ศูนย์ข่าวเชียงใหม่-น้ำป่าทะลักกลางดึก พัดดินโคลนเข้าถล่ม ชาวบ้านทุ่งช้างตั้งตัวไม่ทัน บ้านเรือนเสียหายกว่า 300 หลัง ชาวบ้านวัย 60 ถูกสูญหาย 1 รายไปพร้อมกับบ้าน ผู้ว่าฯ ทหาร ประสานทุกฝ่ายเข้าช่วยเหลือกู้ซาก มหาดไทยร่อนหนังสือเตือน 20 จังหวัดเหนือ อีสานรับมือ
เมื่อเช้าวานนี้ (20 ส.ค.) นายอุกริช พึ่งโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน และ พล.ต.วิจักษฐ์ สิริบรรสพ ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จทบ.น่าน ได้เร่งประสานหน่วยงานทั้งฝ่ายพลเรือนและทหารเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากน้ำป่าหลากลงสู่ลำน้ำงอบ และเอ่อท่วมฉับพลัน เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.ของคืนวันที่ 20 ส.ค. จากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 8 หมู่บ้าน 3 ตำบลกว่า 300 ครัวเรือนคือหมู่ 6 ต.งอบ หมู่ 1,5 ต.ทุ่งช้าง หมู่ 1,5,8,9 และ 10 เขตเทศบาลตำบลงอบ อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน โดยน้ำป่าได้พัดพาดินโคลนไหลเข้าบ้านเรือน เครื่องใช้ในบ้านถูกกระแสน้ำพัด และสิ่งสาธารณูปโภคสาธารณะเสียหายอย่างหนัก
นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านถูกกระแสน้ำพัดสูญหายไป 1 ราย คือ นายคุต ก๋าคำ อายุ 60 ปี ชาวบ้านหมู่ 5 บ้านทุ่งผึ้ง ต.ทุ่งช้าง อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน เนื่องจากบ้านเรือนอยู่ติดริมน้ำถูกพัดหายไปทั้งหลัง ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งค้นหา ซึ่งยังไม่พบร่างของนายคุต แต่อย่างใด
สำหรับความเสียหายจากเหตุน้ำป่าทะลักท่วม 8 หมู่บ้านครั้งนี้ จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่า โรงเรียนชุมชนบ้านเฟือยลุงต้องหยุดการเรียนการสอน 1 วัน เนื่องจากบ้านของเด็กนักเรียนส่วนใหญ่ประสบภัยน้ำป่าไหลหลาก แต่โรงเรียนไม่ได้รับผลกระทบ
ส่วนความเสียหายที่บ้านสลี ต.ทุ่งช้าง อ.ทุ่งช้าง พบว่าบางส่วนไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้, คอสะพานคอนกรีตในหมู่บ้านที่เชื่อมระหว่างบ้านสลี-บ้านมอญ ขาดกว้างกว่า 10 เมตร รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้, ถนนเลียบลำน้ำ ช่วงบ้านสลี-บ้านมอญ ได้รับความเสียหายจากกระแสน้ำ และดินโคลน ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งล้างดินโคลน และซ่อมแซมบางจุดที่เสียหายเพื่อให้ประชาชนสามารถใช้งานได้เบื้องต้น นอกจากนี้ ยังมีรายงานดินสไลด์ปิดเส้นทางปางแก-มณีพฤกษ์ รถไม่สามารถผ่านสัญจรได้
สำหรับสภาพอากาศในพื้นที่ จ.น่าน ขณะนี้ท้องฟ้ายังคงเต็มไปด้วยเมฆฝนและมีฝนตกในบางช่วง ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องจึงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าร่องมรสุมพาดผ่านประเทศพม่า ประเทศลาว และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนัก บางแห่งบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในช่วงวันที่ 20-21 ส.ค.นี้
ทั้งนี้ ขอเตือน 20 จังหวัดได้แก่ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน นครพนม สกลนคร หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี เลย และหนองบัวลำภู รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 7 สกลนคร เขต 9 พิษณุโลก เขต 14 อุดรธานี เขต 15 เชียงราย จัดเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย
นอกจากนี้ ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด
เมื่อเช้าวานนี้ (20 ส.ค.) นายอุกริช พึ่งโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน และ พล.ต.วิจักษฐ์ สิริบรรสพ ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จทบ.น่าน ได้เร่งประสานหน่วยงานทั้งฝ่ายพลเรือนและทหารเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากน้ำป่าหลากลงสู่ลำน้ำงอบ และเอ่อท่วมฉับพลัน เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.ของคืนวันที่ 20 ส.ค. จากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 8 หมู่บ้าน 3 ตำบลกว่า 300 ครัวเรือนคือหมู่ 6 ต.งอบ หมู่ 1,5 ต.ทุ่งช้าง หมู่ 1,5,8,9 และ 10 เขตเทศบาลตำบลงอบ อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน โดยน้ำป่าได้พัดพาดินโคลนไหลเข้าบ้านเรือน เครื่องใช้ในบ้านถูกกระแสน้ำพัด และสิ่งสาธารณูปโภคสาธารณะเสียหายอย่างหนัก
นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านถูกกระแสน้ำพัดสูญหายไป 1 ราย คือ นายคุต ก๋าคำ อายุ 60 ปี ชาวบ้านหมู่ 5 บ้านทุ่งผึ้ง ต.ทุ่งช้าง อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน เนื่องจากบ้านเรือนอยู่ติดริมน้ำถูกพัดหายไปทั้งหลัง ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งค้นหา ซึ่งยังไม่พบร่างของนายคุต แต่อย่างใด
สำหรับความเสียหายจากเหตุน้ำป่าทะลักท่วม 8 หมู่บ้านครั้งนี้ จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่า โรงเรียนชุมชนบ้านเฟือยลุงต้องหยุดการเรียนการสอน 1 วัน เนื่องจากบ้านของเด็กนักเรียนส่วนใหญ่ประสบภัยน้ำป่าไหลหลาก แต่โรงเรียนไม่ได้รับผลกระทบ
ส่วนความเสียหายที่บ้านสลี ต.ทุ่งช้าง อ.ทุ่งช้าง พบว่าบางส่วนไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้, คอสะพานคอนกรีตในหมู่บ้านที่เชื่อมระหว่างบ้านสลี-บ้านมอญ ขาดกว้างกว่า 10 เมตร รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้, ถนนเลียบลำน้ำ ช่วงบ้านสลี-บ้านมอญ ได้รับความเสียหายจากกระแสน้ำ และดินโคลน ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งล้างดินโคลน และซ่อมแซมบางจุดที่เสียหายเพื่อให้ประชาชนสามารถใช้งานได้เบื้องต้น นอกจากนี้ ยังมีรายงานดินสไลด์ปิดเส้นทางปางแก-มณีพฤกษ์ รถไม่สามารถผ่านสัญจรได้
สำหรับสภาพอากาศในพื้นที่ จ.น่าน ขณะนี้ท้องฟ้ายังคงเต็มไปด้วยเมฆฝนและมีฝนตกในบางช่วง ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องจึงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าร่องมรสุมพาดผ่านประเทศพม่า ประเทศลาว และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนัก บางแห่งบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในช่วงวันที่ 20-21 ส.ค.นี้
ทั้งนี้ ขอเตือน 20 จังหวัดได้แก่ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน นครพนม สกลนคร หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี เลย และหนองบัวลำภู รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 7 สกลนคร เขต 9 พิษณุโลก เขต 14 อุดรธานี เขต 15 เชียงราย จัดเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย
นอกจากนี้ ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด
