ASTVผู้จัดการรายวัน-นายทหารพระธรรมนูญ คุมตัวพ่อค้าผ้าภายในห้างญาณีพลาซ่า ทำตัวเป็นอันธพาล ทำร้ายร่างกายผู้อื่น นำกักตัว 7 วัน พร้อมขยายผลสอบบกรณีที่มีการแอบอ้างชื่อกลุ่มคนมีสีว่าพัวพันกับผู้ที่มีพฤติกรรมวางตัวเป็นมาเฟียในย่านการค้าประตูน้ำและพื้นที่ใกล้เคียง
วานนี้ (17 ก.ย.) ที่กองปราบปราม พ.ท.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ พล.ม.2 รอ.พร้อมกำลังสารวัตรทหาร คุมตัว นายวรวุฒิ พรพินันท์ อายุ 38 ปี ผู้ค้าผ้าภายในห้างญาณีพลาซ่า ถนนเพชรบุรี ซอย 19 แขวงและเขตราชเทวี กทม. มาปรับทัศนคติ โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก หลังจากมีผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้ค้าผ้าในห้างดังกล่าว ร้องเรียนว่าถูกนายวรวุฒิ ข่มขู่และทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ภายหลังมีการร้องเรียน ทางทหารได้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยผู้เสียหายมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ในระหว่างที่นายวรวุฒิ ได้ลงมือทำร้ายร่างกาย เมื่อพิจารณาว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายประพฤติตนเป็นอันธพาล ขัดต่อคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จึงเข้าควบคุมตัวนายวรวุฒิ มายัง บก.ป.เพื่อขอกักตัวไว้ที่ ห้องขัง บก.ป.มีกำหนดระยะเวลา 7 วัน ตามอำนาจ พ.ร.บ.กฎอัยการศึก
นายวรวุฒิกล่าวว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้น ตนยืนยันว่าเป็นเพียงเหตุทะเลาะวิวาทกันเท่านั้น ไม่ได้มีพฤติกรรมเป็นขาใหญ่ หรือระรานผู้ค้าคนอื่นแต่อย่างใด เพราะทุกคนต่างก็มาขายของทำมาหากินอยู่ในห้าง ส่วนกรณีที่มีปัญหาครั้งนี้ เป็นเพราะทางเซลล์ฝ่ายเขาที่เข้ามาหาเรื่องก่อน และมากัน 3 คน รุมตนเพียงคนเดียว แต่ยอมรับว่าเป็นฝ่ายลงมือทำร้ายร่างกายเขาก่อน แล้วพลาดไปถูกคู่กรณีที่เป็นผู้หญิง ทำให้ถูกมองไม่ดีว่าทำร้ายร่างกายผู้หญิง แต่เป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบจริงๆ ตนเชื่อว่าทุกคนก็เป็น เวลาที่เราโมโหสุดขีดมันก็ยับยั้งตัวเองไม่ได้ นอกจากนี้ตนก็ถูกเหล็กฟาดที่ท่อนแขนขวาได้รับบาดเจ็บเช่นกัน
สำหรับคู่กรณีนั้น เคยมาเช่าร้านตนเพื่อขายผ้า แต่หลังจากหมดสัญญาแล้ว ตนก็คืนเงินมัดจำให้เขาไป และยังให้เวลากว่า 10 วัน เพื่อให้เขาได้ร้านใหม่ขายของถึงจะเอาร้านคืน ไม่ได้ข่มขู่ระราน เพราะเห็นว่าเขาขายดี ที่ผ่านมา ก็ไม่เคยอ้างว่ารู้จักทหาร หรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ มีแต่ฝ่ายเขาที่น่าจะรู้จักกับทหาร เรื่องที่เกิดขึ้นก็มีการแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.พญาไท แต่ไม่มีการยืนยันดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกาย เพราะหากตนถูกกล่าวหา ก็พร้อมจะต่อสู้คดีอยู่แล้ว อย่างไรก็ดี ทางพนักงานสอบสวน ได้นัดให้ตนไปพบในวันที่ 18 ก.ย.นี้ด้วย แต่ก็มาถูกทหารควบคุมตัวเสียก่อน
มีรายงานข่าวว่า ขณะนี้ทางทหารอยู่ระหว่างตรวจสอบกรณีที่มีการแอบอ้างชื่อกลุ่มคนมีสีว่าพัวพันกับผู้ที่มีพฤติกรรมวางตัวเป็นมาเฟียในย่านการค้าประตูน้ำและพื้นที่ใกล้เคียง แต่ยังต้องแสวงหาพยานหลักฐานต่างๆ โดยยังคงเปิดรับข้อมูลการร้องเรียนจากผู้ค้าในพื้นที่ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
วานนี้ (17 ก.ย.) ที่กองปราบปราม พ.ท.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ พล.ม.2 รอ.พร้อมกำลังสารวัตรทหาร คุมตัว นายวรวุฒิ พรพินันท์ อายุ 38 ปี ผู้ค้าผ้าภายในห้างญาณีพลาซ่า ถนนเพชรบุรี ซอย 19 แขวงและเขตราชเทวี กทม. มาปรับทัศนคติ โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก หลังจากมีผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้ค้าผ้าในห้างดังกล่าว ร้องเรียนว่าถูกนายวรวุฒิ ข่มขู่และทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ภายหลังมีการร้องเรียน ทางทหารได้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยผู้เสียหายมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ในระหว่างที่นายวรวุฒิ ได้ลงมือทำร้ายร่างกาย เมื่อพิจารณาว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายประพฤติตนเป็นอันธพาล ขัดต่อคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จึงเข้าควบคุมตัวนายวรวุฒิ มายัง บก.ป.เพื่อขอกักตัวไว้ที่ ห้องขัง บก.ป.มีกำหนดระยะเวลา 7 วัน ตามอำนาจ พ.ร.บ.กฎอัยการศึก
นายวรวุฒิกล่าวว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้น ตนยืนยันว่าเป็นเพียงเหตุทะเลาะวิวาทกันเท่านั้น ไม่ได้มีพฤติกรรมเป็นขาใหญ่ หรือระรานผู้ค้าคนอื่นแต่อย่างใด เพราะทุกคนต่างก็มาขายของทำมาหากินอยู่ในห้าง ส่วนกรณีที่มีปัญหาครั้งนี้ เป็นเพราะทางเซลล์ฝ่ายเขาที่เข้ามาหาเรื่องก่อน และมากัน 3 คน รุมตนเพียงคนเดียว แต่ยอมรับว่าเป็นฝ่ายลงมือทำร้ายร่างกายเขาก่อน แล้วพลาดไปถูกคู่กรณีที่เป็นผู้หญิง ทำให้ถูกมองไม่ดีว่าทำร้ายร่างกายผู้หญิง แต่เป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบจริงๆ ตนเชื่อว่าทุกคนก็เป็น เวลาที่เราโมโหสุดขีดมันก็ยับยั้งตัวเองไม่ได้ นอกจากนี้ตนก็ถูกเหล็กฟาดที่ท่อนแขนขวาได้รับบาดเจ็บเช่นกัน
สำหรับคู่กรณีนั้น เคยมาเช่าร้านตนเพื่อขายผ้า แต่หลังจากหมดสัญญาแล้ว ตนก็คืนเงินมัดจำให้เขาไป และยังให้เวลากว่า 10 วัน เพื่อให้เขาได้ร้านใหม่ขายของถึงจะเอาร้านคืน ไม่ได้ข่มขู่ระราน เพราะเห็นว่าเขาขายดี ที่ผ่านมา ก็ไม่เคยอ้างว่ารู้จักทหาร หรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ มีแต่ฝ่ายเขาที่น่าจะรู้จักกับทหาร เรื่องที่เกิดขึ้นก็มีการแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.พญาไท แต่ไม่มีการยืนยันดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกาย เพราะหากตนถูกกล่าวหา ก็พร้อมจะต่อสู้คดีอยู่แล้ว อย่างไรก็ดี ทางพนักงานสอบสวน ได้นัดให้ตนไปพบในวันที่ 18 ก.ย.นี้ด้วย แต่ก็มาถูกทหารควบคุมตัวเสียก่อน
มีรายงานข่าวว่า ขณะนี้ทางทหารอยู่ระหว่างตรวจสอบกรณีที่มีการแอบอ้างชื่อกลุ่มคนมีสีว่าพัวพันกับผู้ที่มีพฤติกรรมวางตัวเป็นมาเฟียในย่านการค้าประตูน้ำและพื้นที่ใกล้เคียง แต่ยังต้องแสวงหาพยานหลักฐานต่างๆ โดยยังคงเปิดรับข้อมูลการร้องเรียนจากผู้ค้าในพื้นที่ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง