แม่ "น้องเพลง" วัย 11 ขวบ เหยื่อกามโหดเมืองตรัง 3 เดือนก่อน ร้องสื่อมวลชนขอความเป็นธรรม หลังพบตำรวจทำสำนวนช้า ทำอัยการสั่งฟ้องคดีไม่ทันจนต้องปล่อยตัวผู้ต้องหาออกมา ด้านผบก.ภ.จว.ลั่นทำเต็มที่ มั่นใจพยานหลักฐาน ส่งอัยการตามขั้นตอนแล้ว แต่เรื่องสั่งฟ้องคดีไม่ทันไม่สามารถก้าวก่ายได้
เมื่อเวลา 12.00 น. วานนี้(1 ก.ย.)นางพนมวรรณ รำนา อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/7 ถนนนางน้อย ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง มารดาของน้องเพลง(นามสมมุติ) เด็กหญิงวัย 11 ปี นักเรียนชั้น ป.6 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ตรัง ซึ่้งถูกลวงไปข่มขืนและฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ช่วงค่ำวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนที่คนร้ายจะนำร่างอันไร้วิญญาณไปยัดท่อระบายน้ำทางเข้าวัดพระงาม ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง เพื่ออำพรางคดี จนมีผู้ไปพบศพเช้าวันที่ 12 พฤษภาคม
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายประถมพงษ์ หรือแต๋ม หมื่นบาน อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 ถนนควนขัน ต.ทับเที่ยง ซึ่งนับเป็นคดีที่โด่งดังในช่วงที่ผ่านมา
โดยนางพนมวรรณ ร้องขอความเป็นธรรมด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า หลังจากมีการจับกุมผู้ต้องหา ก็ส่งตัวนายประถมพงษ์ไปฝากขังที่เรือนจำจังหวัดตรัง เพื่อให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะผลการตรวจสอบร่างกายทั้งของบุตรสาวและผู้ต้องหา ตลอดจนหลักฐานอื่นในสถานที่เกิดเหตุให้แน่นหนามากที่สุด เพื่อส่งฟ้องต่ออัยการจังหวัดตรัง
ซึ่งที่ผ่านมานายประถมพงษ์ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหามาโดยตลอด แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันกับทางครอบครัวว่า ผู้ต้องหาไม่สามารถดิ้นหลุดได้แน่ เพราะมีทั้งพยานหลักฐานแน่นหนาเกือบ 100 % โดยเฉพาะผลการตรวจดีเอ็นเอของผู้ต้องหา จนนำไปสู่การออกหมายจับนายประถมพงษ์
แต่ปรากฏว่าพนักงานสอบสวนกลับดำเนินคดีล่าช้า และเพิ่งนำสำนวนเสนอต่อสำนักงานอัยการจังหวัดตรัง เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้พนักงานอัยการไม่สามารถสั่งฟ้องคดีได้ทันภายในระยะเวลาที่ควบคุมตัวผู้ต้องไว้ได้ 7 ผลัดหรือ 84 วัน เป็นเหตุให้ต้องปล่อยตัวนายประถมพงษ์เป็นอิสระ โดยที่ไม่สามารถแจ้งข้อหาใดๆได้เลย เมื่อสอบถามไปก็ทราบว่ามีการส่งสำนวนไปยังสำนักงานอัยการภาค 9 แล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง โดยที่ไม่สามารถตอบได้ว่า ต้องใช้ระยะเวลาในขั้นตอนนี้มากน้อยเพียงใด
"การดำเนินการต่างๆของทั้งพนักงานสอบสวน และพนักงานอัยการ ไม่ได้แจ้งให้ฝ่ายของผู้เสียหายรับทราบเลย ต้องสืบค้นติดตามด้วยตัวเองทั้งหมด"
นางพนมวรรณ กล่าวว่า เมื่อครั้งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายประถมพงษ์ และนำตัวมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อ 3 เดือนก่อน ได้ย้ำว่าคดีฆ่าน้องเพลงมีความสำคัญมาก เพราะคนร้ายลงมืออย่างโหดเหี้ยม ทำให้ชาวตรังที่มีลูกสาวต่างรู้สึกหวาดผวา จึงต้องเร่งเอาคนผิดมาลงโทษตามกระบวนการ พร้อมตั้งชุดทำงานสะสางคดี แม้แต่ผู้บัญชขาการตำรวจภูธรภาค 9 ก็ลงมาดูแลคดีนี้ แต่กลับปล่อยให้รวบรวมพยานหลักฐานเนิ่นนาน กว่าจะนำสำนวนส่งให้กับพนักงานอัยการก็ล่าช้าไม่ทันการแล้ว
"เรื่องนี้ทำครอบครัวเสียความรู้สึกมาก และผิดหวังกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ ที่สำคัญ คือ ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าฆ่าน้องเพลงได้ถูกปล่อยตัวออกมาแล้ว ไม่รู้ว่าเหตุอีกหรือไม่"
ขณะที่พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผบก.ภ.จว.ตรัง กล่าวว่า คดีนี้นายประถมพงษ์ถูกแจ้งข้อหาว่าฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดา-มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร และซ่อนเร้น ย้าย ทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย ซึ่งที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนนำส่งอัยการจังหวัดตรังตามขั้นตอนแล้ว แต่ไม่ทราบว่าทำไมจึงสั่งฟ้องคดีไม่ทัน ตรงจุดนี้ไม่สามารถไปก้าวก่ายได้ แต่ขอยืนยันว่าตำรวจได้ทำงานเต็มที่ และมั่นใจในพยานหลักฐาน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ญาติของนายปฐมพงษ์ร้องขอความเป็นธรรมจากนายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ว่าที่ผ่านมาครอบครัวให้ความร่วมมือตำรวจเต็มที่ เพราะอยากให้คดีกระจ่างด้วย หลังจากถูกกดดันจากตำรวจอย่างหนัก เหมือนพยายามปักธงให้นายปฐมพงษ์เป็นคนร้าย จนทำให้ครอบครัวถูกประณามจากสังคม จึงอยากฝากว่าอย่าทำงานด้วยวิธีข่มขู่คุกคาม ซึ่งนายสมศักดิ์ได้กำชับให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา แต่อย่ากดดันผู้ต้องสงสัย.
เมื่อเวลา 12.00 น. วานนี้(1 ก.ย.)นางพนมวรรณ รำนา อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/7 ถนนนางน้อย ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง มารดาของน้องเพลง(นามสมมุติ) เด็กหญิงวัย 11 ปี นักเรียนชั้น ป.6 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ตรัง ซึ่้งถูกลวงไปข่มขืนและฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ช่วงค่ำวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนที่คนร้ายจะนำร่างอันไร้วิญญาณไปยัดท่อระบายน้ำทางเข้าวัดพระงาม ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง เพื่ออำพรางคดี จนมีผู้ไปพบศพเช้าวันที่ 12 พฤษภาคม
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายประถมพงษ์ หรือแต๋ม หมื่นบาน อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 ถนนควนขัน ต.ทับเที่ยง ซึ่งนับเป็นคดีที่โด่งดังในช่วงที่ผ่านมา
โดยนางพนมวรรณ ร้องขอความเป็นธรรมด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า หลังจากมีการจับกุมผู้ต้องหา ก็ส่งตัวนายประถมพงษ์ไปฝากขังที่เรือนจำจังหวัดตรัง เพื่อให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะผลการตรวจสอบร่างกายทั้งของบุตรสาวและผู้ต้องหา ตลอดจนหลักฐานอื่นในสถานที่เกิดเหตุให้แน่นหนามากที่สุด เพื่อส่งฟ้องต่ออัยการจังหวัดตรัง
ซึ่งที่ผ่านมานายประถมพงษ์ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหามาโดยตลอด แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันกับทางครอบครัวว่า ผู้ต้องหาไม่สามารถดิ้นหลุดได้แน่ เพราะมีทั้งพยานหลักฐานแน่นหนาเกือบ 100 % โดยเฉพาะผลการตรวจดีเอ็นเอของผู้ต้องหา จนนำไปสู่การออกหมายจับนายประถมพงษ์
แต่ปรากฏว่าพนักงานสอบสวนกลับดำเนินคดีล่าช้า และเพิ่งนำสำนวนเสนอต่อสำนักงานอัยการจังหวัดตรัง เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้พนักงานอัยการไม่สามารถสั่งฟ้องคดีได้ทันภายในระยะเวลาที่ควบคุมตัวผู้ต้องไว้ได้ 7 ผลัดหรือ 84 วัน เป็นเหตุให้ต้องปล่อยตัวนายประถมพงษ์เป็นอิสระ โดยที่ไม่สามารถแจ้งข้อหาใดๆได้เลย เมื่อสอบถามไปก็ทราบว่ามีการส่งสำนวนไปยังสำนักงานอัยการภาค 9 แล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง โดยที่ไม่สามารถตอบได้ว่า ต้องใช้ระยะเวลาในขั้นตอนนี้มากน้อยเพียงใด
"การดำเนินการต่างๆของทั้งพนักงานสอบสวน และพนักงานอัยการ ไม่ได้แจ้งให้ฝ่ายของผู้เสียหายรับทราบเลย ต้องสืบค้นติดตามด้วยตัวเองทั้งหมด"
นางพนมวรรณ กล่าวว่า เมื่อครั้งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายประถมพงษ์ และนำตัวมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อ 3 เดือนก่อน ได้ย้ำว่าคดีฆ่าน้องเพลงมีความสำคัญมาก เพราะคนร้ายลงมืออย่างโหดเหี้ยม ทำให้ชาวตรังที่มีลูกสาวต่างรู้สึกหวาดผวา จึงต้องเร่งเอาคนผิดมาลงโทษตามกระบวนการ พร้อมตั้งชุดทำงานสะสางคดี แม้แต่ผู้บัญชขาการตำรวจภูธรภาค 9 ก็ลงมาดูแลคดีนี้ แต่กลับปล่อยให้รวบรวมพยานหลักฐานเนิ่นนาน กว่าจะนำสำนวนส่งให้กับพนักงานอัยการก็ล่าช้าไม่ทันการแล้ว
"เรื่องนี้ทำครอบครัวเสียความรู้สึกมาก และผิดหวังกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ ที่สำคัญ คือ ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าฆ่าน้องเพลงได้ถูกปล่อยตัวออกมาแล้ว ไม่รู้ว่าเหตุอีกหรือไม่"
ขณะที่พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผบก.ภ.จว.ตรัง กล่าวว่า คดีนี้นายประถมพงษ์ถูกแจ้งข้อหาว่าฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดา-มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร และซ่อนเร้น ย้าย ทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย ซึ่งที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนนำส่งอัยการจังหวัดตรังตามขั้นตอนแล้ว แต่ไม่ทราบว่าทำไมจึงสั่งฟ้องคดีไม่ทัน ตรงจุดนี้ไม่สามารถไปก้าวก่ายได้ แต่ขอยืนยันว่าตำรวจได้ทำงานเต็มที่ และมั่นใจในพยานหลักฐาน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ญาติของนายปฐมพงษ์ร้องขอความเป็นธรรมจากนายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ว่าที่ผ่านมาครอบครัวให้ความร่วมมือตำรวจเต็มที่ เพราะอยากให้คดีกระจ่างด้วย หลังจากถูกกดดันจากตำรวจอย่างหนัก เหมือนพยายามปักธงให้นายปฐมพงษ์เป็นคนร้าย จนทำให้ครอบครัวถูกประณามจากสังคม จึงอยากฝากว่าอย่าทำงานด้วยวิธีข่มขู่คุกคาม ซึ่งนายสมศักดิ์ได้กำชับให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา แต่อย่ากดดันผู้ต้องสงสัย.