ASTVผู้จัดการรายวัน - แบงก์ชาติชี้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เริ่มชะลอตัว มองสถานการณ์หนี้เสียไม่น่าห่วง หลังทิศทางการบริโภคดีขึ้น แบงก์กันสำรองสูง และแบงก์ส่วนใหญ่พยายามช่วยลูกค้าให้ผ่อนได้ในยามราคารถมือสองตก เพื่อดูแลไม่ให้ขาดทุน ขณะเดียวกันหลายแบงก์ปรับกลยุทธ์หาลูกค้ากลุ่มอื่นทดแทน มั่นใจสินเชื่อรวมไม่หดรุนแรง
นายรณดล นุ่มนนท์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เริ่มชะลอตัวลงบ้าง แต่ไม่ได้น่าเป็นห่วง เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)จากสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ไม่มากนัก ขณะเดียวกันระยะต่อไปทิศทางการบริโภคทยอยดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจจะช่วยให้ทิศทางสินเชื่อประเภทนี้ปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งธนาคารพาณิชย์มีการกันสำรองหนี้สูญเป็นอย่างดี ดังนั้น แม้สินเชื่อประเภทนี้หดตัวบ้างก็ไม่ได้กระทบฐานะหรือผลการดำเนินธุรกิจ อีกทั้งธนาคารเองปล่อยสินเชื่อหลากหลายและปรับกลยุทธ์หาลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้สินเชื่อโดยรวมไม่ได้หดตัวถึงขั้นรุนแรง
ทั้งนี้ จากการสำรวจ พบว่า การปล่อยสินเชื่อรถยนต์ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก และระดับเอ็นพีแอลของสินเชื่อประเภทนี้ก็ไม่ได้สูงจนเป็นอันตราย แม้โครงการรถยนต์คันแรกออกมา แต่ผู้ซื้อสามารถนำเงินภาษีได้คืนมาผ่อนรถต่อไปได้ ขณะเดียวกันธนาคารเองพยายามดูแลลูกหนี้กลุ่มนี้ค่อนข้างมาก เพราะเกรงว่าหากยึดรถมาอาจขาดทุนได้ เนื่องจากราคารถยนต์มือสองตกลงมาก จึงจะเห็นการยึดรถยนต์ในกรณีที่ลูกหนี้ไม่ไหวจริงๆ มากกว่า
สำหรับหลักเกณฑ์การกันสำรองหนี้เสียของสินเชื่อรถยนต์ ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงเป็นหลัก เช่น ยี่ห้อรถยนต์ที่ได้รับความนิยมในท้องตลาด ราคาขายรถมือสองอาจจะเปลี่ยนแปลงน้อย ทำให้การกันสำรองอาจไม่สูง ในทางกลับกันยี่ห้อรถยนต์ไม่ได้รับความนิยมในท้องตลาด เมื่อยึดรถมาราคาอาจจะลดลง ทำให้ต้องกันสำรองมากขึ้น เป็นต้น
อีกทั้งการกันสำรองคำนวณส่วนที่เหลือจากราคาขาย เช่น ขายรถยนต์ได้ราคาขาย 50% จะต้องกันสำรอง 50% หรือถ้าขายได้ 40% ก็ต้องกันสำรอง 60% เป็นต้น นอกจากนี้ แยกตามประเภทรถในแต่ละแห่งด้วย เช่น รถใหม่มือหนึ่งในกรุงเทพ รถใหม่มือหนึ่งในต่างจังหวัด รถมือสองในกรุงเทพฯ หรือรถมือสองในต่างจังหวัด
ก่อนหน้านี้ นายอานุภาพ คูวินิชกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน สายนโยบายสถาบันการเงิน ธปท.กล่าวว่า ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งเริ่มมีปัญหาการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสอง หลังจากราคารถยนต์มือสองลดลง 20-30%ผลจากโครงการรถยนต์คันแรก ทำให้เมื่อยึดรถมาได้ แต่ขายในช่วงราคาลดลงส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งประสบปัญหาขาดทุน จึงเริ่มเห็นธนาคารหลายแห่งชะลอการปล่อยสินเชื่อประเภทนี้ อย่างไรก็ตาม สินเชื่อค้างชำระหนี้ 1-3 เดือน (Special Mention Loan หรือ SM) ของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ทั้งจากปัญหาโครงการรถยนต์คันแรกและรถยนต์มือสองยังไม่มากจนกลายเป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เพราะธนาคารพาณิชย์แก้ไขปัญหาได้เร็วด้วยการยึดรถและนำขายออกไป
ทั้งนี้ สินเชื่อค้างชำระหนี้ 1-3 เดือนมียอดคงค้างทั้งสิ้น 2.98 แสนล้านบาท ในไตรมาสสองของปีนี้ เพิ่มขึ้น 9.6 พันล้านบาท หรือมีสัดส่วน SM อยู่ที่ 2.4%ของสินเชื่อรวม ถือว่าใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน ขณะที่สัดส่วน NPL อยู่ที่ 2.3% อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งหลังของปีเศรษฐกิจน่าจะฟื้นตัวดีขึ้นและธนาคารพาณิชย์พาณิชย์ดูแลลูกหนี้ได้ดี ทำให้แนวโน้ม SMเพิ่มขึ้นไม่มากนักเทียบกับปัจจุบันและขณะนี้ปัญหา NPL ไม่น่าตกใจ
ปัจจุบันธนาคารพาณิชย์มีการกันสำรองค่อนข้างมากรองรับคุณภาพสินเชื่อได้พอสมควร จึงไม่มีความจำเป็นกันสำรองเพิ่มขึ้น ซึ่งเฉพาะไตรมาสสอง ระบบธนาคารพาณิชย์กันสำรอง 8.6 พันล้านบาท ทำให้เงินกันสำรองทั้งระบบ 4 แสนล้านบาท ซึ่งเงินสำรองส่วนเกินอยู่ที่ 1.6 แสนล้านบาท
นายรณดล นุ่มนนท์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เริ่มชะลอตัวลงบ้าง แต่ไม่ได้น่าเป็นห่วง เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)จากสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ไม่มากนัก ขณะเดียวกันระยะต่อไปทิศทางการบริโภคทยอยดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจจะช่วยให้ทิศทางสินเชื่อประเภทนี้ปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งธนาคารพาณิชย์มีการกันสำรองหนี้สูญเป็นอย่างดี ดังนั้น แม้สินเชื่อประเภทนี้หดตัวบ้างก็ไม่ได้กระทบฐานะหรือผลการดำเนินธุรกิจ อีกทั้งธนาคารเองปล่อยสินเชื่อหลากหลายและปรับกลยุทธ์หาลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้สินเชื่อโดยรวมไม่ได้หดตัวถึงขั้นรุนแรง
ทั้งนี้ จากการสำรวจ พบว่า การปล่อยสินเชื่อรถยนต์ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก และระดับเอ็นพีแอลของสินเชื่อประเภทนี้ก็ไม่ได้สูงจนเป็นอันตราย แม้โครงการรถยนต์คันแรกออกมา แต่ผู้ซื้อสามารถนำเงินภาษีได้คืนมาผ่อนรถต่อไปได้ ขณะเดียวกันธนาคารเองพยายามดูแลลูกหนี้กลุ่มนี้ค่อนข้างมาก เพราะเกรงว่าหากยึดรถมาอาจขาดทุนได้ เนื่องจากราคารถยนต์มือสองตกลงมาก จึงจะเห็นการยึดรถยนต์ในกรณีที่ลูกหนี้ไม่ไหวจริงๆ มากกว่า
สำหรับหลักเกณฑ์การกันสำรองหนี้เสียของสินเชื่อรถยนต์ ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงเป็นหลัก เช่น ยี่ห้อรถยนต์ที่ได้รับความนิยมในท้องตลาด ราคาขายรถมือสองอาจจะเปลี่ยนแปลงน้อย ทำให้การกันสำรองอาจไม่สูง ในทางกลับกันยี่ห้อรถยนต์ไม่ได้รับความนิยมในท้องตลาด เมื่อยึดรถมาราคาอาจจะลดลง ทำให้ต้องกันสำรองมากขึ้น เป็นต้น
อีกทั้งการกันสำรองคำนวณส่วนที่เหลือจากราคาขาย เช่น ขายรถยนต์ได้ราคาขาย 50% จะต้องกันสำรอง 50% หรือถ้าขายได้ 40% ก็ต้องกันสำรอง 60% เป็นต้น นอกจากนี้ แยกตามประเภทรถในแต่ละแห่งด้วย เช่น รถใหม่มือหนึ่งในกรุงเทพ รถใหม่มือหนึ่งในต่างจังหวัด รถมือสองในกรุงเทพฯ หรือรถมือสองในต่างจังหวัด
ก่อนหน้านี้ นายอานุภาพ คูวินิชกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน สายนโยบายสถาบันการเงิน ธปท.กล่าวว่า ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งเริ่มมีปัญหาการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสอง หลังจากราคารถยนต์มือสองลดลง 20-30%ผลจากโครงการรถยนต์คันแรก ทำให้เมื่อยึดรถมาได้ แต่ขายในช่วงราคาลดลงส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งประสบปัญหาขาดทุน จึงเริ่มเห็นธนาคารหลายแห่งชะลอการปล่อยสินเชื่อประเภทนี้ อย่างไรก็ตาม สินเชื่อค้างชำระหนี้ 1-3 เดือน (Special Mention Loan หรือ SM) ของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ทั้งจากปัญหาโครงการรถยนต์คันแรกและรถยนต์มือสองยังไม่มากจนกลายเป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เพราะธนาคารพาณิชย์แก้ไขปัญหาได้เร็วด้วยการยึดรถและนำขายออกไป
ทั้งนี้ สินเชื่อค้างชำระหนี้ 1-3 เดือนมียอดคงค้างทั้งสิ้น 2.98 แสนล้านบาท ในไตรมาสสองของปีนี้ เพิ่มขึ้น 9.6 พันล้านบาท หรือมีสัดส่วน SM อยู่ที่ 2.4%ของสินเชื่อรวม ถือว่าใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน ขณะที่สัดส่วน NPL อยู่ที่ 2.3% อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งหลังของปีเศรษฐกิจน่าจะฟื้นตัวดีขึ้นและธนาคารพาณิชย์พาณิชย์ดูแลลูกหนี้ได้ดี ทำให้แนวโน้ม SMเพิ่มขึ้นไม่มากนักเทียบกับปัจจุบันและขณะนี้ปัญหา NPL ไม่น่าตกใจ
ปัจจุบันธนาคารพาณิชย์มีการกันสำรองค่อนข้างมากรองรับคุณภาพสินเชื่อได้พอสมควร จึงไม่มีความจำเป็นกันสำรองเพิ่มขึ้น ซึ่งเฉพาะไตรมาสสอง ระบบธนาคารพาณิชย์กันสำรอง 8.6 พันล้านบาท ทำให้เงินกันสำรองทั้งระบบ 4 แสนล้านบาท ซึ่งเงินสำรองส่วนเกินอยู่ที่ 1.6 แสนล้านบาท
