ASTVผู้จัดการรายวัน-โปรดเกล้าฯ นายกฯ คนที่ 29 "ประยุทธ์" สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขอนำพาประเทศไปข้างหน้า เตรียมทูลเกล้าฯ ครม."ประยุทธ์1" ก.ย.นี้ ย้ำรัฐบาล-คสช. ทำงานควบคู่ ไม่ก้าวล่วงซึ่งกันและกัน แต่ต้องตรวจสอบถ่วงดุลได้ ยันไม่ได้เข้ามาเพื่อปิดกั้น หรือกำจัดใคร ให้คำมั่นสัญญา จะทุ่มเททำงาน-ซื่อสัตย์สุจริต ยึดประโยช์ประเทศชาติ เพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน เปิดโผครม."ประยุทธ์1" ด้านคนสนิท "ป๋าเปรม" เผย วันเกิดป๋าปีนี้ งดเปิดบ้านสี่เสาเทเวศร์ “อดุลย์” เผย “ประยุทธ์” ยังไม่ส่งสัญญาณเข้าทำเนียบฯ ปัด ถูกทาบนั่งครม.
เมื่อเวลา 08.19 น. วานนี้ (25 ส.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก ถนนราชดำเนิน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย รศ.นราพร จันทร์โอชา ภริยา ได้เดินทางถึง กองบัญชาการกองทัพบก เพื่อประกอบพิธีเข้ารับพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 29 โดยในเวลา 10.09 พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมภริยา ได้ทำพิธีถวายสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่หน้าหอประชุมกิตติขจร
จากนั้น เวลา 10.49 น. โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ถ่ายทอดสด พิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี โดยมีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เป็นผู้อันเชิญพระบรมราชโองการ โดยมีผู้เข้าร่วมพิธี อาทิ คณะนายทหารระดับสูงของ คสช. ผู้บัญชาการเหล่าทัพ รวมถึงแม่ทัพภาคที่1-4 หัวหน้าส่วนราชการ และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง
โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งให้ผมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ผมรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น และนับเป็นเกียรติอันสูงสุดในชีวิตแก่ผมและวงศ์ตระกูลอย่างหาที่สุดไม่ได้ ผมตระหนักดีถึงภารหน้าที่อันยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่ง จากนี้ต่อไปผมต้องรับผิดชอบในการนำพาประเทศชาติและประชาชน เพื่อก้าวเดินไปข้างหน้า ซึ่งได้มีการปฏิบัติดังต่อไปนี้ การจัดตั้งคณะรัฐมนตรี ได้แก่การคัดเลือก รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการ รัฐมนตรีช่วยว่าการ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เพื่อบริหารราชหารแผ่นดินโดยเร็วที่สุด โดยจะนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อม ภายในในเดือนตุลาคม 2557
การบริหารประเทศในทุกๆด้าน ในบทบาทของรัฐบาล นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนงานเร่งด่วนเฉพาะหน้า ที่ต้องการความรวดเร็วในการแก้ปัญหา โดยรัฐบาลและคสช. ต้องมีการหารือในการปฏิบัติตลอดจนวิธีการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด รวมทั้งต้องระมัดระวัง การก้าวล่วงซึ่งกันและกัน แต่ต้องมีการตรวจสอบถ่วงดุลกัน เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ขอให้ทุกคนอย่าได้กังวลกับตัวบุคคลมากนัก วันนี้เราจะต้องสร้างระบบทุกระบบให้เข้มแข็ง เพื่อต่อต้านการทุจริต คอร์รัปชันให้ได้โดยเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบข้าราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร ส่วนราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น ต้องเข้มแข็ง พัฒนาปรับปรุงตนเองในทุกมิติ ทั้งนี้เพื่อเตรียมการและรองรับการปฏิรูปที่จะต้องทำให้ฝ่ายการเมือง มีระบบธรรมมาภิบาลในการบริหารประเทศในระยะต่อไป และจะได้ร่วมกันนำพาประเทศชาติไปสู่อนาคต
อย่างไรก็ตาม ประชาชนก็เช่นกัน เป็นส่วนสำคัญที่สุดที่จะทำให้การบริหารราชการแผ่นดินของพวกเราในขณะนี้สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ของประเทศได้ ทั้งในงานด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม กฎหมาย และกระบวนการยุตธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง งานด้านเศรษฐกิจ ซึ่งมีปัญหาสำคัญอยู่หลายประการ ทั้งภาคเกษตรกร รัฐ ประชาชนโดยทั่วไป ทุกภาคส่วนต้องช่วยกัน บ้านเมืองเรามีปัญหาสะสมสำคัญสำคัญมากมายมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็ว ทั้งนี้เพื่อรองรับการเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน และการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 นี้ด้วย
ด้านความมั่นคง ยังมีปัญหาอยู่หลายประการ เช่น ปัญหาชายแดน ทั้งในเรื่องการปักปันเขตแดน การหลบหนีเข้าเมือง สินค้าหนีภาษี ปัญหาความมั่นคงภายใน เรื่องยาเสพติด อาชญากรรม อาวุธสงคราม การพนัน แรงงานต่างด้าว และอื่นๆ
ด้านเศรษฐกิจ การเดินตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างเป็นรูปธรรม การส่งเสริมการลงทุนในภาคต่างๆ การลดความเหลื่อมล้ำ การสร้างรายได้ให้เกษตรกร และประชาชนผู้มีรายได้น้อย โครงสร้างภาษี พลังงาน สาธารณูประโภคพื้นฐาน ปัญหาปากท้องประชาชน ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้ พวกเราทุกคนจะพยายามแก้ปัญหาให้ได้โดยเร็ว แต่ทั้งนี้จะต้องไม่ทำให้เกิดปัญหาระยะยาวต่อไปในอนาคต
ด้านสังคม และวัฒนธรรม ระบบการศึกษา การปลูกจิตสำนึก การปลูกฝังอุดมการณ์ การดำรงซึ่งวัฒนธรรมไทยอย่างยั่งยืน การรักษาทรัพยากรธรรมชาติ การป้องกันการบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การปลูกฝังค่านิยมต่างๆ เหล่านั้น และอุดมการณ์ให้คนในชาตินั้นเป็นสิ่งที่จะทำให้การแก้ปัญหาเกิดขึ้นอย่างยั่งยืน
ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม การแก้ไขกฎหมายที่ล้าสมัย ให้สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศในปัจจุบัน สอดคล้องกับพันธะสัญญาต่างๆ รวมทั้งกฎหมายที่ส่วนราชการที่แก้ไขเพื่อความสะดวก และความถูกต้อง ซึ่งที่ผ่านมานั้นยังดำเนินการไม่เรียบร้อย สิ่งต่างๆ ที่ได้เป็นปัญหา และได้กล่าวไปแล้ว รัฐบาล คสช.และประชาชนทุกคนต้องมาร่วมกันแก้ปัญหา เราไม่ปิดกั้นฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด หรือต้องการกำจัดฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทั้งสิ้น จะเห็นได้ว่าในสภาปฏิรูป สมาชิกสภาปฏิรูป ไม่ได้มีข้อกำหนด ข้อห้ามอะไรต่างๆ เหมือนกับสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมทุกประการ ต้องยึดหลักการหลายอย่างในการจัดตั้งสภานิติบัญญัติ โดยสภาปฏิรูป เราต้องการให้ทุกกลุ่มทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมให้มากที่สุด ในการปฏิรูปทั้ง 11 ด้าน กลุ่มการเมือง กลุ่มพลังประชาชน นักเศรษฐกิจ นักวิชาการ ข้าราชการ สื่อมวลชน ผู้แทนส่วนต่างๆ เราไม่ต้องการให้ส่วนหนึ่งส่วนใดตกขบวนประชาธิปไตย เพื่อสร้างอนาคตของชาติให้มั่นคง และยั่งยืน ไม่เกิดปัญหาต่อไปในอนาคต
"โอกาสนี้ผมขอให้คำมั่นต่อพี่น้องประชาชนว่า จะมุ่งมั่นทุ่มเทอย่างเต็มที่ ในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนเป็นสำคัญ เพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน นำความสุขความร่มเย็นมาสู่พี่น้องประชาชน และทำให้ประเทศชาติ มีความเป็นปึกแผ่นมั่นคง พร้อมไปการสร้างความรัก สามัคคีในทุกกลุ่มทุกฝ่าย และขอขอบคุณสำหรับความร่วมมือที่ทุกคนในชาติจะมอบให้กับรัฐบาล และคสช.ในการปฏิบัติงานในห้วงต่อไป"
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเริ่มพิธีการ บรรดาข้าราชการ นายทหาร ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ได้เดินทางมายังกองบัญชาการกองทัพบก อาทิ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้า คสช. และ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมทั้งเหล่าบรรดานายทหารจากสายบูรพาพยัคฆ์ และ วงศ์เทวัญ ต่างพากันเดินทางมาร่วมแสดงความยินดี และเข้าร่วมพิธีกับพล.อ.ประยุทธ์ อย่างพร้อมเพรียง
**"นายกฯตู่"แจงทูลเกล้าฯครม.เดือนก.ย.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้แถลงกำหนดการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรี ขึ้นทูลเกล้าฯ ภายในเดือนตุลาคมนั้น ทำให้สื่อมวลชน สอบถามไปยังทีมงานโฆษก คสช. ถึงกำหนดการทูลเกล้าฯ รายชื่อครม.ดังกล่าว เนื่องจากว่าผิดไปจากกรอบระยะเวลาที่พล.อ.ประยุทธ์ เคยระบุไว้ในโรดแมป ว่าจะมีคณะรัฐมนตรีภายในสิ้นเดือนกันยายน 57 โดย พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพ ในฐานะทีมโฆษก คสช. ได้ชี้แจงภายหลังว่าพล.อ.ประยุทธ์ ขอแก้ไขในการแถลงว่า จะทูลเกล้าฯ รายชื่อครม.ภายในเดือนตุลาคม เป็นภายในเดือนกันยายน ตามโรดแมปเดิมที่วางไว้
ด้านพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. ในฐานะรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังร่วมพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ย้ำกับนายทหารระดับสูง และปลัดกระทรวงที่มาร่วมพิธีว่า ขอให้ทุกฝ่ายแสดงความยินดีกันแค่นี้ เพราะมีเวลาน้อยที่จะทำงานแก้ปัญหาต่างๆ ขอให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจกันทำเพื่อชาติบ้านเมือง
ขณะที่ นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ย้ำกับผู้ที่มาร่วมพิธีว่า ช่วงนี้ไม่ใช่เวลาเฉลิมฉลอง ขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันปฏิบัติหน้าที่และแก้ปัญหาต่างๆ ของชาติ
"การที่พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาแก้ปัญหาบ้านเมืองในช่วงนี้ ถือเป็นบุคคลที่เสียสละ ไม่ใช่ว่าใครอยากจะเข้ามาตรงนี้ก็จะเข้ามาได้ ต้องเป็นคนเสียสละอย่างสูง ผมก็ขอให้กำลังใจ และก็จะเป็นกำลังสำคัญในการทำงานในฐานะที่เป็นกลไกของรัฐบาล" เลขาธิการสมช. กล่าว
** โผครม."ประยุทธ์1"
สำหรับรายชื่อบุคคล ที่คาดว่าจะเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรี ในครม."ประยุทธ์ 1" มีดังนี้
พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะควบตำแหน่ง รมว.กลาโหม
พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง จะเป็นรองนายกรัฐมนตรี ควบ รมว.คมนาคม
พล.ร.อ. ณรงค์ พิพัฒนาศัย เป็นรองนายกรัฐมนตรี ควบ รมว.ศึกษาธิการ
พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ควบ รมว.ต่างประเทศ
พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ควบรมว.คลัง
พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย
พล.อ. ดาว์พงษ์ รัตนสุบรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมช.คลัง
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์
นายพรชัย รุจิประภา รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ รมว.สาธารณสุข
นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม
นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ เป็นรมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นต้น
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี เป็น รมว.พลังงาน
**วันเกิด"ป๋าเปรม"ปีนี้งดเปิดบ้านสี่เสาฯ
วานนี้ (25 ส.ค.) พล.ท.พิศณุ พุทธวงศ์ หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษ กล่าวถึงกรณี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ จะงดเปิดบ้านสี่เสาเทเวศร์ ให้ ผบ.เหล่าทัพเข้าอวยพร เนื่องในวันเกิดปีนี้ ว่า ท่านได้บอกกับตนว่าในวันนี้ (26 ส.ค.) วันเกิดปีนี้ จะขอจัดงานเฉพาะภายใน และขอความเป็นส่วนตัว อีกทั้ง พล.อ.เปรม ไม่อยากจะรบกวนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการทหารบก และในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ รวมถึง ผบ.เหล่าทัพท่านอื่นๆ อีกด้วย เนื่องจากว่า ผบ.เหล่าทัพแต่ละท่าน ต่างมีงาน และภารกิจมากมายในการบริหารประเทศในเวลานี้ โดยงานวันเกิดในปีนี้ จึงขอจัดงานแบบปกติดีกว่า
"พล.อ.เปรมไม่อยากให้เป็นการรบกวนเวลาการทำงานของ ผบ.เหล่าทัพ แต่ได้บอกไว้แล้วว่าจะให้เลขานุการ ของแต่ละเหล่าทัพ ส่งการ์ด หรือกระเช้าดอกไม้มาอวยพร แทนก็พอแล้ว ตัวไม่ต้องมาเองก็ได้" พล.ท.พิศณุ กล่าว
******ทภ.2ทำบุญคล้ายวันเกิด"ป๋าเปรม"95ปี
เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ศาลาการเปรียญวัดศาลาเย็น ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ท.ชวลิต ชุนประสาน แม่ทัพน้อยที่ 2 เป็นประธานประกอบพิธีทำบุญเลี้ยงพระ 9 รูป และปล่อยนกกระจิบ 96 ตัว ปล่อยปลาทับทิม 196 ตัว ในโอกาสวันคล้ายวันเกิดพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ครบรอบ 95 ปี วันที่ 26 สิงหาคม โดยมีนายทหารระดับสูงของกองทัพภาคที่ 2 กองทัพน้อยที่ 2 กองพลพัฒนา กองพันต่างๆเข้ารวมกว่า 50 คน ซึ่งปีนี้มีเพียงข้าราชการทหารมาร่วมพิธีเท่านั้น ทางจังหวัดและหน่วยงานอื่นไม่ได้ส่งตัวแทนมาร่วมพิธีแต่อย่างใด และการจัดงานเป็นไปด้วยความเรียบง่ายเช่นเดียวกับทุกปี เพื่อเป็นการระลึกถึงคุณงามความดีของพล.อ.เปรม ที่ทำคุณประโยชน์ให้กับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และประเทศชาติ
***“อดุลย์” ปัด ถูกทาบนั่งครม.
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้าคสช. ฝ่ายกิจการพิเศษ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันนทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ยังไม่ส่งสัญญาณว่า จะเข้ามาทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อไร หลังจากนี้ (25ส.ค.)ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีแล้ว ส่วนการทำงานของฝ่ายกิจการพิเศษร่วมกับรัฐบาลนั้น เป็นไปตามโรดแมปที่วางไว้ ซึ่งจะมีการส่งมอบงานในการดูแลให้กับรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาต่อไป ส่วนตนนั้นพร้อมทำงานตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ มอบหมายให้ อย่างไรก็ตามยังไม่มีการทาบทามตน ให้เป็นคณะรัฐมนตรี(ครม.) แต่อย่างใด
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวถึงการเชิญบรรดาที่ปรึกษาประจำสำนักนายกฯ ที่ คสช.มีคำสั่งโยกย้ายให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี จำนวน 22 คน รับประทานอาหารร่วมกัน เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า เป็นนโยบายที่หัวหน้า คสช.ต้องการให้มีการร่วมพูดคุยสอบถามว่าความเป็นมา ซึ่งบรรยกาศเป็นไปด้วยดี ทั้งนี้จะมีการมอบหมายงานให้แต่ละท่านช่วยงานของรัฐบาลในอนาคตต่อไป.