วานนี้ (21 ส.ค.) พ.ต.ท.ณัฐธวรรธน์ อัตถกิจวิโรจน์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุ พบศพชายและหญิง ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 99 ม.10 บ้านคอลาด ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ จึงรุดไปทำการตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.วสันต์ บุญเจริญ รอง ผบก.ภจว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.นครพัฒน์ พรหมพันธุ์ รอง ผบกฯ พ.ต.อ.ยงยุทธ เดชะรัฐ รอง ผบก.ฯ พ.ต.อ.ศุภณัฏฐ์ เจริญเรืองสกุล ผกก.สภ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ พ.ต.ท.ฤกษ์ชัย แสงสว่าง รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ประเสริฐ อินทร์สุข สว.สส. ร.อ.ประสพโชค สันตยานนท์ ผบ.ร้อย ร.ส. ทร.3 ร.ท.ชลชาติ วาลุกาสุวรรณ รอง ผบ.ร้อย ร.ส. ทร.3 ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวปลูกอยู่ใกล้กับบ่อเลี้ยงปลา ภายในห้องโถงของบ้านพบศพนางลาภ พรหมศาสตร์ อายุ 79 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด 9 มม.ที่หน้าผากกระสุนทะลุท้ายทอย นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอน ในสภาพเหมือนนอนหลับ มีปลอกกระสุนตกอยู่บนที่นอน ห่างไปเล็กน้อยภายในห้องนอนของบ้านพบศพนายชิ้น พรหมศาสตร์ อายุ 77 ปี ถูกยิงที่ขมับซ้ายทะลุกกหูด้านขวา นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอน เช่นกัน ตรวจสอบภายในบ้าน ไม่มีการถูกรื้อค้นหรือร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด ตรวจสอบทรัพย์สินพบว่ายังอยู่ครบ
สอบสวน น.ส.กาญจนา ภู่หลัน อายุ 30 ปี หลานสาวของผู้ตายให้การว่า ผู้ตายพักอาศัยอยู่กับตนเองและสามี รวมแล้ว 4 คนภายในบ้าน ตนเองได้เข้านอนตามปกติ กระทั่งตื่นเช้าแปลกใจว่าทำไมยายไม่ตื่นจึงไปปลุก กระทั่งพบว่ายายถูกยิงเสียชีวิตแล้ว จึงไปเคาะประตูเรียกตาก็ไม่ตอบ เห็นประตูห้องไม่ได้ล๊อคจึงเปิดเข้าไปปรากฏว่า ตาก็ถูกยิงเสียชีวิตเช่นกัน จึงรีบโทรศัพท์ แจ้งตำรวจ ซึ่งเมื่อช่วงค่ำก่อนเข้านอนได้มีช่างแอร์ มาทำการซ่อมแอร์ภายในบ้าน ทำให้ประตูด้านหลังบ้านไม่ได้ล๊อค ส่วนประตูหน้าของบ้านล๊อคปกติ จึงคาดว่าคนร้ายน่าจะเข้ามาทางหลังบ้าน แต่ที่แปลกใจคือ ตนเองไม่ได้ยินเสียงปืน และสุนัขที่เลี้ยงไว้ในบ้านไม่เห่า
ด้านนายรุ่ง พรหมศาสตร์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.10 ต.บางบ่อ ให้การว่า ผู้ตายเป็นพ่อและแม่ของตนเอง นายชิ้นผู้เป็นพ่อนั้นเคยเป็นผู้ใหญ่บ้าน ม.10 ต.บางบ่อ มาหลายปี เป็นที่รักของชาวบ้านละแวกบางบ่อมาก ไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับใคร คุณพ่อ เคยได้รับคัดเลือกเป็นพ่อตัวอย่างแห่งชาติ เมื่อปี พ.ศ.2552 ตนเองพักอยู่ไม่ไกลจากบ้านพ่อแม่ ทราบข่าวจึงรีบมาดูรู้สึกตกใจมาก
ต่อมาทางตำรวจและทหารได้เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 13 ม.10 ต.บางบ่อ ซึ่งเป็นบ้านของนายชูชีพ พรหมศาสตร์ อายุ 35 ปี หลานชายของผู้เสียชีวิต ซึ่งปลูกบ้านอยู่ติดกับบ้านเกิดเหตุ พบอาวุธปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนจำนวน 48 นัด ซุกซ่อนอยู่ใต้เตียงนอน จึงควบคุมตัวมาสอบสวน กระทั่งนายชูชีพ ให้การรับสารภาพว่า ตนเองเป็นคนลงมือก่อเหตุยิงปู่กับย่า สาเหตุเนื่องจาก ถูกทั้งคู่ ต่อว่ามานาน หาว่ามีพฤติกรรมไม่ดี จึงตัดสินใจสั่งซื้อปืนทางอินเตอร์เน็ต เป็นเงิน 40,000บาทจากนั้นได้นำมาเก็บไว้ เมื่อได้โอกาสจึงย่องเข้าไปก่อเหตุยิงปู่จากนั้นก็ยิงย่าขณะที่หลับอยู่ จนเสียชีวิต
ด้าน พ.ต.อ.ศุภณัฏฐ์ เจริญเรืองสกุล ผกก.สภ.บางบ่อ กล่าวว่า ผู้ต้องหามีประวัติเคยเสพยาบ้า และผงขาว ไม่มีงานทำ ปู่ย่า อาจจะตักเตือนด้วยความหวังดี แต่นายชูชีพ รู้สึกโกรธแค้น และลงมือยิงปู่ย่าของตัวเอง ในเบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งข้อหา ฆ่าคนตายโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนศพได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวชวิทยาชันสูติหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวปลูกอยู่ใกล้กับบ่อเลี้ยงปลา ภายในห้องโถงของบ้านพบศพนางลาภ พรหมศาสตร์ อายุ 79 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด 9 มม.ที่หน้าผากกระสุนทะลุท้ายทอย นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอน ในสภาพเหมือนนอนหลับ มีปลอกกระสุนตกอยู่บนที่นอน ห่างไปเล็กน้อยภายในห้องนอนของบ้านพบศพนายชิ้น พรหมศาสตร์ อายุ 77 ปี ถูกยิงที่ขมับซ้ายทะลุกกหูด้านขวา นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอน เช่นกัน ตรวจสอบภายในบ้าน ไม่มีการถูกรื้อค้นหรือร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด ตรวจสอบทรัพย์สินพบว่ายังอยู่ครบ
สอบสวน น.ส.กาญจนา ภู่หลัน อายุ 30 ปี หลานสาวของผู้ตายให้การว่า ผู้ตายพักอาศัยอยู่กับตนเองและสามี รวมแล้ว 4 คนภายในบ้าน ตนเองได้เข้านอนตามปกติ กระทั่งตื่นเช้าแปลกใจว่าทำไมยายไม่ตื่นจึงไปปลุก กระทั่งพบว่ายายถูกยิงเสียชีวิตแล้ว จึงไปเคาะประตูเรียกตาก็ไม่ตอบ เห็นประตูห้องไม่ได้ล๊อคจึงเปิดเข้าไปปรากฏว่า ตาก็ถูกยิงเสียชีวิตเช่นกัน จึงรีบโทรศัพท์ แจ้งตำรวจ ซึ่งเมื่อช่วงค่ำก่อนเข้านอนได้มีช่างแอร์ มาทำการซ่อมแอร์ภายในบ้าน ทำให้ประตูด้านหลังบ้านไม่ได้ล๊อค ส่วนประตูหน้าของบ้านล๊อคปกติ จึงคาดว่าคนร้ายน่าจะเข้ามาทางหลังบ้าน แต่ที่แปลกใจคือ ตนเองไม่ได้ยินเสียงปืน และสุนัขที่เลี้ยงไว้ในบ้านไม่เห่า
ด้านนายรุ่ง พรหมศาสตร์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.10 ต.บางบ่อ ให้การว่า ผู้ตายเป็นพ่อและแม่ของตนเอง นายชิ้นผู้เป็นพ่อนั้นเคยเป็นผู้ใหญ่บ้าน ม.10 ต.บางบ่อ มาหลายปี เป็นที่รักของชาวบ้านละแวกบางบ่อมาก ไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับใคร คุณพ่อ เคยได้รับคัดเลือกเป็นพ่อตัวอย่างแห่งชาติ เมื่อปี พ.ศ.2552 ตนเองพักอยู่ไม่ไกลจากบ้านพ่อแม่ ทราบข่าวจึงรีบมาดูรู้สึกตกใจมาก
ต่อมาทางตำรวจและทหารได้เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 13 ม.10 ต.บางบ่อ ซึ่งเป็นบ้านของนายชูชีพ พรหมศาสตร์ อายุ 35 ปี หลานชายของผู้เสียชีวิต ซึ่งปลูกบ้านอยู่ติดกับบ้านเกิดเหตุ พบอาวุธปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนจำนวน 48 นัด ซุกซ่อนอยู่ใต้เตียงนอน จึงควบคุมตัวมาสอบสวน กระทั่งนายชูชีพ ให้การรับสารภาพว่า ตนเองเป็นคนลงมือก่อเหตุยิงปู่กับย่า สาเหตุเนื่องจาก ถูกทั้งคู่ ต่อว่ามานาน หาว่ามีพฤติกรรมไม่ดี จึงตัดสินใจสั่งซื้อปืนทางอินเตอร์เน็ต เป็นเงิน 40,000บาทจากนั้นได้นำมาเก็บไว้ เมื่อได้โอกาสจึงย่องเข้าไปก่อเหตุยิงปู่จากนั้นก็ยิงย่าขณะที่หลับอยู่ จนเสียชีวิต
ด้าน พ.ต.อ.ศุภณัฏฐ์ เจริญเรืองสกุล ผกก.สภ.บางบ่อ กล่าวว่า ผู้ต้องหามีประวัติเคยเสพยาบ้า และผงขาว ไม่มีงานทำ ปู่ย่า อาจจะตักเตือนด้วยความหวังดี แต่นายชูชีพ รู้สึกโกรธแค้น และลงมือยิงปู่ย่าของตัวเอง ในเบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งข้อหา ฆ่าคนตายโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนศพได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวชวิทยาชันสูติหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป
