วานนี้ (7ต.ค.) ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมร่วม ระหว่างคณะรัฐมนตรี(ครม.)และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. เป็นประธาน ว่า ครม. มีมติอนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตีเสนอรับโอน นายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา มาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ ครม.มีมติอนุมัติตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เสนอแต่งตั้ง นายดิสทัต โหตระกิตย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ครม. มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงแรงงาน เสนอการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 1 ราย คือนายสุรเดช วลีอิทธิกุล ให้พ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาด้านประสิทธิภาพ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงแรงงาน
ครม.ยังมีมติเห็นชอบ ตามที่สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เสนอแต่งตั้งบุคคลเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม จำนวน 12 คน ดังนี้ 1. ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล 2. นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ 3. นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ 4. นายมนัส แจ่มเวหา 5. รองศาสตราจารย์ สมภพ มานะรังสรรค์ 6. นายบุญทักษ์ หวังเจริญ 7. นายมานิต รัตนสุวรรณ ผู้แทนองค์การเอกชน 8. นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ผู้แทนองค์การเอกชน 9. นายศิริชัย เลิศศิริมิตร ผู้แทนองค์การเอกชน 10. นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ผู้แทนองค์การเอกชนซึ่งประกอบการในภูมิภาค 11. นายบุญธรรม ทิพย์ประสงค์ ผู้แทนองค์การเอกชนซึ่งประกอบการในภูมิภาค 12. นางศมน ชคัตธาดากุล ผู้แทนองค์การเอกชนซึ่งประกอบการในภูมิภาค ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 57
** ห้ามขรก.การเมืองนั่งบอร์ดรสก.
รอ.นพ.ยงยุทธ กล่าวด้วยว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เสนอครม.เห็นชอบในหลักการให้เป็นไปตามนโยบาบของครม. ที่แถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เกี่ยวกับการบริหาร การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดิน ที่มีธรรมภิบาลการป้องกันและปราบปรามการุจริตประพฤติมิชอบ และการมีผลประโยชน์ทับซ้อน ทั้งในภาครัฐทุกระดับ โดยเห็นชอบในหลักการ ให้ข้าราชการการเมือง อาทิ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เลขานุการนายกรัฐมตรี เลขานุการรัฐมนตรี ตาม พ.ร.บ.ระเบียบราชการการเมือง พ.ศ.2535 และกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ต้องไม่กระทำการใดๆ ที่ขัดกันแห่งผลประโยชน์ ดังนี้ คือต้องไม่ดำรงตำแหน่งกรรมการ หรือที่ปรึกษาของรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือองค์กรอื่นๆของรัฐ เว้นแต่การเป็นกรรมการของทางราชการ และต้องไม่เป็นคู่สัญญา หรือมีผลประโยชน์ใดๆ ขัดหรือแย้งกับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรมหาชน หรือองค์กรอื่นของรัฐ
ทั้งนี้ ได้เห็นชอบในหลักการให้เแก้ไขความในข้อ 11 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี พ.ศ. 2546 เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ ครม.มีมติอนุมัติตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เสนอแต่งตั้ง นายดิสทัต โหตระกิตย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ครม. มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงแรงงาน เสนอการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 1 ราย คือนายสุรเดช วลีอิทธิกุล ให้พ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาด้านประสิทธิภาพ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงแรงงาน
ครม.ยังมีมติเห็นชอบ ตามที่สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เสนอแต่งตั้งบุคคลเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม จำนวน 12 คน ดังนี้ 1. ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล 2. นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ 3. นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ 4. นายมนัส แจ่มเวหา 5. รองศาสตราจารย์ สมภพ มานะรังสรรค์ 6. นายบุญทักษ์ หวังเจริญ 7. นายมานิต รัตนสุวรรณ ผู้แทนองค์การเอกชน 8. นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ผู้แทนองค์การเอกชน 9. นายศิริชัย เลิศศิริมิตร ผู้แทนองค์การเอกชน 10. นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ผู้แทนองค์การเอกชนซึ่งประกอบการในภูมิภาค 11. นายบุญธรรม ทิพย์ประสงค์ ผู้แทนองค์การเอกชนซึ่งประกอบการในภูมิภาค 12. นางศมน ชคัตธาดากุล ผู้แทนองค์การเอกชนซึ่งประกอบการในภูมิภาค ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 57
** ห้ามขรก.การเมืองนั่งบอร์ดรสก.
รอ.นพ.ยงยุทธ กล่าวด้วยว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เสนอครม.เห็นชอบในหลักการให้เป็นไปตามนโยบาบของครม. ที่แถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เกี่ยวกับการบริหาร การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดิน ที่มีธรรมภิบาลการป้องกันและปราบปรามการุจริตประพฤติมิชอบ และการมีผลประโยชน์ทับซ้อน ทั้งในภาครัฐทุกระดับ โดยเห็นชอบในหลักการ ให้ข้าราชการการเมือง อาทิ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เลขานุการนายกรัฐมตรี เลขานุการรัฐมนตรี ตาม พ.ร.บ.ระเบียบราชการการเมือง พ.ศ.2535 และกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ต้องไม่กระทำการใดๆ ที่ขัดกันแห่งผลประโยชน์ ดังนี้ คือต้องไม่ดำรงตำแหน่งกรรมการ หรือที่ปรึกษาของรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือองค์กรอื่นๆของรัฐ เว้นแต่การเป็นกรรมการของทางราชการ และต้องไม่เป็นคู่สัญญา หรือมีผลประโยชน์ใดๆ ขัดหรือแย้งกับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรมหาชน หรือองค์กรอื่นของรัฐ
ทั้งนี้ ได้เห็นชอบในหลักการให้เแก้ไขความในข้อ 11 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี พ.ศ. 2546 เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการดังกล่าวด้วย