอย่างภาค 3
อ่านย้อนหลัง
ผู้หญิงที่ผมรู้จัก (9)
ผู้หญิงที่ผมรู้จัก (8)
ผู้หญิงที่ผมรู้จัก (7)
ผู้หญิงที่ผมรู้จัก (6)
ผู้หญิงที่ผมรู้จัก (5)
ผู้หญิงที่ผมรู้จัก (4)
ผู้หญิงที่ผมรู้จัก (3)
ผู้หญิงที่ผมรู้จัก (2)
ผู้หญิงที่ผมรู้จัก (1)