จากกรณีที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติแจ้งข้อกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพวกรวม 9 คน กระทำการขัดรัฐธรรมนูญ และกฎหมายเลือกตั้ง จากการเดินทางไปตรวจราชการในพื้นที่ต่างๆระหว่างมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง 2 ก.พ. และกกต.ได้เรียกเข้าชี้แจงนั้น คนใกล้ชิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ เปิดเผยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับทราบมติ กกต.แล้ว โดยจะไม่เดินทางไปชี้แจงด้วยตนเอง แต่จะให้ทนายความเป็นตัวแทนไปชี้แจ้ง พร้อมส่งคำชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร โดยระบุว่า การลงพื้นที่ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีนั้น ทำตามที่ข้าราชการกำหนดโปรแกรมให้ ไม่ได้ทำขึ้นมาตอนหาเสียง อีกทั้งการที่ กกต.กล่าวหาว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ และพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว.นั้น ก็ปรากฏว่าขณะนี้ไม่มีกฎหมายรัฐธรรมนูญบังคับใช้แล้ว จะเอากฎหมายไหนมาเอาผิด รวมถึงการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. ศาลรัฐธรรมนูญชี้เป็นโมฆะ ตั้งแต่เดือนมี.ค. ทำไม กกต.ถึงหยิบเรื่องนี้มาพิจารณา ทำไม่กล่าวโทษตั้งแต่เดือนก.พ. และกฎหมายรัฐธรรมนูญ ก็ไม่มีการกล่าวโทษผู้กระทำความผิดย้อนหลัง ในกรณีที่เป็นโทษกับผู้ที่ถูกกล่าวหาอยู่แล้ว
ด้านพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้าคสช. และหัวหน้าฝ่ายกิจกรรมพิเศษ ในฐานะอดีต ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ถึง กรณีที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการ กกต. เตรียมเสนอให้กรรมการ กกต.ชุดใหญ่ พิจารณาเอาผิดตนเอง และน.ส.ยิ่งลักษณ์ กรณีที่มอบเงินเยียวยาให้ตำรวจที่เสียชีวิต ในระหว่างปฎิบัติหน้าที่ดูแลการรับสมัครผู้มาลงสมัครรับเลือดตั้ง ที่สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา เข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง ว่า ขณะนี้ต้องขอดูเอกสารหลักฐานตามข้อกล่าวหาก่อนที่จะเดินทางไปชี้แจงด้วยตัวเอง ซึ่งความจริงตนไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการหาเสียงเลือกตั้ง บังเอิญว่าในช่วงเวลาดังกล่าว ตนเป็นประธานในพิธีศพ ซึ่งเงินดังกล่าวเป็นเงินที่ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) รวบรวมจากตำรวจ และประชาชน จำนวน 5 ล้านบาท เพื่อมอบให้กับครอบครัวตำรวจที่เสียชีวิต และตนเป็นประธานรับมอบ ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้กลับจากออกจากงานไปแล้ว หลังจากที่มาเคารพศพผู้เสียชีวิต และให้กำลังใจกับครอบครัว เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับตนด้วย อย่างไรก็ตาม พร้อมชี้แจงเพราะไม่ได้ทำอะไรผิด ถือเป็นคนละส่วนกับการหาเสียงเลือกตั้ง
เมื่อถามว่า การดำเนินการดังกล่าวไม่ผิด หรือขัดต่อกฎหมายเลือกตั้งใช่หรือไม่ พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า ไม่ผิด ตนต้องรับมอบเงินดังกล่าวไว้ เพราะเป็นเจ้าภาพในงาน เมื่อรับเสร็จ ก็มอบให้ครอบครัวทันที ยืนยันอีกครั้งว่า ช่วงเวลาดังกล่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับไปแล้ว โดยไม่ได้อยู่เป็นเจ้าภาพ
ด้านพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้าคสช. และหัวหน้าฝ่ายกิจกรรมพิเศษ ในฐานะอดีต ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ถึง กรณีที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการ กกต. เตรียมเสนอให้กรรมการ กกต.ชุดใหญ่ พิจารณาเอาผิดตนเอง และน.ส.ยิ่งลักษณ์ กรณีที่มอบเงินเยียวยาให้ตำรวจที่เสียชีวิต ในระหว่างปฎิบัติหน้าที่ดูแลการรับสมัครผู้มาลงสมัครรับเลือดตั้ง ที่สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา เข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง ว่า ขณะนี้ต้องขอดูเอกสารหลักฐานตามข้อกล่าวหาก่อนที่จะเดินทางไปชี้แจงด้วยตัวเอง ซึ่งความจริงตนไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการหาเสียงเลือกตั้ง บังเอิญว่าในช่วงเวลาดังกล่าว ตนเป็นประธานในพิธีศพ ซึ่งเงินดังกล่าวเป็นเงินที่ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) รวบรวมจากตำรวจ และประชาชน จำนวน 5 ล้านบาท เพื่อมอบให้กับครอบครัวตำรวจที่เสียชีวิต และตนเป็นประธานรับมอบ ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้กลับจากออกจากงานไปแล้ว หลังจากที่มาเคารพศพผู้เสียชีวิต และให้กำลังใจกับครอบครัว เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับตนด้วย อย่างไรก็ตาม พร้อมชี้แจงเพราะไม่ได้ทำอะไรผิด ถือเป็นคนละส่วนกับการหาเสียงเลือกตั้ง
เมื่อถามว่า การดำเนินการดังกล่าวไม่ผิด หรือขัดต่อกฎหมายเลือกตั้งใช่หรือไม่ พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า ไม่ผิด ตนต้องรับมอบเงินดังกล่าวไว้ เพราะเป็นเจ้าภาพในงาน เมื่อรับเสร็จ ก็มอบให้ครอบครัวทันที ยืนยันอีกครั้งว่า ช่วงเวลาดังกล่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับไปแล้ว โดยไม่ได้อยู่เป็นเจ้าภาพ