ASTVผู้จัดการรายวัน - ธปท.เผยปลื้มขณะนี้เศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น หลังปลายไตรมาส 2 ของปีสถานการณ์การเมืองและนโยบายภาครัฐมีความชัดเจนมากขึ้น ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจจริงออกในช่วงครึ่งแรกของปี 57 หดตัวน้อยกว่าที่ ธปท.คาดการณ์ไว้ ทำให้ตลาดการเงินตอบรับเชิงบวกทันที ชี้ระยะต่อไป ธปท.จะติดตามแรงส่งด้านการใช้จ่ายภาคเอกชน-รัฐจะส่งดันเศรษฐกิจไทยโดยรวม
นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า หลังจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ได้ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 57 หดตัวระดับ 0.1% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน ถือว่าตัวเลขจริงออกมาหดตัว แต่ค่อนข้างดีกว่าที่ ธปท.คาดการณ์ไว้ ซึ่งประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงเวลาดังกล่าวจะหดตัวถึง 0.5% ดังนั้น ในช่วงระยะต่อไป ธปท.จะติดตามตัวเลขเศรษฐกิจ เพื่อประเมินแรงส่งทางด้านการใช้จ่ายภาคเอกชนและภาครัฐว่าจะมีความต่อเนื่องอย่างไร
“จากการที่เศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ปรับตัวดีขึ้นกว่าที่คาด หลังจากประกาศตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้ตลาดการเงินเมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมาตอบรับในเชิงบวก โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย แต่ธุรกรรมต่างๆ ยังปกติ” โฆษก ธปท.กล่าว
ทั้งนี้ ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของไทยในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้กลับมาขยายตัว 0.4% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน ถือเป็นการยืนยันทิศทางเศรษฐกิจไทยที่ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากในช่วงปลายไตรมาส 2 สถานการณ์ทางการเมืองและนโยบายภาครัฐมีความชัดเจนมากขึ้น ทำให้การบริโภคทั้งภาครัฐและเอกชนขยายตัวตามความเชื่อมั่นที่ปรับตัวดีขึ้น
ขณะเดียวกัน ตัวเลขจีดีพีในช่วงไตรมาส 2 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าขยายตัว 0.9% หลังจากที่หดตัวในไตรมาสแรก 1.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า สะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยไม่ได้ประสบภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Technical Recession) ตามหลายฝ่ายกังวลไว้ เนื่องจากเมื่อพิจารณาตัวเลขจีดีพีไตรมาสต่อไตรมาสไม่ได้หดตัวสองไตรมาสติดต่อกัน ซึ่งน่าจะช่วยคลายข้อกังวลของนักลงทุน (anchor invertors’sentiment) ได้ค่อนข้างดี.
นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า หลังจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ได้ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 57 หดตัวระดับ 0.1% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน ถือว่าตัวเลขจริงออกมาหดตัว แต่ค่อนข้างดีกว่าที่ ธปท.คาดการณ์ไว้ ซึ่งประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงเวลาดังกล่าวจะหดตัวถึง 0.5% ดังนั้น ในช่วงระยะต่อไป ธปท.จะติดตามตัวเลขเศรษฐกิจ เพื่อประเมินแรงส่งทางด้านการใช้จ่ายภาคเอกชนและภาครัฐว่าจะมีความต่อเนื่องอย่างไร
“จากการที่เศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ปรับตัวดีขึ้นกว่าที่คาด หลังจากประกาศตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้ตลาดการเงินเมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมาตอบรับในเชิงบวก โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย แต่ธุรกรรมต่างๆ ยังปกติ” โฆษก ธปท.กล่าว
ทั้งนี้ ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของไทยในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้กลับมาขยายตัว 0.4% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน ถือเป็นการยืนยันทิศทางเศรษฐกิจไทยที่ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากในช่วงปลายไตรมาส 2 สถานการณ์ทางการเมืองและนโยบายภาครัฐมีความชัดเจนมากขึ้น ทำให้การบริโภคทั้งภาครัฐและเอกชนขยายตัวตามความเชื่อมั่นที่ปรับตัวดีขึ้น
ขณะเดียวกัน ตัวเลขจีดีพีในช่วงไตรมาส 2 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าขยายตัว 0.9% หลังจากที่หดตัวในไตรมาสแรก 1.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า สะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยไม่ได้ประสบภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Technical Recession) ตามหลายฝ่ายกังวลไว้ เนื่องจากเมื่อพิจารณาตัวเลขจีดีพีไตรมาสต่อไตรมาสไม่ได้หดตัวสองไตรมาสติดต่อกัน ซึ่งน่าจะช่วยคลายข้อกังวลของนักลงทุน (anchor invertors’sentiment) ได้ค่อนข้างดี.
