"ชลอ เกิดเทศ" พร้อมทนาย ได้เป็นตัวแทนบริษัท ปลูกแปลง ซึ่งบุตรชายเป็นเจ้าของบริษัทรับเหมาคอนโดยูเพลส 6 ชั้นถล่ม มอบเงินผ่านผู้ว่าปทุมฯ ปลอบขวัญผู้ประสบภัย พร้อมยืนยัน"ชนัยชนม์" เตรียมเข้ามอบตัวสัปดาห์นี้ ด้านสภาวิศวกรตั้งอนุฯ สอบข้อมูลเชิงลึกถึงสาเหตุตึกถล่มที่ปทุมธานี คาด 3 เดือนรู้ผล
วานนี้ (18 สค.57) ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี (นายพงศธร สัจจชลพันธุ์) รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นเพื่อปลอบขวัญ แก่ผู้ประสบภัย โดยนายชลอ เกิดเทศ หรืออดีตพล.ต.ท. ชลอ เกิดเทศ ผู้บัญชาการประจำกรมตำรวจ และบริษัทปลูกแปลง จำกัด โดยนายชลอฯได้เป็นตัวแทนบุตรชาย ได้มามอบเงินช่วยเหลือผู้เสียชีวิต รายละ 10,000 บาท ผู้บาดเจ็บรายละ 2,000 บาท และผู้บาดเจ็บสาหัส รายละ 7,000 บาท รวมเป็นเงิน 250,000 บาท ณ ห้องประชุมชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี โดยนายชนัยชนม์ เกิดเทศ จะเข้ามอบตัวในสัปดาห์นี้
ด้านนายชลอ เกิดเทศ บิดาของนายชนัยชนม์ เกิดเทศ เจ้าของบริษัทปลูกแปลงบริษัทรับเหมาคอนโดยูเพลสถล่ม พร้อมบุตรสาว คือนางสาวกุมาริกา เกิดเทศ พร้อมด้วย นายเฉลิมชัย ไหล่สกุล ทนายความได้นำเงินช่วยเหลือเบื้องต้นเพื่อปลอบขวัญผู้ประสบภัย เป็นเงิน 250,000 บาท โดยผู้เสียชีวิต รายละ 10,000 บาท จำนวน 14 ราย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บรายละ 2,000 บาท จำนวน 15 ราย และผู้บาดเจ็บสาหัสอีกรายละ 7,000 บาทจำนวน 5 ราย ซึ่งรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
ส่วนนายเฉลิมชัย ไหล่สกุล ทนายความกล่าวว่า ทั้งนี้ด้านนายชนัยชนม์ เกิดเทศ ซึ่งเป็นบุตรชายของท่านชลอฯ จะเข้ามอบตัวในสัปดาห์นี้ ที่ สภ.คลองห้า ในส่วนของจังหวัดปทุมธานี นายพงศธร สัจจชลพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่าได้ รับมอบเงินช่วยเหลือดังกล่าว และมอบให้นางกรรณิการ์ พฤกษชาติ ประกันสังคมจังหวัดปทุมธานี เพื่อนำไปมอบให้ผู้ประสบภัยโดยเร็ว ในส่วนของเงินช่วยเหลือจากเจ้าของคอนโดยูเพลส มูลนิธิปอเต็กตึ้ง สำนักงานประกันสังคม ที่ได้รับมาก่อนหน้านี้ได้มอบให้ผู้ประสบภัยแล้ว และยังมีอีกหลายหน่วยงานที่ยื่นความจำนงในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยดังกล่าว
สภาวิศวกรตั้งอนุฯ ตรวจหาสาเหตุตึกถล่มที่ปทุมธานี คาด 3 เดือนรู้ผล
วานนี้ (18 ส.ค.) เมื่อเวลา10.00น. สภาวิศวกรจัด แถลงข่าว “ตึกถล่ม สาเหตุ แนวทางการป้องกันตึกถล่มและความรับผิดชอบของวิศวกร” กรณีอาคาร6ชั้นที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในซอยรังสิตคลอง6พังถล่ม เมื่อวันที่11สิงหาคมจนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายโดยมี นายกมล ตรรกบุตร นายกสภาวิศวกร นายประสงค์ ธาราไชย อุปนายกสภาวิศวกรคนที่ 2 นายเกชา ธีระโกเมน เลขาธิการสภาวิศวกร และนายอมร พิมานมาศ รองเลขาธิการสภาวิศวกร ร่วมแถลง
โดยนายอมร ระบุว่า สภาวิศวกรไม่นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งสาเหตุที่เกิดขึ้น คาดว่าน่าจะเกิดจาก 5 ประเด็นหลัก คือ ขั้นตอนการก่อสร้างไม่ถูกต้อง หรือไม่มีแผนการก่อสร้าง การก่อสร้างที่เร่งรีบเกินไป การออกแบบที่ผิดพลาด และการใช้วัสดุก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน และฐานรากวิบัติ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุเชิงลึก และแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนขึ้น ซึ่งคณะอนุกรรมการจะประกอบไปด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความชำนาญทางด้านวิศวกร แต่ต้องรอรวบรวมเอกสารหลักฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ อบจ. อบต. ตลอดจนมีการประสานข้อมูลจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและผู้รับผิดชอบ เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย โดยคาดว่าหลังจากการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการแล้ว จะสามารถเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งหมดมาให้ข้อมูลเพื่อไต่สวนข้อเท็จจริง คาดว่าภายใน 1-3 เดือน จะทราบสาเหตุที่เกิดขึ้น
ด้าน นายประสงค์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังเกิดกรณีการขึ้นป้ายบ่งชี้รายละเอียดของโครงการก่อสร้างหน้าสถานที่ที่มีการก่อสร้างนั้นๆมีการแอบอ้างชื่อวิศวกรผู้ควบคุมงาน ซึ่งกรณีดังกล่าวมีวิศวกรจำนวนมากร้องเรียนมายังสภาวิศกร อีกทั้งกรณีการแอบอ้างชื่อวิศวกรทางกระทรวงมหาดไทยได้ออกประกาศให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นทั่วประเทศดูแลสอดส่องการแอบอ้างชื่อ หากพบป้ายแสดงรายละเอียดโครงการก่อสร้างมีชื่อวิศวกรไม่ถูกต้องจะต้องเร่งดำเนินการตามกฎหมายทันที อย่างไรก็ตามกรณีดังกล่าว หากประชาชนพบเห็นสถานที่ก่อสร้างใดมีความเสี่ยงอันตราย สามารถแจ้งมายังสภาวิศกรเพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไปได้.
วานนี้ (18 สค.57) ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี (นายพงศธร สัจจชลพันธุ์) รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นเพื่อปลอบขวัญ แก่ผู้ประสบภัย โดยนายชลอ เกิดเทศ หรืออดีตพล.ต.ท. ชลอ เกิดเทศ ผู้บัญชาการประจำกรมตำรวจ และบริษัทปลูกแปลง จำกัด โดยนายชลอฯได้เป็นตัวแทนบุตรชาย ได้มามอบเงินช่วยเหลือผู้เสียชีวิต รายละ 10,000 บาท ผู้บาดเจ็บรายละ 2,000 บาท และผู้บาดเจ็บสาหัส รายละ 7,000 บาท รวมเป็นเงิน 250,000 บาท ณ ห้องประชุมชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี โดยนายชนัยชนม์ เกิดเทศ จะเข้ามอบตัวในสัปดาห์นี้
ด้านนายชลอ เกิดเทศ บิดาของนายชนัยชนม์ เกิดเทศ เจ้าของบริษัทปลูกแปลงบริษัทรับเหมาคอนโดยูเพลสถล่ม พร้อมบุตรสาว คือนางสาวกุมาริกา เกิดเทศ พร้อมด้วย นายเฉลิมชัย ไหล่สกุล ทนายความได้นำเงินช่วยเหลือเบื้องต้นเพื่อปลอบขวัญผู้ประสบภัย เป็นเงิน 250,000 บาท โดยผู้เสียชีวิต รายละ 10,000 บาท จำนวน 14 ราย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บรายละ 2,000 บาท จำนวน 15 ราย และผู้บาดเจ็บสาหัสอีกรายละ 7,000 บาทจำนวน 5 ราย ซึ่งรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
ส่วนนายเฉลิมชัย ไหล่สกุล ทนายความกล่าวว่า ทั้งนี้ด้านนายชนัยชนม์ เกิดเทศ ซึ่งเป็นบุตรชายของท่านชลอฯ จะเข้ามอบตัวในสัปดาห์นี้ ที่ สภ.คลองห้า ในส่วนของจังหวัดปทุมธานี นายพงศธร สัจจชลพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่าได้ รับมอบเงินช่วยเหลือดังกล่าว และมอบให้นางกรรณิการ์ พฤกษชาติ ประกันสังคมจังหวัดปทุมธานี เพื่อนำไปมอบให้ผู้ประสบภัยโดยเร็ว ในส่วนของเงินช่วยเหลือจากเจ้าของคอนโดยูเพลส มูลนิธิปอเต็กตึ้ง สำนักงานประกันสังคม ที่ได้รับมาก่อนหน้านี้ได้มอบให้ผู้ประสบภัยแล้ว และยังมีอีกหลายหน่วยงานที่ยื่นความจำนงในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยดังกล่าว
สภาวิศวกรตั้งอนุฯ ตรวจหาสาเหตุตึกถล่มที่ปทุมธานี คาด 3 เดือนรู้ผล
วานนี้ (18 ส.ค.) เมื่อเวลา10.00น. สภาวิศวกรจัด แถลงข่าว “ตึกถล่ม สาเหตุ แนวทางการป้องกันตึกถล่มและความรับผิดชอบของวิศวกร” กรณีอาคาร6ชั้นที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในซอยรังสิตคลอง6พังถล่ม เมื่อวันที่11สิงหาคมจนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายโดยมี นายกมล ตรรกบุตร นายกสภาวิศวกร นายประสงค์ ธาราไชย อุปนายกสภาวิศวกรคนที่ 2 นายเกชา ธีระโกเมน เลขาธิการสภาวิศวกร และนายอมร พิมานมาศ รองเลขาธิการสภาวิศวกร ร่วมแถลง
โดยนายอมร ระบุว่า สภาวิศวกรไม่นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งสาเหตุที่เกิดขึ้น คาดว่าน่าจะเกิดจาก 5 ประเด็นหลัก คือ ขั้นตอนการก่อสร้างไม่ถูกต้อง หรือไม่มีแผนการก่อสร้าง การก่อสร้างที่เร่งรีบเกินไป การออกแบบที่ผิดพลาด และการใช้วัสดุก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน และฐานรากวิบัติ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุเชิงลึก และแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนขึ้น ซึ่งคณะอนุกรรมการจะประกอบไปด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความชำนาญทางด้านวิศวกร แต่ต้องรอรวบรวมเอกสารหลักฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ อบจ. อบต. ตลอดจนมีการประสานข้อมูลจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและผู้รับผิดชอบ เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย โดยคาดว่าหลังจากการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการแล้ว จะสามารถเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งหมดมาให้ข้อมูลเพื่อไต่สวนข้อเท็จจริง คาดว่าภายใน 1-3 เดือน จะทราบสาเหตุที่เกิดขึ้น
ด้าน นายประสงค์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังเกิดกรณีการขึ้นป้ายบ่งชี้รายละเอียดของโครงการก่อสร้างหน้าสถานที่ที่มีการก่อสร้างนั้นๆมีการแอบอ้างชื่อวิศวกรผู้ควบคุมงาน ซึ่งกรณีดังกล่าวมีวิศวกรจำนวนมากร้องเรียนมายังสภาวิศกร อีกทั้งกรณีการแอบอ้างชื่อวิศวกรทางกระทรวงมหาดไทยได้ออกประกาศให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นทั่วประเทศดูแลสอดส่องการแอบอ้างชื่อ หากพบป้ายแสดงรายละเอียดโครงการก่อสร้างมีชื่อวิศวกรไม่ถูกต้องจะต้องเร่งดำเนินการตามกฎหมายทันที อย่างไรก็ตามกรณีดังกล่าว หากประชาชนพบเห็นสถานที่ก่อสร้างใดมีความเสี่ยงอันตราย สามารถแจ้งมายังสภาวิศกรเพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไปได้.