ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กำหนดโหวตสรรหานายกรัฐมนตรี ในวันที่ 21 ส.ค. นี้ ขณะที่ความคืบหน้าการปรับปรุงทำเนียบรัฐบาล และบ้านพิษณุโลก เพื่อรองรับการทำงานรัฐบาลชุดใหม่ ก็มีความคืบหน้าไปมาก เจ้าหน้าที่กรมยุทธโยธาทหารบก กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมศิลปากร กทม.ได้ระดมเจ้าหน้าที่ คนงาน เร่งปรับปรุง 24 ชั่วโมง
ในส่วนของตึกไทยคู่ฟ้า กำหนดให้แล้วเสร็จในวันที่ 20 ส.ค. และช้าสุดไม่เกินวันที่ 25 ส.ค. มีความคืบหน้ามากสุด ภายในปรับปรุงเสร็จแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เหลือแค่ทางสีภายใน-นอก ตึกเท่านั้น ห้องทำงานนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ชั้น 2 ของตึกไทยคู่ฟ้า ปรับปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีการเปลี่ยนเก้าอี้นายกรัฐมนตรีใหม่ แต่ยังไม่ได้มีการนำเข้ามาจัดวาง ส่วนโต๊ะทำงาน ยังใช้โต๊ะเดิมที่มีการใช้มาตั้งแต่สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีการเปลี่ยนสุขภัณฑ์ใหม่หมด โดยใช้สุขภัณฑ์สีขาว และติดตั้งโถสุขภัณฑ์ชายเพิ่ม จากเดิมที่ได้มีการถอดออกไปในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ส่วนพรม ผ้าม่าน แซนเดอเลียร์ ได้ใช้ของเดิมทั้งหมด โดยซัก ล้าง และได้ซ่อมท่อน้ำที่ตรวจเช็คมีจุดรั่วหลายจุด เรียบร้อยหมดแล้ว
ทั้งนี้ ทีมงาน คสช. ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้า คสช.ได้เข้ามาตรวจดูความพร้อมห้องต่างๆ ภายในตึกไทยคู่ฟ้าแล้ว ทั้งห้องทำงานนายกรัฐมนตรี ห้องรับรอง ห้องอาหาร และห้องทีมงานรักษาความปลอดภัย มีการตรวจเช็คระบบตัดสัญญาณป้องกันการดักฟัง ขณะที่ห้องทำงานนายกฯ ทางทีมงาน คสช.ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ทำเนียบฯ ทำการปิดล็อกห้อง โดยแจ้งว่าเพื่อรอซินแสจากทาง คสช. เข้ามาดูฮวงจุ้ย วางทิศทางโต๊ะทำงาน ซึ่งทางกองพิธีการ และกองสถานที่ และยานพาหนะ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แจ้งว่า ขณะนี้รอการประสานจากทางคสช.ในวันที่ซินแสจะเข้ามาดู ก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะเข้ามาปฏับัติหน้าที่ในทำเนียบรัฐบาล
ขณะที่ตึกนารีสโมสร ที่ปรับปรุงจากศูนย์แถลงข่าว เป็นเรือนรับรองแขกนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี มีความคืบหน้าไปมากเช่นกัน โดยจะแล้วเสร็จสิ้นเดือนก.ย. ขณะที่ตึกบัญชาการ 1 คนงานได้เร่งปรับปรุง โดยเฉพาะชั้น 5 ที่จะใช้เป็นห้องประชุมคณะรัฐมตรี (ครม.) จากเดิมที่ใช้ตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เป็นที่ประชุม เจ้าหน้าที่ได้เร่งติดระบบเครื่องเสียง เปลี่ยนเก้าอี้ เปลี่ยนพรม แอร์ ติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ ระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ และตรวจเช็คเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์ เพื่อป้องกันการดักฟัง ซึ่งเดิมติดตั้งไว้อยู่แล้วทุกห้องประชุม
ส่วนห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในชั้นอื่นๆ ในตึกบัญชาการ 1 ไม่ได้มีการปรับปรุง จะปรับปรุงเฉพาะทางเดินระหว่างห้องเปลี่ยนเป็นพื้นไม้แผ่นเดียว จากเดิมเป็นพื้นไม้หลายแผ่น ส่วนห้องโถงชั้น 1 เปลี่ยนจากกระเบื้องเป็นหินแกรนิต
สำหรับตึกบัญชาการ 2 ที่ปรับเป็นห้องทำงานของทีมงานโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และใช้เป็นศูนย์แถลงข่าว หัวหน้าคุมงานปรับปรุงทำเนียบฯ เปิดเผยว่า อาจจะล่าช้า เสร็จหลังอาคารอื่นๆ เนื่องจากมีสภาพชำรุดทรุดโทรมมาก
ส่วนบ้านพิษณุโลก เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรได้เข้าปรับปรุงอาคารหลังต่างๆ แล้ว รวมทั้งสวนหย่อม ที่คนงานบริษัทสวนนงนุช ได้เข้าปรับปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยการปรับปรุงทั้งหมด ได้รับการยืนยันว่าแล้วเสร็จตามกำหนดอย่างแน่นอนภายในวันที่ 15 ก.ย.นี้
ในส่วนของตึกไทยคู่ฟ้า กำหนดให้แล้วเสร็จในวันที่ 20 ส.ค. และช้าสุดไม่เกินวันที่ 25 ส.ค. มีความคืบหน้ามากสุด ภายในปรับปรุงเสร็จแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เหลือแค่ทางสีภายใน-นอก ตึกเท่านั้น ห้องทำงานนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ชั้น 2 ของตึกไทยคู่ฟ้า ปรับปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีการเปลี่ยนเก้าอี้นายกรัฐมนตรีใหม่ แต่ยังไม่ได้มีการนำเข้ามาจัดวาง ส่วนโต๊ะทำงาน ยังใช้โต๊ะเดิมที่มีการใช้มาตั้งแต่สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีการเปลี่ยนสุขภัณฑ์ใหม่หมด โดยใช้สุขภัณฑ์สีขาว และติดตั้งโถสุขภัณฑ์ชายเพิ่ม จากเดิมที่ได้มีการถอดออกไปในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ส่วนพรม ผ้าม่าน แซนเดอเลียร์ ได้ใช้ของเดิมทั้งหมด โดยซัก ล้าง และได้ซ่อมท่อน้ำที่ตรวจเช็คมีจุดรั่วหลายจุด เรียบร้อยหมดแล้ว
ทั้งนี้ ทีมงาน คสช. ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้า คสช.ได้เข้ามาตรวจดูความพร้อมห้องต่างๆ ภายในตึกไทยคู่ฟ้าแล้ว ทั้งห้องทำงานนายกรัฐมนตรี ห้องรับรอง ห้องอาหาร และห้องทีมงานรักษาความปลอดภัย มีการตรวจเช็คระบบตัดสัญญาณป้องกันการดักฟัง ขณะที่ห้องทำงานนายกฯ ทางทีมงาน คสช.ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ทำเนียบฯ ทำการปิดล็อกห้อง โดยแจ้งว่าเพื่อรอซินแสจากทาง คสช. เข้ามาดูฮวงจุ้ย วางทิศทางโต๊ะทำงาน ซึ่งทางกองพิธีการ และกองสถานที่ และยานพาหนะ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แจ้งว่า ขณะนี้รอการประสานจากทางคสช.ในวันที่ซินแสจะเข้ามาดู ก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะเข้ามาปฏับัติหน้าที่ในทำเนียบรัฐบาล
ขณะที่ตึกนารีสโมสร ที่ปรับปรุงจากศูนย์แถลงข่าว เป็นเรือนรับรองแขกนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี มีความคืบหน้าไปมากเช่นกัน โดยจะแล้วเสร็จสิ้นเดือนก.ย. ขณะที่ตึกบัญชาการ 1 คนงานได้เร่งปรับปรุง โดยเฉพาะชั้น 5 ที่จะใช้เป็นห้องประชุมคณะรัฐมตรี (ครม.) จากเดิมที่ใช้ตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เป็นที่ประชุม เจ้าหน้าที่ได้เร่งติดระบบเครื่องเสียง เปลี่ยนเก้าอี้ เปลี่ยนพรม แอร์ ติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ ระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ และตรวจเช็คเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์ เพื่อป้องกันการดักฟัง ซึ่งเดิมติดตั้งไว้อยู่แล้วทุกห้องประชุม
ส่วนห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในชั้นอื่นๆ ในตึกบัญชาการ 1 ไม่ได้มีการปรับปรุง จะปรับปรุงเฉพาะทางเดินระหว่างห้องเปลี่ยนเป็นพื้นไม้แผ่นเดียว จากเดิมเป็นพื้นไม้หลายแผ่น ส่วนห้องโถงชั้น 1 เปลี่ยนจากกระเบื้องเป็นหินแกรนิต
สำหรับตึกบัญชาการ 2 ที่ปรับเป็นห้องทำงานของทีมงานโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และใช้เป็นศูนย์แถลงข่าว หัวหน้าคุมงานปรับปรุงทำเนียบฯ เปิดเผยว่า อาจจะล่าช้า เสร็จหลังอาคารอื่นๆ เนื่องจากมีสภาพชำรุดทรุดโทรมมาก
ส่วนบ้านพิษณุโลก เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรได้เข้าปรับปรุงอาคารหลังต่างๆ แล้ว รวมทั้งสวนหย่อม ที่คนงานบริษัทสวนนงนุช ได้เข้าปรับปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยการปรับปรุงทั้งหมด ได้รับการยืนยันว่าแล้วเสร็จตามกำหนดอย่างแน่นอนภายในวันที่ 15 ก.ย.นี้