เนื่องในวันแม่ (12 ส.ค.) ที่กำลังจะมาถึงในปีนี้ นอกจากจะเป็นวันสำคัญที่ให้ลูกได้แสดงความรักที่มีต่อแม่แล้วยังเป็นช่วงที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ทำให้ลูกกับแม่ได้ทำกิจกรรมต่างๆร่วมกัน เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว เพื่อสะท้อนความคิดเห็นและในฐานะหัวอกของคนเป็นแม่ "สวนดุสิตโพล" ได้สำรวจความคิดเห็นของแม่ทั่วประเทศ จำนวน 1,242 คน ระหว่างวันที่ 5-9 ส.ค.ที่ผ่านมา สรุปผลได้ ดังนี้
1.“แม่”คิดอย่างไร กับ“การเมืองไทย”ณ วันนี้ ที่มี คสช.เข้ามาดูแล อันดับ 1 เป็นเรื่องดีที่ คสช. เข้ามาดูแล บ้านเมืองสงบสุขมากขึ้น 81.24% อันดับ 2 มีการเปลี่ยนแปลงให้เห็นชัดเจนมากขึ้น ดูแลใส่ใจแก้ไขปัญหาบ้านเมืองอย่างจริงจัง 78.42% อันดับ 3 อยากให้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองยุติโดยเร็ว 72.46% อันดับ 4 ควรเร่งสร้างความเชื่อมั่นเพื่อให้เกิดการยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ 56.76%
2.“แม่” คิดอย่างไร กับ “สังคมไทย”ณ วันนี้ อันดับ 1 ยังคงเสื่อมโทรม คนเห็นแก่ตัว ขาดน้ำใจ เอารัดเอาเปรียบกัน 83.57% อันดับ 2 มีภัยสังคมหลากหลายรูปแบบมากขึ้น เป็นห่วงลูกหลานเมื่อออกจากบ้าน 80.35% อันดับ 3 ในภาพรวมดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา มีการจัดระเบียบ ปราบปราม และจับกุมผู้กระทำผิด 70.69% อันดับ 4 วัฒนธรรมต่างชาติเข้ามามาก ทำให้ความเป็นไทยเลือนหาย เน้นวัตถุนิยม ฟุ้งเฟ้อ 62.32%
3.“แม่”คิดอย่างไรกับ “เศรษฐกิจไทย”ณ วันนี้ อันดับ 1 ผลกระทบจากปัญหาการเมืองที่มีมานาน ทำให้การพัฒนาเศรษฐกิจหยุดชะงัก 84.62% อันดับ 2 ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ลำบาก ค่าครองชีพสูง ข้าวของแพงขึ้น 83.09% อันดับ 3 บ้านเมืองกำลังเข้าสู่ภาวะปกติ เศรษฐกิจน่าจะฟื้นตัวในเร็วๆนี้ 60.31% อันดับ 4 ประชาชนมีรายได้ที่แตกต่างกัน เกิดความเหลื่อมล้ำกันอย่างชัดเจน 57.97%
4. ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ แม่มีวิธีดูแลค่าใช้จ่ายต่างๆในครอบครัวอย่างไร อันดับ 1 เน้นความพอเพียง ประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆในครอบครัว 82.37% อันดับ 2 ใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น ไม่ฟุ่มเฟือย มีการจัดสรรเงินเป็นสัดส่วน 81.72% อันดับ 3 วางแผนการใช้เงิน ทำบัญชีรายรับรายจ่ายอย่างรอบคอบ 64.73% อันดับ 4 หารายได้พิเศษ ทำงานเพิ่มขึ้นเพื่อให้มีเงินพอกับรายจ่าย 63.20%
5. สิ่งไหน/เรื่องใด ของลูกที่แม่เป็นห่วงมากที่สุด อันดับ 1 การคบเพื่อน มั่วสุม สิ่งเสพติดและอบายมุข 81.40% อันดับ 2 การเรียน ผลการเรียน การสอบ การศึกษาต่อ 68.68% อันดับ 3 สุขภาพร่างกาย เจ็บไข้ได้ป่วย อุบัติเหตุ 59.58% อันดับ 4 อนาคตของลูก การทำงาน ความเป็นอยู่ เงินทอง 55.31%
6. สิ่งที่แม่“คาดหวัง”หรืออยากให้ลูกเป็นในอนาคตอันดับ 1 เป็นคนดี ช่วยเหลือสังคม รักและหวงแหนบ้านเมือง 87.68% อันดับ 2 มีงานทำที่ดี สุจริต ดูแลตนเองได้ 78.74% อันดับ 3 อยากเห็นลูกมีความสุข ใช้ชีวิตอย่างมีสติ แก้ปัญหาได้ 74.24% อันดับ 4 ตั้งใจเรียนให้จบ มีการศึกษาที่ดี 61.67%
7. ความผูกพันความใกล้ชิดระหว่างแม่ลูกในปัจจุบันเป็นอย่างไร อันดับ 1 น้อยลง 58.92% เพราะ สภาพสังคมเปลี่ยนแปลงไป ต้องทำมาหากิน มีเวลาให้กันน้อยลง ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ลูกต้องเรียน ทำงานที่อื่น ลูกมีเพื่อนมีสังคมของตัวเอง ฯลฯ อันดับ 2 มากขึ้น 25.64% เพราะ เทคโนโลยีทำให้ติดต่อสื่อสารกันได้ง่ายขึ้น คนในสังคมให้ความสำคัญกับครอบครัวมากขึ้น ฯลฯ อันดับ 3 เท่าเดิม 15.44% เพราะ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ความรักและความผูกพันระหว่างแม่กับลูกมีอยู่โดยธรรมชาติ ประเมินค่าไม่ได้ ฯลฯ
8. สิ่งที่อยากจะบอกลูกในฐานะ “หัวอกของคนเป็นแม่”อันดับ 1 รักลูกมาก เป็นห่วงลูกเสมอ เป็นกำลังใจให้ลูกตลอดไป 80.11% อันดับ 2 ขอให้เป็นคนดีของสังคมและพ่อแม่ 77.86% อันดับ 3 ตั้งใจเรียน ตั้งใจทำงาน รับผิดชอบหน้าที่ให้ดีที่สุด 61.51% อันดับ 4 ดูแลตัวเองให้ดี รักษาสุขภาพ 55.23%
1.“แม่”คิดอย่างไร กับ“การเมืองไทย”ณ วันนี้ ที่มี คสช.เข้ามาดูแล อันดับ 1 เป็นเรื่องดีที่ คสช. เข้ามาดูแล บ้านเมืองสงบสุขมากขึ้น 81.24% อันดับ 2 มีการเปลี่ยนแปลงให้เห็นชัดเจนมากขึ้น ดูแลใส่ใจแก้ไขปัญหาบ้านเมืองอย่างจริงจัง 78.42% อันดับ 3 อยากให้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองยุติโดยเร็ว 72.46% อันดับ 4 ควรเร่งสร้างความเชื่อมั่นเพื่อให้เกิดการยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ 56.76%
2.“แม่” คิดอย่างไร กับ “สังคมไทย”ณ วันนี้ อันดับ 1 ยังคงเสื่อมโทรม คนเห็นแก่ตัว ขาดน้ำใจ เอารัดเอาเปรียบกัน 83.57% อันดับ 2 มีภัยสังคมหลากหลายรูปแบบมากขึ้น เป็นห่วงลูกหลานเมื่อออกจากบ้าน 80.35% อันดับ 3 ในภาพรวมดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา มีการจัดระเบียบ ปราบปราม และจับกุมผู้กระทำผิด 70.69% อันดับ 4 วัฒนธรรมต่างชาติเข้ามามาก ทำให้ความเป็นไทยเลือนหาย เน้นวัตถุนิยม ฟุ้งเฟ้อ 62.32%
3.“แม่”คิดอย่างไรกับ “เศรษฐกิจไทย”ณ วันนี้ อันดับ 1 ผลกระทบจากปัญหาการเมืองที่มีมานาน ทำให้การพัฒนาเศรษฐกิจหยุดชะงัก 84.62% อันดับ 2 ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ลำบาก ค่าครองชีพสูง ข้าวของแพงขึ้น 83.09% อันดับ 3 บ้านเมืองกำลังเข้าสู่ภาวะปกติ เศรษฐกิจน่าจะฟื้นตัวในเร็วๆนี้ 60.31% อันดับ 4 ประชาชนมีรายได้ที่แตกต่างกัน เกิดความเหลื่อมล้ำกันอย่างชัดเจน 57.97%
4. ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ แม่มีวิธีดูแลค่าใช้จ่ายต่างๆในครอบครัวอย่างไร อันดับ 1 เน้นความพอเพียง ประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆในครอบครัว 82.37% อันดับ 2 ใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น ไม่ฟุ่มเฟือย มีการจัดสรรเงินเป็นสัดส่วน 81.72% อันดับ 3 วางแผนการใช้เงิน ทำบัญชีรายรับรายจ่ายอย่างรอบคอบ 64.73% อันดับ 4 หารายได้พิเศษ ทำงานเพิ่มขึ้นเพื่อให้มีเงินพอกับรายจ่าย 63.20%
5. สิ่งไหน/เรื่องใด ของลูกที่แม่เป็นห่วงมากที่สุด อันดับ 1 การคบเพื่อน มั่วสุม สิ่งเสพติดและอบายมุข 81.40% อันดับ 2 การเรียน ผลการเรียน การสอบ การศึกษาต่อ 68.68% อันดับ 3 สุขภาพร่างกาย เจ็บไข้ได้ป่วย อุบัติเหตุ 59.58% อันดับ 4 อนาคตของลูก การทำงาน ความเป็นอยู่ เงินทอง 55.31%
6. สิ่งที่แม่“คาดหวัง”หรืออยากให้ลูกเป็นในอนาคตอันดับ 1 เป็นคนดี ช่วยเหลือสังคม รักและหวงแหนบ้านเมือง 87.68% อันดับ 2 มีงานทำที่ดี สุจริต ดูแลตนเองได้ 78.74% อันดับ 3 อยากเห็นลูกมีความสุข ใช้ชีวิตอย่างมีสติ แก้ปัญหาได้ 74.24% อันดับ 4 ตั้งใจเรียนให้จบ มีการศึกษาที่ดี 61.67%
7. ความผูกพันความใกล้ชิดระหว่างแม่ลูกในปัจจุบันเป็นอย่างไร อันดับ 1 น้อยลง 58.92% เพราะ สภาพสังคมเปลี่ยนแปลงไป ต้องทำมาหากิน มีเวลาให้กันน้อยลง ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ลูกต้องเรียน ทำงานที่อื่น ลูกมีเพื่อนมีสังคมของตัวเอง ฯลฯ อันดับ 2 มากขึ้น 25.64% เพราะ เทคโนโลยีทำให้ติดต่อสื่อสารกันได้ง่ายขึ้น คนในสังคมให้ความสำคัญกับครอบครัวมากขึ้น ฯลฯ อันดับ 3 เท่าเดิม 15.44% เพราะ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ความรักและความผูกพันระหว่างแม่กับลูกมีอยู่โดยธรรมชาติ ประเมินค่าไม่ได้ ฯลฯ
8. สิ่งที่อยากจะบอกลูกในฐานะ “หัวอกของคนเป็นแม่”อันดับ 1 รักลูกมาก เป็นห่วงลูกเสมอ เป็นกำลังใจให้ลูกตลอดไป 80.11% อันดับ 2 ขอให้เป็นคนดีของสังคมและพ่อแม่ 77.86% อันดับ 3 ตั้งใจเรียน ตั้งใจทำงาน รับผิดชอบหน้าที่ให้ดีที่สุด 61.51% อันดับ 4 ดูแลตัวเองให้ดี รักษาสุขภาพ 55.23%