ASTVผู้จัดการรายวัน-“กบง.” เคาะรีดเงินน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 60 สตางค์ต่อลิตร ดีเซล 30 สตางค์ต่อลิตร โปะหนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ติดลบกว่า 8พันล้านบาท ทำให้ราคาน้ำมันไม่เปลี่ยนแปลง คนใช้น้ำมันต้องเติมในราคาเดิมไปก่อน แม้ราคาน้ำมันตลาดโลกจะลดลง
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เปิดเผยหลังการประชุม กบง. วานนี้ (30 ก.ค.) ว่า กบง.ได้เห็นชอบจัดเก็บอัตรานำเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงส่วนของน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์เพิ่มขึ้นลิตรละ 0.60 บาท และดีเซลลิตรละ 0.30 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค.เป็นต้นไป โดยไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงราคาขายปลีกน้ำมันแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ผลดังกล่าวทำให้อัตราการจัดเก็บเงินทุนน้ำมันฯ เป็นดังนี้ เบนซิน 95 เป็น 10.60 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 เป็น 3.90 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 เป็น 1.80 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ อี20 อุดหนุนลดลงเหลือ 0.45 บาทต่อลิตร อี85 ชดเชยเหลือ 11 บาทต่อลิตร และดีเซลเป็น 1.30 บาทต่อลิตร และผลจากการปรับอัตราดังกล่าวทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายรับจากเดิมวันละ 27.79 ล้านบาท เพิ่มเป็นมีรายรับวันละ 59.19 ล้านบาท โดยปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมันฯ ติดลบ 8,940 ล้านบาท
สำหรับการเก็บเงินครั้งนี้ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกและน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ได้ปรับตัวลดลงต่อเนื่องจนส่งผลให้ค่าการตลาดของน้ำมันกลุ่มเบนซินเฉลี่ยมากกว่า 2 บาทต่อลิตร ขณะที่ดีเซลเฉลี่ย 1.80 บาทต่อลิตร
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เปิดเผยหลังการประชุม กบง. วานนี้ (30 ก.ค.) ว่า กบง.ได้เห็นชอบจัดเก็บอัตรานำเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงส่วนของน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์เพิ่มขึ้นลิตรละ 0.60 บาท และดีเซลลิตรละ 0.30 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค.เป็นต้นไป โดยไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงราคาขายปลีกน้ำมันแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ผลดังกล่าวทำให้อัตราการจัดเก็บเงินทุนน้ำมันฯ เป็นดังนี้ เบนซิน 95 เป็น 10.60 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 เป็น 3.90 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 เป็น 1.80 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ อี20 อุดหนุนลดลงเหลือ 0.45 บาทต่อลิตร อี85 ชดเชยเหลือ 11 บาทต่อลิตร และดีเซลเป็น 1.30 บาทต่อลิตร และผลจากการปรับอัตราดังกล่าวทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายรับจากเดิมวันละ 27.79 ล้านบาท เพิ่มเป็นมีรายรับวันละ 59.19 ล้านบาท โดยปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมันฯ ติดลบ 8,940 ล้านบาท
สำหรับการเก็บเงินครั้งนี้ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกและน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ได้ปรับตัวลดลงต่อเนื่องจนส่งผลให้ค่าการตลาดของน้ำมันกลุ่มเบนซินเฉลี่ยมากกว่า 2 บาทต่อลิตร ขณะที่ดีเซลเฉลี่ย 1.80 บาทต่อลิตร
