ASTVผู้จัดการรายวัน - "เจนี่" โชว์ใบหย่าอดีตสามีนักการเมืองคนดัง "เอ๋ ชนม์สวัสดิ์" เผยเจ้าตัวกลับมาใช้นามสกุลเดิม "เทียนโพธิสุวรรณ" ก่อนบินเผ่นนอกช่วงบ่ายวันวานตามคำบอกเล่าของเพื่อนนักแสดงสาว "เจนสุดา" ด้าน "ภูริ-อาท" ออกตัวขอโทษหลังไลน์เมาท์หลุด
หลังตกเป็นกระแสข่าวเตียงหัก-รักร้าวมาอย่างต่อเนื่องตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดคู่รักคู่ดังระหว่างนักแสดงสาว "เจนี่" กับสามีนักการเมืองดังย่านปากน้ำ "เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม" ก็ได้หย่าขาดจากการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยวันวานที่ผ่านมา (29 ก.ค.) ในเว็บไซต์หลายแห่งและสื่อสังคมออนไลน์ได้มีการแพร่ภาพ “เจนี่ อัศวเหม” ที่กำลังมีปัญหาความรักระหองระแหงกับ “เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม” นักการเมืองชื่อดังแห่งปากน้ำ สมุทรปราการในชุดเสื้อสีขาวพร้อมกับถือใบสำคัญการหย่า รวมถึงหนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อสกุลจาก "เจนี่ อัศวเหม" เป็น "เทียนโพธิ์สุวรรณ" ณ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2557
จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในอําเภอเมืองสมุทรปราการ เล่าว่าทั้งสองนั้นได้เดินทางมาที่ว่าการอำเภอตามลำพังตามที่ได้มีการโทรนัดล่วงหน้าไว้ โดยทั้งคู่มีสีหน้าที่เรียบเฉยระหว่างที่ยืนยันกับพนักงานว่าต้องการที่จะหย่ากันและไม่มีการพูดถึงเรื่องทรัพย์สินแต่อย่างใด
ขณะที่ในส่วนของนักการเมืองคนดังนั้น วันวานที่ผ่านมาเจ้าตัวได้ออกมาประกอบพิธีบวงสรวงย้ายศาลพระภูมิภายในบ้านพักย่านปากน้ำด้วยมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสแต่ได้ปฎิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงเรื่องดังกล่าว
อนึ่งทั้งสองนั้นได้จดทะเบียนแต่งงานกันเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2556 ซึ่งหากนับรวมระยะเวลาการครองคู่แล้ว ทั้งคู่ใช้ชีวิตร่วมกันในฐานะสามี-ภรรยากันไม่ถึง 1 ปีแต่อย่างใด
ขณะที่ความเคลื่อนไหวอื่นๆ ก่อนที่นักแสดงสาวจะออกมาโชว์ใบหย่านั้น ก็เป็นทางด้านของนักแสดงหญิง "เจสุดา ปานโต" ที่ได้ออกมาเปิดเผยว่าทางด้านของเจนี่นั้นได้เดินทางไปเมืองนอกเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยเที่ยวบิน TG692 ช่วงเวลา 13.40 ของวันวานหลังก่อนหน้านั้นมีข่าวว่าเจ้าตัวจะจัดแถลงข่าวก่อนออกเดินทางในวันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคมนี้
ทั้งนี้นักแสดงสาวยังบอกด้วยว่าเพื่อนนักแสดงหญิงนั้นมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้นบ้างแล้วแม้จะมีอาการเครียดอยู่ แต่ได้ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดถึงกระแสข่าวทั้งในเรื่องที่ว่าอีกฝ่ายมีการโพสต์ภาพถูกทำร้ายร่างกาย เรื่องรถยนต์หรูมูลค่า 5 ล้านบาทที่หายไป รวมถึงกระแสข่าวในเรื่องของการหย่ากับสามีนักการเมืองแล้วหรือยัง โดยบอกว่าทุกอย่างนั้นรอให้สาวเจนี่เกิดความสบายใจมากกว่านี้และกลับมาแถลงข่าวด้วยตนเองจะดีกว่า
"ตอนนี้มีข่าวเยอะ เขาก็เครียด เครียดจากข่าวมากกว่า แต่เขาก็เป็นคนที่เข้มแข็ง แข็งแรง ก็ให้เวลาเขาไปพักผ่อนหน่อย ให้เขารู้สึกว่าพร้อมที่จะพูดจริงๆ แล้วออกมาพูดเองดีกว่า คือเจนไม่คุยอะไรเรื่องนี้ดีกว่า เพราะไม่รู้จะรื้อฟื้นมันไปทำไม มันผ่านไปแล้วก็ให้ผ่านไป เขาคงเล่าให้หลายๆ คนฟังมาพอแล้ว เจนก็ไม่อยากจะถามแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น ก็มีหน้าที่ให้กำลังใจกันไป"
"เชื่อไหมว่าในกลุ่มไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้กันเลย เพราะคุยไปก็เท่านั้น คุยไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรขึ้นมา เราอยู่ตรงนี้อยู่แล้ว ซัปพอร์ตกันดีกว่า อย่าไปรื้อฟื้น หาข้อมูลว่าใครผิดใครถูก มันเกิดอะไรขึ้น เหมือนเพื่อนเราก็ขี้เกียจจะพูดแล้ว เราทั้ง 6 คน ก็เลือกที่จะเงียบๆ ไม่พูดอะไรดีกว่า ถ้าเพื่อนต้องการอยากให้ช่วยซัปพอร์ตส่วนไหน เราก็จะช่วยส่วนนั้นดีกว่า"
ส่วนกรณีที่เกี่ยวกับข้อความการสนทนากันของ 2 สามีระหว่าง "ภูริ หิรัญพฤกษ์" สามีของ "แอน อลิชา หิรัญพฤกษ์" กับ “อาท ศรา จุฑารัตนกุล” สามี “อ้อม พิยดา จุฑารัตนกุล” ที่มีการพูดถึงเรื่องราวของนักแสดงหญิงกับสามีนักการเมืองผ่านทางไลน์และถูกแคปเจอร์ภาพออกมากระทั่งกลายเป็นที่วิจารณ์อย่างมากนั้น วันวานที่ผ่านมาทั้งคู่ก็ได้ออกมายอมรับและขอโทษในสิ่งที่ทำไปแล้ว
โดยทางฟากของหนุ่มภูรินั้นได้โพสต์ข้อความขอโทษผ่านอินสตาแกรมของตนเอง โดยยอมรับว่าสิ่งที่ทำไปนั้นไม่เหมาะสม ซึ่งตนก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก พร้อมกันนี้ เจ้าตัวก็ยังได้กราบขอโทษไปยังทุกๆ คน โดยเฉพาะบุคคลรู้จักที่ถูกตนพาดพิงไปถึง และยืนยันว่าต่อไปจะมีสติและคิดอะไรให้รอบคอบกว่านี้ ส่วนทางด้านของหนุ่มอาทนั้นเจ้าตัวได้จัดแถลงข่าวพร้อมกับภรรยาโดยได้ยกมือขอโทษยอมรับผิด พร้อมเผยเครียดมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น ยืนยันไม่ได้ตั้งใจที่จะดูหมิ่นใคร และตนขอน้อมรับผิดคนเดียว
"วันนี้ผมขอมากล่าวในสิ่งที่ผมได้ทำลงไปนะครับ การใช้คำพูดของผมในสื่อออนไลน์ทั้งหลายที่ๆ ได้ใช้คำพูดไม่เหมาะสมเกี่ยวกับเรื่องของครอบครัวของคุณเจนี่และของพี่เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ ผมรู้สึกว่าวันนี้ผมต้องขอมาแสดงความเสียใจในสิ่งที่ผมทำไป ขอแสดงความขอโทษ (ยกมือไหว้) สำนึกผิด และขอรับผิดในสิ่งที่ผมทำไป และรู้สึกว่าสิ่งที่ผมทำไปนั้นมันไม่ถูกต้องและไม่แฟร์กับทุกคน ก็ต้องขอโทษในสิ่งที่พูดไปแล้วมันไม่สุภาพ"
"และอีกอย่างหนึ่งก็ไร้การตรึกตรอง ก็มีผลกระทบค่อนข้างเยอะครับ ผมก็รู้สึกเสียใจ เพราะผลกระทบออกมาเป็นวงกว้างมาก ทั้งทางฝ่ายของคุณเจนี่ พี่เอ๋และแฟนคลับต่างๆ ก็ไม่คิดว่าคำพูดคำเดียวของผมจะทำให้ทุกคนต้องรู้สึกเจ็บใจขนาดนั้น ก็ต้องกราบขอโทษ(ยกมือไหว้)"
นอกจากนี้เจ้าตัวยังได้บอกด้วยว่าที่ผ่านมาพยายามที่จะติดต่อทั้งคู่เพื่อขอโทษในสิ่งที่ทำลงไปทว่าก็ไม่สามารถติดต่อได้แต่อย่างใด
หลังตกเป็นกระแสข่าวเตียงหัก-รักร้าวมาอย่างต่อเนื่องตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดคู่รักคู่ดังระหว่างนักแสดงสาว "เจนี่" กับสามีนักการเมืองดังย่านปากน้ำ "เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม" ก็ได้หย่าขาดจากการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยวันวานที่ผ่านมา (29 ก.ค.) ในเว็บไซต์หลายแห่งและสื่อสังคมออนไลน์ได้มีการแพร่ภาพ “เจนี่ อัศวเหม” ที่กำลังมีปัญหาความรักระหองระแหงกับ “เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม” นักการเมืองชื่อดังแห่งปากน้ำ สมุทรปราการในชุดเสื้อสีขาวพร้อมกับถือใบสำคัญการหย่า รวมถึงหนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อสกุลจาก "เจนี่ อัศวเหม" เป็น "เทียนโพธิ์สุวรรณ" ณ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2557
จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในอําเภอเมืองสมุทรปราการ เล่าว่าทั้งสองนั้นได้เดินทางมาที่ว่าการอำเภอตามลำพังตามที่ได้มีการโทรนัดล่วงหน้าไว้ โดยทั้งคู่มีสีหน้าที่เรียบเฉยระหว่างที่ยืนยันกับพนักงานว่าต้องการที่จะหย่ากันและไม่มีการพูดถึงเรื่องทรัพย์สินแต่อย่างใด
ขณะที่ในส่วนของนักการเมืองคนดังนั้น วันวานที่ผ่านมาเจ้าตัวได้ออกมาประกอบพิธีบวงสรวงย้ายศาลพระภูมิภายในบ้านพักย่านปากน้ำด้วยมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสแต่ได้ปฎิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงเรื่องดังกล่าว
อนึ่งทั้งสองนั้นได้จดทะเบียนแต่งงานกันเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2556 ซึ่งหากนับรวมระยะเวลาการครองคู่แล้ว ทั้งคู่ใช้ชีวิตร่วมกันในฐานะสามี-ภรรยากันไม่ถึง 1 ปีแต่อย่างใด
ขณะที่ความเคลื่อนไหวอื่นๆ ก่อนที่นักแสดงสาวจะออกมาโชว์ใบหย่านั้น ก็เป็นทางด้านของนักแสดงหญิง "เจสุดา ปานโต" ที่ได้ออกมาเปิดเผยว่าทางด้านของเจนี่นั้นได้เดินทางไปเมืองนอกเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยเที่ยวบิน TG692 ช่วงเวลา 13.40 ของวันวานหลังก่อนหน้านั้นมีข่าวว่าเจ้าตัวจะจัดแถลงข่าวก่อนออกเดินทางในวันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคมนี้
ทั้งนี้นักแสดงสาวยังบอกด้วยว่าเพื่อนนักแสดงหญิงนั้นมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้นบ้างแล้วแม้จะมีอาการเครียดอยู่ แต่ได้ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดถึงกระแสข่าวทั้งในเรื่องที่ว่าอีกฝ่ายมีการโพสต์ภาพถูกทำร้ายร่างกาย เรื่องรถยนต์หรูมูลค่า 5 ล้านบาทที่หายไป รวมถึงกระแสข่าวในเรื่องของการหย่ากับสามีนักการเมืองแล้วหรือยัง โดยบอกว่าทุกอย่างนั้นรอให้สาวเจนี่เกิดความสบายใจมากกว่านี้และกลับมาแถลงข่าวด้วยตนเองจะดีกว่า
"ตอนนี้มีข่าวเยอะ เขาก็เครียด เครียดจากข่าวมากกว่า แต่เขาก็เป็นคนที่เข้มแข็ง แข็งแรง ก็ให้เวลาเขาไปพักผ่อนหน่อย ให้เขารู้สึกว่าพร้อมที่จะพูดจริงๆ แล้วออกมาพูดเองดีกว่า คือเจนไม่คุยอะไรเรื่องนี้ดีกว่า เพราะไม่รู้จะรื้อฟื้นมันไปทำไม มันผ่านไปแล้วก็ให้ผ่านไป เขาคงเล่าให้หลายๆ คนฟังมาพอแล้ว เจนก็ไม่อยากจะถามแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น ก็มีหน้าที่ให้กำลังใจกันไป"
"เชื่อไหมว่าในกลุ่มไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้กันเลย เพราะคุยไปก็เท่านั้น คุยไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรขึ้นมา เราอยู่ตรงนี้อยู่แล้ว ซัปพอร์ตกันดีกว่า อย่าไปรื้อฟื้น หาข้อมูลว่าใครผิดใครถูก มันเกิดอะไรขึ้น เหมือนเพื่อนเราก็ขี้เกียจจะพูดแล้ว เราทั้ง 6 คน ก็เลือกที่จะเงียบๆ ไม่พูดอะไรดีกว่า ถ้าเพื่อนต้องการอยากให้ช่วยซัปพอร์ตส่วนไหน เราก็จะช่วยส่วนนั้นดีกว่า"
ส่วนกรณีที่เกี่ยวกับข้อความการสนทนากันของ 2 สามีระหว่าง "ภูริ หิรัญพฤกษ์" สามีของ "แอน อลิชา หิรัญพฤกษ์" กับ “อาท ศรา จุฑารัตนกุล” สามี “อ้อม พิยดา จุฑารัตนกุล” ที่มีการพูดถึงเรื่องราวของนักแสดงหญิงกับสามีนักการเมืองผ่านทางไลน์และถูกแคปเจอร์ภาพออกมากระทั่งกลายเป็นที่วิจารณ์อย่างมากนั้น วันวานที่ผ่านมาทั้งคู่ก็ได้ออกมายอมรับและขอโทษในสิ่งที่ทำไปแล้ว
โดยทางฟากของหนุ่มภูรินั้นได้โพสต์ข้อความขอโทษผ่านอินสตาแกรมของตนเอง โดยยอมรับว่าสิ่งที่ทำไปนั้นไม่เหมาะสม ซึ่งตนก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก พร้อมกันนี้ เจ้าตัวก็ยังได้กราบขอโทษไปยังทุกๆ คน โดยเฉพาะบุคคลรู้จักที่ถูกตนพาดพิงไปถึง และยืนยันว่าต่อไปจะมีสติและคิดอะไรให้รอบคอบกว่านี้ ส่วนทางด้านของหนุ่มอาทนั้นเจ้าตัวได้จัดแถลงข่าวพร้อมกับภรรยาโดยได้ยกมือขอโทษยอมรับผิด พร้อมเผยเครียดมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น ยืนยันไม่ได้ตั้งใจที่จะดูหมิ่นใคร และตนขอน้อมรับผิดคนเดียว
"วันนี้ผมขอมากล่าวในสิ่งที่ผมได้ทำลงไปนะครับ การใช้คำพูดของผมในสื่อออนไลน์ทั้งหลายที่ๆ ได้ใช้คำพูดไม่เหมาะสมเกี่ยวกับเรื่องของครอบครัวของคุณเจนี่และของพี่เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ ผมรู้สึกว่าวันนี้ผมต้องขอมาแสดงความเสียใจในสิ่งที่ผมทำไป ขอแสดงความขอโทษ (ยกมือไหว้) สำนึกผิด และขอรับผิดในสิ่งที่ผมทำไป และรู้สึกว่าสิ่งที่ผมทำไปนั้นมันไม่ถูกต้องและไม่แฟร์กับทุกคน ก็ต้องขอโทษในสิ่งที่พูดไปแล้วมันไม่สุภาพ"
"และอีกอย่างหนึ่งก็ไร้การตรึกตรอง ก็มีผลกระทบค่อนข้างเยอะครับ ผมก็รู้สึกเสียใจ เพราะผลกระทบออกมาเป็นวงกว้างมาก ทั้งทางฝ่ายของคุณเจนี่ พี่เอ๋และแฟนคลับต่างๆ ก็ไม่คิดว่าคำพูดคำเดียวของผมจะทำให้ทุกคนต้องรู้สึกเจ็บใจขนาดนั้น ก็ต้องกราบขอโทษ(ยกมือไหว้)"
นอกจากนี้เจ้าตัวยังได้บอกด้วยว่าที่ผ่านมาพยายามที่จะติดต่อทั้งคู่เพื่อขอโทษในสิ่งที่ทำลงไปทว่าก็ไม่สามารถติดต่อได้แต่อย่างใด