xs
xsm
sm
md
lg

ริมโขงระทึกจีนเปิดเขื่อน ลำปางเจอพิษน้ำป่าถล่มซ้ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (7 ก.ย.) สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาเชียงราย มีหนังสือถึงที่ว่าการอำเภอเชียงแสน อ.เชียงของ และอ.เวียงแก่น แจ้งว่าได้รับการประสานจากคนประจำเรือสินค้าสัญชาติจีน ว่าช่วงนี้บริเวณลุ่มแม่น้ำโขงมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทางการจีนจะระบายน้ำจากเขื่อนจิ่งหง เขตปกครองตนเองชนชาติไตสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน ที่ใกล้ประเทศไทยที่สุด ระหว่างวันที่ 4-30 กันยายน ในอัตรา 9,000 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที หลังมีน้ำทะลักเข้าเขื่อนกว่า 600 ล้านลบ.ม. จึงให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
นายทรงกลด ดวงหาคลัง ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาเชียงราย กล่าวว่า ปกติน้ำเขื่อนจิ่งหงจะที่ระบายน้ำ 1,200 ลบ.ม.ต่อวินาที แต่ครั้งนี้กว่า 9,000 ลบ.ม. คาดว่ามวลน้ำจะมาถึงอ.เชียงแสน วันเดียวกันนี้ จะมีผลทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นอีก 2-3 เมตร ซึ่งขอให้เรือสินค้าดูระดับน้ำด้วยเพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบ รวมทั้งชาวบ้านริมฝั่ง ให้เฝ้าระวังตลอดเวลา
"สำหรับแม่น้ำโขงมีระดับน้ำล้นตลิ่งที่ 8.50-9 เมตร แต่เมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา วัดได้ 4.6 เมตร ดังนั้นแม้ระดับน้ำจะสูงราว 7.6 เมตร ก็ยังไม่ถึงจุดล้นตลิ่ง แต่ไม่ควรประมาท ต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์ต่อไป เพราะไทยอยู่ท้ายน้ำ"
ด้านผู้ประกอบการ เจ้าของร้านค้า ตลอดจนชาวบ้านชายแดนอ.แม่สาย ที่ถูกน้ำจากลำน้ำสายทะลักเข้าท่วมเมื่อวันที่ 6 กันยายน ก่อนที่จะลดระดับลง ทิ้งเศษซากกิ่งไม้และโคลนตมเอาไว้จำนวนมาก ต่างพากันทำความสะอาดบ้านเรือนและร้านค้ากันทั้งวัน โดยเฉพาะที่ตลาดสายลมจอย พบว่าสินค้าและข้าวของเครื่องใช้เสียหายอย่างหนัก ขณะที่ระดับน้ำในลำน้ำสายลดลงต่อเนื่อง
ส่วนฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า มีดินโคลนตกค้างตามอาคารบ้านเรือนเป็นบริเวณกว้าง เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่ม พลเรือนและทหารต้องช่วยเก็บสินค้าและข้าวของ ฉีดพ่นน้ำทำความสะอาดกันทั้งวันเช่นกัน
จ.ลำปาง นายประหยัด สุวรรณโน นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านร้อง อ.งาว จ.ลำปาง และนายจักรพรรณ วันทอง ผู้ใหญ่บ้านสบต๋อม หมู่ 3 ต.บ้านร้อง ระดมกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน 4 รายที่ถูกน้ำป่าพัดลอยไปกับสายน้ำในลำห้วยปอน ขณะกำลังขับรถจักรยานยนต์ขึ้นไปตามเส้นทางเลียบลำห้วยปอน เพื่อไปดูไร่ขิงว่าเสียหายหรือไม่เมื่อช่วงสาย โดยมี 3 รายบาดเจ็เล็กน้อย แต่นายถาวร แซ่จาว อายุ 50 ปี บาดเจ็บสาหัส ขาหักทั้ง 2 ข้าง
จ.จันทบุรี ว่าน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาสระบาป ลงคลองสาขาจนเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนใน 3 ชุมชนย่านกลางเมืองจันทบุรี ประกอบด้วย หมู่บ้านไชยยันต์ หมู่บ้านคลองเตย และชุมชนวัดทองทั่ว รวมกว่า 20 หลัง ระดับน้ำสูง 40-50 เซนติเมตร บางจุดรถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ โดยเฉพาะหลังหมู่บ้านคลองเตย สวนผลไม้ และนาข้าวถูกน้ำท่วมได้รับความเสียกว่า 50 ไร่
เบื้องต้น เทศบาลตำบลพลับพลานารายณ์ จัดส่งเจ้าหน้าที่ออกให้การช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายข้าวของไว้ในที่สูง และเคลื่อนย้ายผู้สูงอายุออกจากพื้นที่เป็นการชั่วคราวแล้ว
จ.ตราด หลังฝนตกหนักส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในหมู่ 2 บ้านหนองบัว ต.วังกระแจะ อ.เมือง บริเวณทางเข้าหมู่บ้านบัวเขียว สูง 1-1.50 เมตร ระยะทางประมาณ 200 เมตร ชาวบ้าน 50 หลังคาเรือนได้รับความเดือดร้อน สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด (ปภ.) จึงนำเรือไฟเบอร์ 5 ลำไปให้ใช้เดินทางเข้า-ออกชั่วคราว ขณะที่พื้นที่ใกล้เคียง เช่น โรงแรมสุขุมวิท อินน์ น้ำท่วมสูง 1.20 เมตร ขณะที่ถนนสุขุมวิทขาออก ตั้งแต่สามแยกคลองใหญ่ ถึงหน้าอีซูซุ น้ำท่วมผิวถนนสูง 30-40 เซนติเมตร ระยะทางกว่า 400 เมตร

ที่ต.เกาะกูด อ.เกาะกูด เกิดน้ำป่าไหลหลากมาทางคลองยายกี๋ ท่วมพื้นที่ 2-3 ชั่วโมงและลดระดับลง โดยนายเดชาธร จันทร์อบ นายกองค์การบริหาร่สวนตำบล (อบต.) เกาะกูด กล่าวว่า น้ำป่าครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว แต่ไม่สร้างความเสียหายกับบ้านเรือนหรือโรงแรม แต่เนื่องจากยังมีฝนตต่อเนื่อง จึงยังไม่น่าไว้วางใจ ส่วนเรือโดยสารเกาะกูดยังเดินเรือได้
ส่วนที่อ.เกาะช้าง น้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาลงมาบริเวณคลองไก่แบ้ ต.เกาะช้าง ทำให้ระบายไม่ทันเข้าท่วมถนนและร้านค้าด้านหน้าโรงแรมเดอะ ชิล ระยะทางยาวประมาณ 100 เมตร สูง 30-60 เซนติเมตร รถจักรยานยนต์ไม่สามารถสัญจรได้ โดยนายพีระ เอี่ยมสุนทร นายอำเภอเกาะช้าง กล่าวว่า ที่บ้านสลักเพชรหมู่ 5 ต.เกาะช้างใต้ น้ำป่าพัดต้นไม้ขนาดใหญ่หลายต้นล้มลงทับเสาไฟฟ้าล้ม ทำให้ไฟดับ ซึ่งได้แก้ปัญหาจนสัญจรได้แล้ว อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังมีฝนตกและคลื่นลมแรง จึงสั่งห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำที่ชายหาดทุกแห่งแล้ว
จ.พระนครศรีอยุธยา นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา ปภ.จังหวัด กล่าวว่า เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำ 998 ลบ.ม.ต่อวินาที ลดลงจากวันก่อน แต่ระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักสูงขึ้นอีก 5-7 เซนติเมตร คลองบางหลวง อ.บางบาล คลองโผงเผง จาก อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เข้าสู่ จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำก็เริ่มสูงขึ้นเช่นกัน เหลืออีก 75 เซนติเมตรจะล้นตลิ่ง
ส่วนที่ ต.หัวเวียง ต.บ้านกระทุ่ม อ.เสนา ชาวบ้านริมแม่น้ำน้อยได้รับผลกระทบน้ำท่วมบริเวณใต้ถุนบ้าน ต้องใช้เรือเดินทางแล้ว บางครอบครัวย้ายสิ่งของ รถจักรยานยนต์ และรถยนต์มาไว้ที่ริมถนน

***สตช.เฝ้าระวังก่อเหตุซ้ำเติม
วันเดียวกัน ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดสุโขทัย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง และพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย ซึ่งทางบก.ภ.จว.สุโขทัย ข้อการสนับสนุนเรือยนต์ที่ใช้งานได้ในพื้นที่ที่มีกระแสน้ำเชี่ยว ขณะที่พล.ต.อ.สมยศ กำชับให้เฝ้าระวังการก่อเหตุลัก ชิง ปล้นทรัพย์ ซ้ำเติมผู้ประสบเหตุ และจัดชุดปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชน ต้องเสียสละในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ จริงจัง จริงใจ มีรอยยิ้มให้ประชาชน ไม่ทำเพียงฉาบฉวย พร้อมประสานงานกับทุกหน่วยอย่างเต็มที่ ซึ่งขอฝากประชาชนให้เรียกใช้ตำรวจได้ทุกเมื่อ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานมูลนิธิม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช มามอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบภัยที่หมู่ 7 ต.ปากแคว อ.เมือง จ.สุโขทัย ที่น้ำท่วมสูง ชาวบ้านกว่า 50 หลังคาเรือนไม่มีน้ำประปาใช้ และต้องการน้ำดื่มจำนวนมาก
นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย กล่าวว่า ระยะยาวจะเสนอให้รัฐบาลสร้างเขื่อนลุ่มน้ำยม เพื่อแก้ปัญหาช่วงน้ำหลาก ซึ่งต้องขอให้กลุ่มผู้คัดค้านเห็นใจชาวลุ่มน้ำยมด้วย
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 7-13 กันยายน คาดหมายช่วงวันที่ 8-9 กันยายน ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีกำลังอ่อนลง ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนอยู่ในเกณฑ์กระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันยังคงมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ส่วนช่วงวันที่ 10-13 กันยายน ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีกำลังแรงขึ้น ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน ยังคงมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ข้อควรระวัง ช่วงวันที่ 10-13 กันยายน ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสมต่อเนื่อง และชาวเรือบริเวณทะเลอันดามัน ควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย.
กำลังโหลดความคิดเห็น