รถไฟท้องถิ่นสุไหงโก-ลก-นครศรีธรรมราช ตกรางเสียหายหนักทั้งขบวน เร่งสอบเป็นอุบัติเหตุธรรมดา หรือสร้างสถานการณ์เนื่องจากหมุดยึดราง และจานรองรางถูกถอดออก พบมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 ราย
เมื่อเวลา 13.00 น.วานนี้ (18 ก.ย.) ได้เกิดเหตุรถไฟตกรางระหว่างสถานีท่าแมงลักกับสถานีจะนะ อ.จะนะ จ.สงขลา หลังเกิดเหตุตำรวจ สภ.จะนะ พร้อมหน่วยงานความมั่นคงได้เข้าตรวจสอบพบว่าอุบัติเหตุรถไฟตกรางดังกล่าวเกิดขึ้นที่บริเวณหลัก กม.ที่ 967/11 พื้นที่หมู่ 8 บ้านโคกม้า ต.บ้านนา อ.จะนะ อยู่ระหว่างสถานีท่าแมงลัก อ.เทพา กับสถานีจะนะ อ.จะนะ พบว่ารถไฟที่ตกรางเป็นขบวนรถธรรมดา ที่ 452 สุไหงโก-ลก-นครศรีธรรมราช หรือขบวนท้องถิ่น ซึ่งมีทั้งหมด 6 โบกี้และตกรางค่อนข้างรุนแรง หัวรถจักรพุ่งตกลงไปอยู่ในป่าริมทาง และลากเอาโบกี้รถไฟตกราง 5 ตู้ เหลืออยู่บนราง 1 ตู้ในจำนวนนี้มีตู้ทำการของเจ้าหน้าที่ด้วยและรางรถไฟรวมทั้งไม้หมอนได้รับความเสียหายประมาณ 300 เมตร เบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถและผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 7 คน ทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลจะนะ จากจำนวนผู้โดยสารทั้งหมดกว่า 100 คน
สำหรับรายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บประกอบด้วย ด.ต.เติมเต็ม กีตา, นายอ่าบี้ส้น หมานโหยด, นางพีรยา สวนนิ่ม, น.ส.คัทลียา สวนนิ่ม, นายศักดิ์ดา ประสิทธ์สร และน.ส.รอยนา มะหลี โดยทั้งหมดอยู่ระหว่างรอผลเอกซเรย์ ส่วน น.ส.สุวรรณา โกศัยกานนท์ ซึ่งตั้งครรภ์ประมาณ 3-4 สัปดาห์ แพทย์ได้ให้นอนพักที่โรงพยาบาลเพื่อติดตามอาการอีกระยะ
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผบก.ภ.จว.สงขลา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พบว่า บริเวณรางรถไฟตรงคอสะพานซึ่งเป็นจุดที่ทำให้รถไฟตกราง หมุดยึดรางถูกถอดออกจากไม้หมอน 10 หมอน รวม 40 ตัว และจานรองรางอีกจำนวนหนึ่ง โดยถูกถอดนำมากองไว้ที่ริมทางรถไฟ ซึ่งลักษณะเป็นการตั้งใจถอดไม่ใช่หลุดออกจากรางจากแรงสั่นสะเทือนหรือรางชำรุด
พล.ต.ต.เอกภพ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสรุปหรือยืนยันได้ว่า เหตุรถไฟตกรางในครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุธรรมดา หรือเกี่ยวกับความมั่นคงที่เป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบเชื่อมโยงกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แม้จะพบว่าหมุดยึดรางรถไฟ และจานรองรางถูกถอดออก และเป็นการจงใจถอด เพราะอาจจะเป็นการถอดของผู้ที่ต้องการนำเหล็กไปขาย เช่นเดียวกับเรื่องของความมั่นคงซึ่งยังไม่สามารถฟันธงได้ว่าเป็นการก่อเหตุของแนวร่วมเพื่อสร้างสถานการณ์หรือไม่ โดยจะมีการประชุมสรุปเหตุการณ์ร่วมกับหน่วยความมั่นคงในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่รถไฟอีกครั้งหนึ่ง
นายธำรง เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า กำลังให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบหาสาเหตุว่าเหตุรถไฟตกรางเป็นเพียงอุบัติเหตุธรรมดา หรือเกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบ เนื่องจากขณะนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อสรุปเหตุการณ์ทั้งหมด
นายพีระพล ทับเวช ผอ.ศูนย์ภาคใต้การรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เหตุรถไฟตกรางในครั้งนี้ค่อนข้างหนักต้องใช้เวลากู้รถไฟทั้งขบวน รวมทั้งซ่อมแซมรางมากกว่า 3 วัน ซึ่งหลังเกิดเหตุทางแขวงรถจักรหาดใหญ่ กำลังเตรียมวางแผนเข้ากู้รถไฟ โดยรอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเคลียร์พื้นที่เกิดเหตุให้เสร็จก่อน
สำหรับการเดินรถไฟในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในวันนี้ จำเป็นต้องหยุดเดินรถทั้งหมด เช่น ขบวนรถด่วนทักษิณ ขบวนที่ 38 สุไหงโก-ลก-กทม. ขบวนรถเร็วที่ 172 สุไหงโก-ลก-กทม. รวมทั้งขบวนรถเร็วที่ 170 ยะลา-กทม. รถด่วน และรถเร็ว กทม.-สุไหงโก-ลก และ กทม.-ยะลา สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการคืนตั๋วก็จะได้รับเงินคืนเต็มจำนวน และสามารถสอบถามข้อมูลการเดินรถที่สายด่วนรถไฟ โทร.1690
เมื่อเวลา 13.00 น.วานนี้ (18 ก.ย.) ได้เกิดเหตุรถไฟตกรางระหว่างสถานีท่าแมงลักกับสถานีจะนะ อ.จะนะ จ.สงขลา หลังเกิดเหตุตำรวจ สภ.จะนะ พร้อมหน่วยงานความมั่นคงได้เข้าตรวจสอบพบว่าอุบัติเหตุรถไฟตกรางดังกล่าวเกิดขึ้นที่บริเวณหลัก กม.ที่ 967/11 พื้นที่หมู่ 8 บ้านโคกม้า ต.บ้านนา อ.จะนะ อยู่ระหว่างสถานีท่าแมงลัก อ.เทพา กับสถานีจะนะ อ.จะนะ พบว่ารถไฟที่ตกรางเป็นขบวนรถธรรมดา ที่ 452 สุไหงโก-ลก-นครศรีธรรมราช หรือขบวนท้องถิ่น ซึ่งมีทั้งหมด 6 โบกี้และตกรางค่อนข้างรุนแรง หัวรถจักรพุ่งตกลงไปอยู่ในป่าริมทาง และลากเอาโบกี้รถไฟตกราง 5 ตู้ เหลืออยู่บนราง 1 ตู้ในจำนวนนี้มีตู้ทำการของเจ้าหน้าที่ด้วยและรางรถไฟรวมทั้งไม้หมอนได้รับความเสียหายประมาณ 300 เมตร เบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถและผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 7 คน ทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลจะนะ จากจำนวนผู้โดยสารทั้งหมดกว่า 100 คน
สำหรับรายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บประกอบด้วย ด.ต.เติมเต็ม กีตา, นายอ่าบี้ส้น หมานโหยด, นางพีรยา สวนนิ่ม, น.ส.คัทลียา สวนนิ่ม, นายศักดิ์ดา ประสิทธ์สร และน.ส.รอยนา มะหลี โดยทั้งหมดอยู่ระหว่างรอผลเอกซเรย์ ส่วน น.ส.สุวรรณา โกศัยกานนท์ ซึ่งตั้งครรภ์ประมาณ 3-4 สัปดาห์ แพทย์ได้ให้นอนพักที่โรงพยาบาลเพื่อติดตามอาการอีกระยะ
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผบก.ภ.จว.สงขลา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พบว่า บริเวณรางรถไฟตรงคอสะพานซึ่งเป็นจุดที่ทำให้รถไฟตกราง หมุดยึดรางถูกถอดออกจากไม้หมอน 10 หมอน รวม 40 ตัว และจานรองรางอีกจำนวนหนึ่ง โดยถูกถอดนำมากองไว้ที่ริมทางรถไฟ ซึ่งลักษณะเป็นการตั้งใจถอดไม่ใช่หลุดออกจากรางจากแรงสั่นสะเทือนหรือรางชำรุด
พล.ต.ต.เอกภพ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสรุปหรือยืนยันได้ว่า เหตุรถไฟตกรางในครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุธรรมดา หรือเกี่ยวกับความมั่นคงที่เป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบเชื่อมโยงกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แม้จะพบว่าหมุดยึดรางรถไฟ และจานรองรางถูกถอดออก และเป็นการจงใจถอด เพราะอาจจะเป็นการถอดของผู้ที่ต้องการนำเหล็กไปขาย เช่นเดียวกับเรื่องของความมั่นคงซึ่งยังไม่สามารถฟันธงได้ว่าเป็นการก่อเหตุของแนวร่วมเพื่อสร้างสถานการณ์หรือไม่ โดยจะมีการประชุมสรุปเหตุการณ์ร่วมกับหน่วยความมั่นคงในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่รถไฟอีกครั้งหนึ่ง
นายธำรง เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า กำลังให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบหาสาเหตุว่าเหตุรถไฟตกรางเป็นเพียงอุบัติเหตุธรรมดา หรือเกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบ เนื่องจากขณะนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อสรุปเหตุการณ์ทั้งหมด
นายพีระพล ทับเวช ผอ.ศูนย์ภาคใต้การรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เหตุรถไฟตกรางในครั้งนี้ค่อนข้างหนักต้องใช้เวลากู้รถไฟทั้งขบวน รวมทั้งซ่อมแซมรางมากกว่า 3 วัน ซึ่งหลังเกิดเหตุทางแขวงรถจักรหาดใหญ่ กำลังเตรียมวางแผนเข้ากู้รถไฟ โดยรอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเคลียร์พื้นที่เกิดเหตุให้เสร็จก่อน
สำหรับการเดินรถไฟในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในวันนี้ จำเป็นต้องหยุดเดินรถทั้งหมด เช่น ขบวนรถด่วนทักษิณ ขบวนที่ 38 สุไหงโก-ลก-กทม. ขบวนรถเร็วที่ 172 สุไหงโก-ลก-กทม. รวมทั้งขบวนรถเร็วที่ 170 ยะลา-กทม. รถด่วน และรถเร็ว กทม.-สุไหงโก-ลก และ กทม.-ยะลา สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการคืนตั๋วก็จะได้รับเงินคืนเต็มจำนวน และสามารถสอบถามข้อมูลการเดินรถที่สายด่วนรถไฟ โทร.1690