**พันธกิจที่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศไว้ตั้งแต่เข้ามาควบคุมอำนาจการปกครองเมื่อ 2 เดือนกว่าที่ผ่านมา นอกเหนือจากการสะสางปัญหาทางการเมือง ขลัดความขัดแย้งของคนในชาติแล้ว ก็ยังหมายมั่นปั้นมือก็ยังหมายมั่นปั้นมือในการจัดระเบียบสังคมหลายๆ ด้าน
แน่นอนว่าเป้าหมายหลักก็คงเป็นพื้นที่กรุงเทพมหานคร เมืองฟ้าอมร ที่มีปัญหาหมักหมมรอการแก้ไขอยู่บานตะไท ทั้งเรื่องรถรับจ้างสาธารณะ วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง คิวรถตู้เถื่อน แผงค้าหาบเร่แผงลอยบนทางเท้า หรือธุรกิจดำมืดต่างๆ ที่ถูกทีมงานทหารปูพรมจัดการแก้ไขแบบสายฟ้าฟาด กันโดยถ้วนหน้า
** ประหนึ่งจะพลิกฟื้นเมืองหลวงแห่งนี้ให้เป็น “ต้นแบบ”ในแง่ของการจัดระเบียบ
เมื่อ คสช.เข้ามากวดขันเอาจริงเอาจังหลายๆ เรื่องในเมืองหลวง หน่วยงานเจ้าของพื้นที่อย่าง กรุงเทพมหานคร (กทม.) ก็เด้งดึ๋งออกมารับลูกต่อในหลายเรื่อง โดยเฉพาะในแง่ความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนคนเมืองหลวง
พลันเข้าสู่ฤดูฝน ก็มาพร้อมๆ กับลมพายุที่ผลัดเปลี่ยนกันกระหน่ำ กทม. แทบทุกวี่ทุกวัน เจ้าหน้าที่กทม. เร่งกวดขันตัดต้นไม้สูงที่สุ่มเสี่ยงถูกแรงพายุพัดหักล้ม สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
แต่เหมือนจะหลงลืม “จุดเสี่ยง”ที่อาจทำให้เกิดโศกนาฎกรรมอย่าง ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ที่ในอดีตก็แผลงฤทธิ์ พังถล่มทับบ้านเรือนและผู้คนจนบาดเจ็บล้มตายกันมาแล้ว
เป็น“จุดเสี่ยง”ที่ดูเหมือนทาง กทม. จะมองข้าม หรือตั้งใจปิดตาข้างหนึ่ง จนมองไม่เห็นก็ไม่ทราบได้ เพราะเชื่อเหลือเกินว่า บางป้ายโฆษณา ไม่ได้รับอนุญาตด้านมาตรฐานความปลอดภัยจากกทม.
**พูดง่ายๆก็คือ “ป้ายเถื่อน”
ไม่เท่านั้นยังมี “จอ LED ขนาดใหญ่”ที่ติดตั้งอยู่ตามป้อมตำรวจ บริเวณสี่แยกจราจร ราวกับดอกเห็ด ซึ่งว่ากันว่า ไม่ได้รับอนุญาตจากกทม. เช่นกัน
ใครใช้รถใช้ถนนเป็นประจำ ต้องคุ้นตากับเจ้าจอ LED ตามสี่แยกนี้แน่ๆ อย่างน้อยๆ ต้องเจอแสงที่สาดส่องออกจากจอทำให้หงุดหงิดกันไม่มากก็น้อย ถ้าพูดถึงเรื่องโครงสร้างความแข็งแรง หรือการตรวจสอบเรื่องความปลอดภัย อาจจะเป็นสิ่งที่ไกลตัวของบรรดาผู้ขับขี่ยานพาหนะ เพราะต่างก็คือว่า เจ้าป้ายที่ยืนตระหง่านค้ำหัวตำรวจอยู่ มีการขออนุญาตอย่างถูกต้อง
จากการสืบเสาะที่ไปที่มาของจอ LED ที่โผล่มาประดับประดาตามป้อมตำรวจทั่วกรุง ก็ทราบว่า เป็นกรรมสิทธิ์ของ“บ.เอกชนรายใหญ่”อ้างว่าได้รับอนุญาตจาก“บิ๊กสีกากี”ให้ติดตั้งจอ LED เพื่อใช้ในการโฆษณาบนป้อมตำรวจตามสี่แยกใน กทม. แต่เพียงผู้เดียว
อ้างด้วยว่าได้ลงนามบันทึกข้อตกลงกับ “เดอะแจ๊ด - พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง”ในสมัยที่เป็น ผบช.น. เรืองอำนาจในเขตพระนคร
โดยให้“บ.เอกชนรายใหญ่”รับสิทธิ ติดตั้งบำรุงรักษาจอแสดงภาพแสดงภาพ LED เผยแพร่ประชาสัมพันธ์บนป้อมตำรวจ
**กินนิ่มๆ ปีนึงเป็นหลักพันล้านบาท
แลกกับการเจียดเอาเศษเงินจากกำไรมหาศาล สมทบกองทุนเงินช่วยเหลือข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิต และบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ เป็นข้ออ้างในการใช้พื้นที่ของตำรวจ
ค้นไปค้นมาก็พบว่า การติดตั้งจอ LED ของบริษัทดังกล่าว ไม่ได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กรุงเทพมหานคร ทั้งการขออนุญาต และการจัดส่งรายได้ที่ได้จากการค้าโฆษณา และยังขัดต่อกฎหมายและกฎระเบียบของ กทม.ที่ต้องคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัยของโครงสร้างการต่อเติม
**โดยเฉพาะ มาตรา 39 ทวิ ที่ว่าด้วยการติดตั้งป้ายโฆษณา
สิ่งที่สำคัญที่สุด เจ้าพนักงานตำรวจในฐานะผู้รักษากฎหมายปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำผิดกฎหมายบนป้อมตำรวจแบบหน้าตาเฉยอุบัติเหตุที่นำมาสู่ความสูญเสียต่อชีวิต-ทรัพย์สินของประชาชนก็เรื่องหนึ่ง
ความไม่ถูกต้องในเรื่องการขออนุญาต และการตรวจสอบความปลอดภัยก็เรื่องหนึ่ง
ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่ชอบก้วยกฎหมายก็อีกเรื่องหนึ่ง
เรื่องแบบนี้ไม่น่าเล็ดลอดสายตา คสช.ได้ น่าจะส่งคนมาดูแลเสียหน่อย ก่อนเกิดเหตุไม่คาดฝัน
**ดีกว่ามานั่งล้อมคอกให้เสียฟอร์ม คสช.ในภายหลัง
แน่นอนว่าเป้าหมายหลักก็คงเป็นพื้นที่กรุงเทพมหานคร เมืองฟ้าอมร ที่มีปัญหาหมักหมมรอการแก้ไขอยู่บานตะไท ทั้งเรื่องรถรับจ้างสาธารณะ วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง คิวรถตู้เถื่อน แผงค้าหาบเร่แผงลอยบนทางเท้า หรือธุรกิจดำมืดต่างๆ ที่ถูกทีมงานทหารปูพรมจัดการแก้ไขแบบสายฟ้าฟาด กันโดยถ้วนหน้า
** ประหนึ่งจะพลิกฟื้นเมืองหลวงแห่งนี้ให้เป็น “ต้นแบบ”ในแง่ของการจัดระเบียบ
เมื่อ คสช.เข้ามากวดขันเอาจริงเอาจังหลายๆ เรื่องในเมืองหลวง หน่วยงานเจ้าของพื้นที่อย่าง กรุงเทพมหานคร (กทม.) ก็เด้งดึ๋งออกมารับลูกต่อในหลายเรื่อง โดยเฉพาะในแง่ความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนคนเมืองหลวง
พลันเข้าสู่ฤดูฝน ก็มาพร้อมๆ กับลมพายุที่ผลัดเปลี่ยนกันกระหน่ำ กทม. แทบทุกวี่ทุกวัน เจ้าหน้าที่กทม. เร่งกวดขันตัดต้นไม้สูงที่สุ่มเสี่ยงถูกแรงพายุพัดหักล้ม สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
แต่เหมือนจะหลงลืม “จุดเสี่ยง”ที่อาจทำให้เกิดโศกนาฎกรรมอย่าง ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ที่ในอดีตก็แผลงฤทธิ์ พังถล่มทับบ้านเรือนและผู้คนจนบาดเจ็บล้มตายกันมาแล้ว
เป็น“จุดเสี่ยง”ที่ดูเหมือนทาง กทม. จะมองข้าม หรือตั้งใจปิดตาข้างหนึ่ง จนมองไม่เห็นก็ไม่ทราบได้ เพราะเชื่อเหลือเกินว่า บางป้ายโฆษณา ไม่ได้รับอนุญาตด้านมาตรฐานความปลอดภัยจากกทม.
**พูดง่ายๆก็คือ “ป้ายเถื่อน”
ไม่เท่านั้นยังมี “จอ LED ขนาดใหญ่”ที่ติดตั้งอยู่ตามป้อมตำรวจ บริเวณสี่แยกจราจร ราวกับดอกเห็ด ซึ่งว่ากันว่า ไม่ได้รับอนุญาตจากกทม. เช่นกัน
ใครใช้รถใช้ถนนเป็นประจำ ต้องคุ้นตากับเจ้าจอ LED ตามสี่แยกนี้แน่ๆ อย่างน้อยๆ ต้องเจอแสงที่สาดส่องออกจากจอทำให้หงุดหงิดกันไม่มากก็น้อย ถ้าพูดถึงเรื่องโครงสร้างความแข็งแรง หรือการตรวจสอบเรื่องความปลอดภัย อาจจะเป็นสิ่งที่ไกลตัวของบรรดาผู้ขับขี่ยานพาหนะ เพราะต่างก็คือว่า เจ้าป้ายที่ยืนตระหง่านค้ำหัวตำรวจอยู่ มีการขออนุญาตอย่างถูกต้อง
จากการสืบเสาะที่ไปที่มาของจอ LED ที่โผล่มาประดับประดาตามป้อมตำรวจทั่วกรุง ก็ทราบว่า เป็นกรรมสิทธิ์ของ“บ.เอกชนรายใหญ่”อ้างว่าได้รับอนุญาตจาก“บิ๊กสีกากี”ให้ติดตั้งจอ LED เพื่อใช้ในการโฆษณาบนป้อมตำรวจตามสี่แยกใน กทม. แต่เพียงผู้เดียว
อ้างด้วยว่าได้ลงนามบันทึกข้อตกลงกับ “เดอะแจ๊ด - พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง”ในสมัยที่เป็น ผบช.น. เรืองอำนาจในเขตพระนคร
โดยให้“บ.เอกชนรายใหญ่”รับสิทธิ ติดตั้งบำรุงรักษาจอแสดงภาพแสดงภาพ LED เผยแพร่ประชาสัมพันธ์บนป้อมตำรวจ
**กินนิ่มๆ ปีนึงเป็นหลักพันล้านบาท
แลกกับการเจียดเอาเศษเงินจากกำไรมหาศาล สมทบกองทุนเงินช่วยเหลือข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิต และบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ เป็นข้ออ้างในการใช้พื้นที่ของตำรวจ
ค้นไปค้นมาก็พบว่า การติดตั้งจอ LED ของบริษัทดังกล่าว ไม่ได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กรุงเทพมหานคร ทั้งการขออนุญาต และการจัดส่งรายได้ที่ได้จากการค้าโฆษณา และยังขัดต่อกฎหมายและกฎระเบียบของ กทม.ที่ต้องคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัยของโครงสร้างการต่อเติม
**โดยเฉพาะ มาตรา 39 ทวิ ที่ว่าด้วยการติดตั้งป้ายโฆษณา
สิ่งที่สำคัญที่สุด เจ้าพนักงานตำรวจในฐานะผู้รักษากฎหมายปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำผิดกฎหมายบนป้อมตำรวจแบบหน้าตาเฉยอุบัติเหตุที่นำมาสู่ความสูญเสียต่อชีวิต-ทรัพย์สินของประชาชนก็เรื่องหนึ่ง
ความไม่ถูกต้องในเรื่องการขออนุญาต และการตรวจสอบความปลอดภัยก็เรื่องหนึ่ง
ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่ชอบก้วยกฎหมายก็อีกเรื่องหนึ่ง
เรื่องแบบนี้ไม่น่าเล็ดลอดสายตา คสช.ได้ น่าจะส่งคนมาดูแลเสียหน่อย ก่อนเกิดเหตุไม่คาดฝัน
**ดีกว่ามานั่งล้อมคอกให้เสียฟอร์ม คสช.ในภายหลัง